Nitro OBD2 กล่องเพิ่มแรงม้าตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง
สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบNitro OBD2 คืออะไร? Nitro OBD2 คือกล่องเพิ่มประสิทธิภาพของรถง่ายๆเพียงแค่เสียบเข้ากับช่อง OBD2 ในรถยนต์เท่านั้น สามารถใช้งานกับรถที่ผลิตตั้งแต่ปี 1996 ขึ้นไป โดยทำงานผ่าน OBD2 Protocol เพื่อไปทำงการ Remap ECU ของรถยนต์(Chip Tuning) โดยหลังจากติดตั้งและใช้งานประมาณ 200 กิโลเมตร Nitro OBD2 จะทำการประมวลผลลักษณะการขับขี่ของผู้ใช้รถแล้วทำการ Remap กล่อง ECU ของรถยนต์เพื่อปรับจูนเครื่องยนต์ให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด
Nitro OBD2 มีหลักการทำงานอย่างไร ? Nitro OBD2 จะทำการบันทึกลักษณะนิสัยการขับขี่ของเจ้าของรถ จากนั้นจะทำการ Remap ECU เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ให้มากขึ้นและสอดคล้องกับนิสัยการขับขี่ของผู้ใช้งาน
์Nitro OBD2 ปรับจูนรถด้วยวิธีการใด ? เมื่อทำการติดตั้ง Nitro OBD2 เข้ากับรถยนต์แล้ว ตัวกล่องจะรับข้อมูลต่างๆจากกล่อง ECU เดิมของรถยนต์หลังจากนั้นจะทำการปรับจูนแรงดันบูสต์(Boost Pressure), ปริมาณน้ำมัน, จังหวะการฉีดและแรงดัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์
Nitro OBD2 จะไม่ปรับจูนเครื่องยนต์จนเกินกว่าขีดจำกัดของที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ ซึ่งปกติแล้วทางผู้ผลิตจะกำหนดค่าสูงสุดที่ยอมรับได้ในการสร้างเครื่องยนต์อยู่แล้ว Nitro OBD2 เพียงไปปรับจูนเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานอยู่ในช่วงที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดเท่านั้น และจะไม่ส่งผลลบต่อเครื่องยนต์หรือทำให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหาย
Nitro OBD2 จะไม่ปรับเปลี่ยนค่าต่างๆใน ECU อย่างถาวร เพราะเมื่อถอดออกจากช่อง OBD2 ค่าต่างๆที่ถูกกำหนดไว้ใหม่ จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม
Nitro OBD2 ต่างกับการ Remapping ECU หรือไม่? Nitro OBD2 ทำงานอยู่บนพื้นฐานการเปลี่ยนแปลงสัญญาณจาก ECU โดยการเปลี่ยน Map การจ่ายน้ำมัน สิ่งที่แตกต่างระหว่าง Nitro OBD2 และการ Remap ECU ทั่วๆไปคือ Nitro OBD2 สามารถถอดการติดตั้งได้ง่ายกว่า เพราะหลังจากการถอด Nitro OBD2 ออกจากรถ ค่าต่างๆใน ECU เดิมก็จะกลับคืนมาทันที
วิธีการติดตั้ง 1. บิดกุญแจออกจากตัวรถ
2. เสียบกล่อง Nitro OBD2 เข้ากับช่อง OBD2 ที่ตัวรถ
3. เสียบกุญแจรถแล้วบิดกุญแจไปหนึ่งจังหวะ โดยไม่ต้องสตาร์ทรถ
4. กด Reset ที่กล่อง Nitro OBD2 ค้างไว้ 5 วินาทีแล้วปล่อย รอประมาณ 1 นาที ตัวกล่อง Nitro OBD2 จะเชื่อมต่อกับ ECU อัตโนมัติ
5. บิดกุญแจสตาร์ทรถ
6. Nitro OBD2 จะเริ่มจดจำลักษณะการขับขี่เป็นระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร หลังจากนั้นจะทำการปรับจูนเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับรถมากที่สุด
แหล่งที่มา
มาจากที่นี่
