ข่าวประชาสัมพันธ์

มาร่วมเป็นกำลังใจให้เว็บด้วยการสมัครสมาชิกวีไอพี ~~ เลือกปีที่ท่านต้องการได้โดยไม่ต้องเรียงปี ~~ ปีละ 350 บาท สมัคร 2 ปีลดเหลือ 600 บาท ~~ มีไลน์กลุ่ม VIP จำนวนหลายร้อยท่าน เอาไว้ปรึกษางานซ่อม ~~ เข้าถึงข้อมูลด้านเทคนิค ข้อมูลเชิงลึกมากมาย.....


ผู้เขียน หัวข้อ: เป็นช่างแอร์ ด้วยความจำเป็น เลยต้องจำยอมเป็นช่างแอร์ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป...  (อ่าน 5579 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
   จั่วหัวเรื่องไว้อ่านแล้วไม่รู้คิดกันไปไกลหรือเปล่า... แต่คนจั่วหัวเรื่อง ทำไปไกลกว่าที่คิด

    ด้วยเหตุที่...ต้องใช้รถยนต์เป็นประจำสลับกับมอเตอร์ไซค์ บางครั้งบางคราเมื่อจับรถยนต์ เปิดแอร์
ปรากฏว่ามีแต่ลม... ไม่มีความเย็น เอ้าเป็นที่อะไรหนอ

   แต่ว่าอาการนี้ ไม่น่าจะหนักหนาสาหัส (คิดในใจดอกหวา..) เพราะว่าอะไร ก็เมื่อเช้าขับใช้งานอยู่
ก็ยังเย็นอยู่เลย

     ไล่เช็คอุปกรณ์จากวงจร จนสุดปัญญาแล้วล่ะ เห็นทีจะต้องพึ่งช่างแอร์รถยนต์

    ก็นำรถเข้าไปเช็คที่ร้านแอร์  มีเถ้าแก่ออกมารับรถ พร้อมลูกน้องอีกสองคน ขยับรถเข้าไปที่หน้าร้าน
ใช้เกจจับโน่นทำนี่... สุดท้ายบอกคอมหลวมต้องเปลี่ยน พูดแบบเอาเชือกผูกคอกันเลย

     สุดท้ายเปลี่ยนคอมมือสองลูกเล็กกว่าเดิมให้ ถอดเอาของเราไป แปลงหัวสายกันใหญ่ เนื่องจาก
ไม่ได้ขนาดกัน  งานนั้นโดนไปเกือบหกพัน เข็ดเลย ไม่กล้าเข้าร้านอีกแล้ว
   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 กุมภาพันธ์ 2562, 13:57:35 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
    เวลาผ่านไปสามปีพอดี  อาการแอร์ไม่เย็น คอมไม่ทำงาน มีแต่ลม กลับมาอีกแล้ว
เลยไล่เช็คอุปกรณ์เบื้องต้น ปกติหมด ไม่ว่าจะเป็นฟิวส์, รีเลย์คอมแอร์, หรือแม้แต่การจั๊ม
ตรงให้คอมแอร์ทำงาน มันก็ทำงาน แต่ไม่เย็น เลยต้องหยุดใช้รถคันนี้ หรือบางครั้งต้องใช้
ก็ต้องลดกระจกลงนิดหนึ่ง ดีที่เป็นช่วงหน้าหนาว ถ้าหน้าร้อน คงแย่แน่เลย

    มีครั้งหนึ่งใช้รถอีกคันไปงานบวชลูกศิษย์  มีเพื่อครูนั่งไปด้วย เพื่อนครูถามว่าทำไมไม่ใช้รถอีกคัน
บอกไปว่าแอร์ไม่ทำงาน  เพิ่นเลยรับปากว่าจะดูให้(มีวิชาสอนปรับอากาศรถยนต์)  อีกวันนำรถมา
เห็นเงียบๆ เหมือนไม่สนใจ เลยไม่กล้าเอ่ยปาก...

     ที่เล่ามายืดยาวทั้งหมดนี้  นี่ล่ะ... เป็นที่มาของการเป็น ช่างแอร์จำเป็น

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 กุมภาพันธ์ 2562, 15:20:14 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
   เมื่อคิดจะเป็นช่าง ไม่ว่าช่างอะไรก็แล้วแต่ สิ่งแรกที่ต้องมี นอกจากความรู้ก็คือ
 - เครื่องมือช่างแอร์ มีอะไรกันบ้าง

1. เกจวัดแรงดันน้ำยาแอร์ ความยาวสาย 60 นิ้ว
Manifold Gauge R-32 , 410a , 22 , 134a
เกจ์คู่สำหรับชาร์จน้ำยาพร้อมสาย 36 นิ้ว 3 เส้น (R32,R410a,R22a,R134a) มีตาแมวดูน้ำยา (มียางกันกระแทก)

   เกจแมนิโฟลด์ (manifold gauge) คือเครื่องมือเฉพาะสำหรับช่างเครื่องทำความเย็น ใช้สำหรับการบริการและการตรวจวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบ เช่น การทำสุญญากาศ การเติมสารทำความเย็น การเติมสารหล่อลื่น การตรวจวัดความดัน การหาอุณหภูมิระเหยและอุณหภูมิความแน่นของสารทำความเย็นในระบบ
ชุดเกจวัดน้ำยาแอร์ พร้อมสายชาร์จน้ำยาแอร์ 3 เส้น ทนแรงดันสูง

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


   เวลาซื้อควรเลือกเกจที่มีสเกลแบ่งเป็นช่วงสี จะได้สังเกตได้ง่ายว่าอยู่ในย่านที่ต้องการไหม
เช่นด้านแรงดันต่ำ ระบบแอร์ที่ดีจะอยู่ระหว่าง 35-40 PSI  ด้านแรงดันสูงหรือว่า HI จะประมาณ 200-250 PSI

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


   ถามว่าแบบด้านล่างนี้ใช้ได้ไหม ใช้ได้แต่ว่าอาจจะดูยากไปนิดหนึ่ง 5 5 5

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 กุมภาพันธ์ 2562, 14:19:34 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai


ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
    ท่านใดที่อยากเป็นช่างแอร์  แต่ว่างบน้อย (ไม่รู้จะบอกยังไง ก็คนไม่มี ง เงิน)
ก็ควรจะเริ่มจากชุดเกจวัดนี้ก่อนแระ  เหมือนคุณหมอก็ต้องมีหูฟังประมาณนั้น งบไม่ถึงพัน
ก็มีขายแล้ว ลองไปดูตามห้างใหม่ต่างๆ ดู แล้วคุณจะ...ตัวเบาขึ้นอีกนิด

     ยกตัวอย่างการนำไปใช้งาน
- การตรวจเช็คก็ควรจะไล่เช็ค ฟิวส์ รีเลย์ หน้าคลัทช์คอมแอร์ก่อน ถ้าปกติ
- ถึงมาเช็คแรงดันน้ำยาแอร์ เอาฝั่งเดียวก่อนก็ได้ เช่นฝั่ง Lo

    ถ้าฝั่ง Lo แรงดันต่ำประมาณไม่ถึง 20 PSI นี่ สวิทช์แรงดันของคอมแอร์ ก็จะไม่ต่อให้
คอมทำงาน  ปัญหาคือมีการรั่วแบบซึมในระบบอาจจะซึมแบบเล็กๆ น้อยๆ ใช้เวลาเป็นปีๆ ถ้าเจ้าของ
เค้าต้องการแบบให้ใช้ชั่วคราวแก้ขัดไปก่อน เราก็เพียงเติมน้ำยาเข้าระบบ ก็ใช้เพียงเกจกับถังน้ำยาแอร์

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 กุมภาพันธ์ 2562, 14:39:23 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
   เครื่องมือช่างแอร์ชิ้นที่ 2 คงไม่พ้น

   2. เครื่องทำสูญญากาศ    Vacuum Pump   

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


       เครื่องทำสุญญากาศ คือเครื่องมือที่ใช้สำหรับดูดอากาศและความชื้นออกจากระบบ
ผ่านเกจแมนิโฟลด์และวาล์วบริการที่ติดตั้งในระบบ ที่ใช้ทั่วไปมี 2 แบบ คือ   

1. เครื่องทำสุญญากาศแบบมาตรฐานหรือชนิดแวคชั้นเดียว (standard vacuum pump-single stage) ใช้สำหรับเครื่องทำความเย็นขนาดเล็กทั่วไป ทำสุญญากาศได้ไม่ดีนัก จึงควรทำสุญญากาศโดยใช้วิธีทำซ้ำหลายครั้ง คือ ทำสุญญากาศจนความดันลดลงต่ำสุดเท่าที่จะสามารถทำได้ เติมสารทำความเย็นเข้าในระบบให้ได้ความดันประมาณ 0 psig หลังจากนั้นให้ทำสุญญากาศใหม่สลับจนครบ 3 ครั้งจึงจะได้สุญญากาศที่สมบูรณ์ เราเรียกการทำสุญญากาศวิธีนี้ว่า triple evacuating method   

2. เครื่องทำสุญญากาศกำลังสูงหรือชนิดแวคสองชั้น (high  vacuum pump-two stage) คือเครื่องที่ทำสุญญากาศได้ต่ำมาก (deep vacuum) คือทำสุญญากาศได้ถึง 500 ไมครอน (0.5 มม.ปรอท) หรือต่ำกว่าซึ่งต่ำพอที่จะทำให้ความชื้นในระบบเดือดกลายเป็นไอและถูกดูดออกจากระบบได้ จึงสามารถทำสุญญากาศได้โดยวิธีการทำเพียงครั้งเดียว (deep vacuum method)   

ข้อสังเกต

1. ขณะเดินเครื่องทำสุญญากาศ ถ้าเข็มชี้ที่เกจสุญญากาศลดค่าจาก 0 นิ้วปรอท  ถึง 30 นิ้วปรอททันที แสดงว่ามีการอุดตันที่สายน้ำยาหรือวาล์วบริการในระบบยังปิดอยู่ หรือกรณีที่วาล์วบริการในระบบเป็นชนิดวาล์วลูกศร อาจจะเกิดจาดการต่อสายน้ำยาสลับด้าน ให้ทำการตรวจสอบก่อน ตรงกันข้ามถ้าเดินเครื่องทำสุญญากาศเป็นเวลานาน แต่ไม่สามารถดึงความดันในระบบให้เป็นสุญญากาศได้ แสดงว่าอาจมีการรั่วที่ส่วนหนึ่งส่วนใด ให้ทำการตรวจหารอยรั่วก่อน   

2. ในกรณีที่ในระบบมีความชื้นสูง ขณะทำสุญญากาศควรทำการอบหรือให้ความร้อนกับระบบโดยใช้หลอดไฟหรือขดลวดความร้อนช่วยเพิ่มอุณหภูมิเพื่อไล่ความชื้นในระบบ ซึ่งจะทำให้เราใช้เวลาในการทำสุญญากาศน้อยลง แต่ห้ามใช้เปลวไฟจากหัวเชื่อมเป็นตัวช่วยเพิ่มอุณหภูมิ

เพิ่มเติม
ขอบคุณที่มา : การทำสุญญากาศ และการตรวจหารอยรั่ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 กันยายน 2562, 07:21:11 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
   ระหว่างไปสืบค้นข้อมูล ไปเจอกระทู้นี้ เผ็ดจริงพับผ่า...  ลองอ่านดูเล่นๆ นะ

อ้างถึง
ผมเจอมาสามคันแล้วครับ รถคนรู้จักสองคัน แล้วรถบ้านแฟนอีกหนึ่งคัน แอร์พังหลังจากที่ซ่อมกับร้านนี้มา ด้วยอาการเดียวกันเลยคือคอมน๊อคน้ำมันคอมดำ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ระบบแอร์ก็ปกติทุกอย่าง มิหนำซ้ำรถบางคันอายุไม่ถึงสามปีระบบแอร์จากโรงงานไม่เคยแตะต้องอะไรเลย พอไปล้างตู้แอร์ที่ร้านนี้ก็ได้เรื่องทันที สาเหตุมาจากร้านแอร์มาตรฐานต่ำไม่ยอมล้างทำความสะอาดสายและเกจ์ชาร์ทน้ำยา เอาไปซ่อมรถคันที่คอมน๊อคมาพอซ่อมเสร็จก็เอาไปใช้กับรถคันอื่นต่อทันทีโดยไม่ยอมล้างทำความสะอาด พวกเศษอลูมิเนียมของคอมแอร์ที่น๊อคมา + น้ำมันคอมเก่าที่ดำๆจากคันก่อนหน้านี้มันก็ค้างอยู่ในสายและเกจ์ พอเอาไปต่อกับรถคันอื่นต่อก็เท่ากับว่าแพร่เชื้อโรคให้คันอื่นต่อไม่รู้จักจบจักสิ้น

กะอีแค่น้ำยาล้างระบบราคาแค่ 50-60 บาท ขวดหนึ่งมีปริมาณ 500cc ถ้าล้างเกจ์และสายครั้งหนึ่งคงใช้น้ำยาไม่เกิน 50cc ถ้าจะยอมเจียดเงินกำไรซักนิดแค่นี้ร้านมันคงไม่เจ๊งหรอกครับ ของแบบนี้ร้านที่มีมาตรฐานหน่อยเค้าล้างกันเป็นเรื่องปกติ ยิ่งถ้าร้านใหญ่ๆเค้าจะแยกประเภทเกจ์ไว้เลย เกจ์อันนี้ใช้กับระบบ R12 ส่วนเกจ์อันนี้ใช้กับระบบ R134a เพื่อลดความเสี่ยงของการเจือปนของน้ำมันคอมที่ต่างชนิดกัน คือถ้าจะใช้ร่วมกันก็ต้องให้สะอาดถึงจะใช้ได้ ที่สำคัญที่สุดถ้าซ่อมรถที่ระบบน๊อคหรือน้ำมันคอมดำมา ยังไงก็ต้องล้างให้สะอาดทุกครั้ง

มิหนำซ้ำช่างบางร้านยังฉลาดกว่าวิศวะกรชอบดัดแปลงเครื่องมือใช้งานผิดประเภท ทั้งๆที่เครื่องมือตรงประเภทมันก็มีขายแต่กลับไม่ยอมใช้ ยกตัวอย่างก็เช่นเอาคอมแอร์เก่าคล้องมอเตอร์ปั่นเป็นเครื่องแว๊คคั่ม ไม่งั้นก็เอาคอมแอร์เก่าตู้เย็นมาต่อเป็นเครื่องแว๊คคั่มซะเลย ซึ่งคอมแอร์มันมีไว้อัดอากาศไม่ใช่ดูดอากาศ ที่สำคัญที่สุดคอมแอร์มันไม่มีวาล์วกันน้ำมันคอมไหลย้อนเหมือนเครื่องแว๊คคั่มโดยเฉพาะ (คอมแอร์เก่าที่เอามาดัดแปลงเป็นเครื่องแว๊คมันก็ต้องมีน้ำมันไว้หล่อลื่นลูกสูบครับ ถ้าไม่มีน้ำมันหล่อลื่นมันก็พัง) จึงทำให้ขณะที่แว๊คคั่มอยู่นั้นน้ำมันหล่อลื่นบางส่วนจะหลุดเข้าไปผสมกันในระบบแอร์รถเรา ที่สำคัญระหว่างที่แว๊คถ้ามีใครเผลอไปทำปลั๊กไฟหลุด ระบบแอร์รถที่เป็นสูญญากาศมันจะดูดน้ำมันหล่อลื่นเข้าไปผสมกันหมด จนต้องล้างระบบใหม่ ในขณะที่ถ้าเป็นเครื่องแว๊คคั่มโดยตรงจะไม่มีปัญหานี้เพราะเค้ามีวาล์วกันกลับ

สำหรับผมช่างจำพวกนี้ถือเป็นช่างกระจอกครับ ต่อให้เคยเป็นช่างฝีมือดีมาจากไหนแต่ถ้าเครื่องมือห่วยก็คงคิดแล้วคิดอีกเหมือนกัน เพราะคิดง่ายๆขนาดเครื่องมือทำมาหากินของมันเองมันยังไม่ลงทุนซื้อเลย แล้วงานซ่อมมันจะออกมาดีตามมั้ยเนี่ย ถ้าจะอ้างว่าเครื่องแว๊คคั่มระบบโดยตรงแบบนี้ใช้ไม่ดีบ้าง ใช้แล้วสู้ของทำเองไม่ได้ ถ้าอยากได้ของดีๆมันก็มีขายครับเครื่องแว๊คคั่มแบบ 2 Stage ไง ราคาตัวละหมื่นกว่าบาทขึ้นไป เครื่องแบบนี้แรงดูดมหาศาลแว๊คทิ้งไว้ราวๆ 10 นาทีความชื้นก็ไม่เหลือแล้ว ถ้าเทียบกับเครื่องแบบ 1 Stage ขนาด 35 ลิตรที่ราคาพันกว่าบาท คุณภาพมันก็ต่างกันฟ้ากับเหวแน่นอน แต่ช่างร้านไหนหละจะกล้าลงทุนซื้อของแพงแบบนี้ ลำพังเครื่อง 1 Stage 35 ลิตร ถ้าระบบไม่ใหญ่มากแว๊คทิ้งไว้ไม่ต่ำกว่า 45 นาทีมันก็พอไหวครับ ถ้าแต่เป็นประเภทแว๊คทิ้งไว้ไม่เกิน 10 นาทีถอดปลั๊ก ผมบอกได้เลยว่าอนาคตชิปหายแน่นอน

  มีต่ออีกนิด...
อ้างถึง
ไหนๆมีคนขุดกระทู้ขึ้นมาแล้ว อัพเดทนิดหนึ่ง ไอ้ร้านที่ผมด่ามันไปในกระทู้นี้ ล่าสุดมันเปลี่ยนมาใช้เครื่องแว๊คคั่มโดยเฉพาะเหมือนชาวบ้านชาวช่องเค้าแล้วครับ ถึงแม้จะใช้เครื่องเล็ก 35 ลิตร แต่ก็นับเป็นนิมิตหมายที่ดี จะเป็นช่างที่ดีได้ก็ต้องลงทุนในเรื่องเครื่องมือทำมาหากินดีๆบ้าง ไม่ใช่มาดัดแปลงใช้ของผิดประเภทมั่วซั่ว เอารถลูกค้าเป็นหนูลองยาแบบนี้ และการที่เวลาเอาเกจ์ไปซ่อมรถคันไหนที่คอมน๊อคมาแล้วไม่ยอมล้าง แล้วเอาไปใช้ต่อกับรถคันอื่นต่ออีก มันก็เหมือนกับการแพร่เชื้อร้ายให้คนอื่นที่เค้าไม่รู้เรื่องด้วย แบบนี้บาปนะครับ ทุกอาชีพมันก็ต้องมีจรรยาบรรใรวิชาชีพ ถึงวันนี้ลูกค้าจะไม่รู้ แต่ซักวันเดี๋ยวเค้าก็ต้องรู้อยู่ดี

   เอามาจากที่นี่เด้อ
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
  เครื่องมือตัวหลักๆ หนักๆ ก็หมดไปแล้ว ทีนี้มาอุปกรณ์ช่วยงานกัน

- เครื่องวัดอุณหภูมิ นั่นเอง
สนใจไปดูกันได้  ที่นี่...

  ราคาพอฟังได้ 450 บาท มีหัววัดสายยาวเกือบ 2 เมตร

รายละเอียดสินค้า
เครื่องวัดอุณหภูมิ และความชื้น แบบดิจิตอล ยี่ห้อ Elitech รุ่น DT-3
(Digital Thermometer and Hygrometer ยี่ห้อ Elitech รุ่น DT-3)

- สามารถวัดอุณหภูมิ ได้ 2 ค่า คือ
1. Indoor คือ วัดอุณหภูมิภายใน (-30 ถึง 50 องศาเซลเซียส)
2. Outdoor คือ วัดอุณหภูมิภายนอก จากสาย probe ความยาว 190 เซนติเมตร (-50 ถึง 70 องศาเซลเซียส)

- วัดค่าความชื้นสัมพัทธ์ (20%RH ถึง 99%RH)

สามารถบันทึกค่า สูงสุด (MAX) และ ค่าต่ำสุด (MIN) ของอุณหภูมิได้

ฝาหลัง สามารถแขวน หรือ แปะติดกับโลหะ (ติดด้วยแม่แหล็ก)
ใช้แบตเตอรี่ ขนาด AAA อายุการใช้งานยาวนาน (ดีกว่าใช้แบตกระดุม)

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


   หรือจะเป็นแบบสองแถวแบบนี้ดีกว่า

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


  ไม่บอกขนาดตัวเลขเลยว่าสูงเท่าไหร่

  แอดไลน์ สั่งตัวบนไปแล้ว ราคารวมส่ง 500 บาท
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 กันยายน 2562, 07:26:36 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
 - เทอร์โมมิเตอร์ดิจิตอล รุ่นนี้ชัดเจนดี ไม่มีเงาดำทางด้านหลัง ทำให้อ่านง่าย แต่หาซื้อยาก 5 5 5

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 กันยายน 2562, 07:28:17 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai