ในยุคแรกสุด SR20DE ถูกวางลงใน Bluebird รหัสตัวถัง U12 ในเดือนต.ค. ปี 1989 เครื่องรุ่นแรกๆนี้จะมีอัตราส่วนกำลังอัด 9.5ต่อ1 และทำแรงม้าได้ 140 ตัว และไม่นานต่อมาพอขยับมาเป็นตัวถัง U13 ก็มีการปรับปรุงโปรแกรมในกล่อง ECU เล็กน้อย แต่คงอัตราส่วนกำลังอัดไว้เท่าเดิม เค้นแรงม้ามาเพิ่มได้อีกนิดหน่อยเป็น 145 ตัว
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง
สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบ แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเครื่องตัวนี้ไปอยู่ใน Primera ตัวถัง P10 ก็จะได้เครื่องยนต์ที่มีลูกสูบแบบหัวเรียบ ส่งผลให้อัตราส่วนกำลังอัดเพิ่มขึ้นไปเป็น 10.0ต่อ 1 และเรียกแรงม้าออกมาใช้งานได้ 150 ตัว ซึ่งถือว่าเป็น SR20DE ตระกูลขับหน้าที่มีแรงม้าและแรงบิดให้ใช้เยอะที่สุด แล้วจะดูได้อย่างไรว่าเป็นเครื่อง Primera รุ่นนี้ ก็ลองดูตัวเลขที่ปั๊มไว้ตรงฝาสูบ ด้านข้าง (อยู่บริเวณใต้จานจ่าย) จะมีรหัสเขียนไว้ว่า 53J 5R ถ้าเป็นตัวเลขนี้ล่ะก็ได้เครื่อง 150 ม้ามาแน่นอนครับ จริงๆก็อาจจะมีโค้ดอื่น แต่เลขนี้ชัวร์สุดเพราะมันอยู่ในเครื่องของรถผมเอง
เครื่อง SR20DE และรวมไปถึง SR18DE ด้วย ในยุคแรกนี้เมื่อมองฝาเครื่องจากด้านบนเราจะเห็นได้ว่าพอร์ทฝั่งไอดีอยู่สูงกว่าพอร์ทไอเสียมาก ยิ่งมองจากด้านข้างยิ่งจะเห็นได้ชัด พวกฝรั่งนักเลง SR เขาจึงมีศัพท์เรียกเครื่องพวกนี้ว่า High Port หมายถึง พอร์ทฝั่งไอดีที่อยู่สูง วิธีสังเกตง่ายๆคือถ้าคุณเปิดฝากระโปรงมองลงมาที่เครื่อง คุณจะเห็นหัวฉีด 4 หัวได้ชัดเจน แต่ลิ้นคันเร่งจะแทบมองไม่เห็นเพราะถูกกดลงไปอยู่ข้างล่าง ท่อไอดีจะวนล่างขึ้นบน สำหรับในประเทศไทย เครื่อง SR20 High Port นี้พบได้ใน Nissan Bluebird SSS ที่นิสสันนำเข้ามาขายเอง และนอกจากนี้ก็หาได้ง่ายตามเซียงกงทั่วไป
จนประมาณปี 1995 เป็นต้นมา เมื่อ Primera เปลี่ยนตัวถังใหม่เป็น P11 จึงมีการปรับรายละเอียดของเครื่อง SR20DE อีกครั้ง โดยในครั้งนี้เนื่องจากโดนเล่นงานเรื่องมลภาวะที่ไม่ผ่านมาตรการใหม่ของหลายประเทศ จึงได้มีการดีไซน์ฝาสูบเสียใหม่อันส่งผลให้พอร์ทฝั่งไอดีอยู่ในตำแหน่งที่เตี้ยลงกว่าเดิม และมีองศาหักงอของช่องทางอากาศเข้ามากกว่าเครื่องรุ่นเดิม ทำให้การไหลเข้าของไอดี ไม่ลื่นเท่าเก่า (นี่อาจเป็นสาเหตุว่าทำไมบางคนถึงชอบเครื่องรุ่นเก่ามากกว่า ทำไงได้ล่ะครับ ถ้าไม่ปรับปรุงก็มลภาวะเกิน ขายไม่ได้)
เครื่องล็อตหลังๆนี้จึงถูกเรียกว่าเครื่อง Low Port สังเกตได้จากฝาครอบวาล์วที่จะมีเหลี่ยมสันมากกว่ารุ่นก่อนๆ และกระเปาะท่อไอดีอยู่ตำแหน่งสูงขึ้นมาเห็นชัดเจน ไอดีวนลงล่าง และมองไม่เห็นหัวฉีดได้ง่ายเหมือนเครื่องบล็อคก่อนๆ
ทีนี้ พอดี ตอนไปมีตติ้งที่ Autocar ก็มีรถให้่ถ่ายมาเป็นแบบด้วย ลองมาเล่นเกมจับผิดภาพแบบง่ายๆกันดู ผมคิดว่าพวกคุณ
ไม่มีปัญหาในการเดาแน่ครับว่าอันไหน High Port หรือ Low Port จากภาพสองภาพข้างล่างนี่ (เครื่องในภาพเค้าจะมีการใส่
อุปกรณ์เพิ่มเช่นสายหัวเทียนหรือเฮดเดอร์อะไรทำนองนี้ ไม่ต้องตกใจนะครับ ดูแค่ลักษณะหลักๆของตัวเครื่องพอ)
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง
สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง
สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบ ส่วนแรงม้าและบิดยังคงเท่าเดิม แต่ในเวอร์ชั่นที่ส่งขายนอกประเทศญี่ปุ่นบางรุ่นมีแรงม้าลดลงจากเดิม อย่างเช่นรถ Primera P11 ที่สยามกลการสั่งเข้ามาขายในไทยช่วงประมาณปี 1997 นั้น เป็นรุ่น 130 แรงม้า แค็มชาฟท์ของเครื่อง Low Port นี้จะมีลูกเบี้ยวไอดีองศาต่ำกว่าเครื่อง High Port (ลดจาก 248 องศา เหลือเพียง 232) ดังนั้นถ้าใครใช้เครื่องตัวนี้แล้วอยากแรง จะลองหาแค็ม High Port มาใส่ก็ได้นะครับ ที่อเมริกาเขาลองกันได้ม้าเพิ่ม 6-8ตัว
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง
สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบ นอกจากนี้ ในช่วงท้ายของชีวิต SR20 (ราวปี 2000 เป็นต้นมา) ก็ได้รับการปรับปรุงให้ใช้กระเดื่องลูกปืนเข็ม Roller Rocker มาช่วยลดความเสียดทานในระบบขับเคลื่อนแค็มชาฟท์อีกทอดหนึ่ง แต่เครื่องรุ่นนี้จะมีการเปลี่ยนข้อเหวี่ยงจากเดิมที่มี Counter weight 8 ตับ มาเป็นแบบ 4 ตับ โดยมีจุดประสงค์ในเรื่องลดแรงต้านในการหมุนลง และประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นเมื่อใช้งานในเมือง วิศวกรยอมทำทุกอย่างเพื่อต่ออายุให้เครื่อง SR20 อยู่ไปได้นานที่สุดแม้วันมันจะต้องยอมเสียหลายอย่างเพื่อให้ผ่านการตรวจมลภาวะ ที่อเมริกา แต่ก็อยู่มาได้จนถึงแค่ปี 2002 ก็ถูกแทนที่โดยเครื่อง QG และ QR ส่วนที่ญี่ปุ่นนั้น SR ทยอยโดนปลดระวางและแทนที่ด้วยเครื่องรุ่นใหม่กว่าอย่าง QG18 และ QR20 มาก่อนหน้านี้แล้ว