ข่าวประชาสัมพันธ์

มาร่วมเป็นกำลังใจให้เว็บด้วยการสมัครสมาชิกวีไอพี ~~ เลือกปีที่ท่านต้องการได้โดยไม่ต้องเรียงปี ~~ ปีละ 350 บาท สมัคร 2 ปีลดเหลือ 600 บาท ~~ มีไลน์กลุ่ม VIP จำนวนหลายร้อยท่าน เอาไว้ปรึกษางานซ่อม ~~ เข้าถึงข้อมูลด้านเทคนิค ข้อมูลเชิงลึกมากมาย.....


ผู้เขียน หัวข้อ: ปัญหา... รถเก๋งโตโยต้า โซลูน่า สตาร์ทไม่ติด เจ้าของไม่เมา แต่รถเมา (เมาไม่กลับ)  (อ่าน 8559 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
   5 5 5  จั่วหัวให้เร้าใจหน่อย

     คนรู้จักกันและรู้จักว่าเราเป็นช่างยนต์ แต่ไม่ได้ไปเปิดร้านซ่อมหรือรับงานซ่อมหรอก เป็นครูช่างยนต์ครับ
วันนี้ช่วงสายๆ มาตามถึงบ้านว่ารถที่ว่า สตาร์ทยังไงก็ไม่ติด ตั้งแต่เมื่อคืน จนต้องจอดรถทิ้งไว้ มาสายๆ มาสตาร์ทตต่อ
จนแบตอ่อนก็สตาร์ทไม่ติด  โทรตามเพื่อนให้นำรถมาพ่วงแบตก็ยังไม่ติดอีก  มันเป็นอะไรว่ะ

     ไปตามพรรคพวกกันที่เป็นช่างยนต์สังสรรค์กันตั้งแต่เมื่อคืน ไม่เจอใคร  คนที่มาพ่วงแบตให้นึกถึงนาย Auto Man
เลยพากันมาตามที่บ้าน

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ

   (ภาพยืม : ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ลืมอีกแล้ว)
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
   ได้รับแจ้งเบื้องต้นว่า เดิมรถคันนี้ใช้แก๊ส แต่ตอนหลังมารู้สึกว่าจะมีอาการวิ่งไม่ค่อยออก และประกอบกับ
ราคาน้ำมันไม่มหาโหดเหมือนเมื่อก่อน ก็เลยใช้เป็นน้ำมันอย่างเดียว (รถติดแก๊สระบบดูด มีออโต้สวิทช์)
มาเมื่อคืน ขับรถมาได้และจอดรถสังสรรค์กับพรรคพวก พอเลิกรากัน จะขับรถกลับบ้าน รถดันสตาร์ทยังไง
ก็ไม่ติด  สงกะสัยเป็นที่ระบบน้ำมันนี่แหละ (วิเคราะห์สั่งการยิ่งกว่าช่างอีกนะ)

    พอไปถึงที่เกิดเหตุ  พบรถโตโยต้า โซลูน่า รุ่นหยดน้ำ จอดชิดขอบทางด้านซ้าย  เปิดฝากระโปรงหน้า
รออยู่  ในระหว่างที่ขี่รถไป (เขามารับถึงที่ -เตรียมกล่องประแจและมิเตอร์ไปด้วย) นึกในใจว่า การที่รถไม่ติด
ก็มีหลักๆ อยู่ 2 อย่าง (ที่จริงมี 3) คือ ไฟ กับน้ำมัน

    วิธีการที่เช็คง่ายที่สุดคือ  การเช็คไฟ  (ไฟจุดระเบิด - เช็คประกายไฟที่หัวเทียน)

เช็คง่ายๆ ทำได้โดยดึงปลั๊กหัวเทียน (ปลั๊กค่อนข้างยาวและลึก - ต้องออกแรงดึงพอควร) และใช้ไขควงแหย่เข้าไปที่รูหัวเทียน
และให้ด้ามไขควง เกือบชิดฝาครอบวาล์ว (กราวด์)  จากนั้นให้ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ จึกๆๆๆๆๆ

ผลปรากฏว่า  ไม่มีประกายไฟเลย  ก็เป็นไปได้ว่า ไฟตั้งแต่แบตเตอรี่ ไปจนถึงกล่องและจานจ่าย ต้องมีปัญหาจุดหนึ่งจุดใดเกิดขึ้น  ดังนั้น การที่เจ้าของรถฟันธง
ไปว่า มีปัญหาที่ระบบน้ำมัน  ก็เป็นการวินิจฉัยที่ผิด  สตาร์ทไปเหอะจนแบตฯหมด ก็ไม่ติดแน่นอน เพราะว่าไม่มีไฟจุดระเบิด ครับท่าน

ข้อเสนอแนะครั้งต่อไป
  - ควรเตรียมหัวเทียนสำรองไป  การตรวจเช็คประกายไฟจะง่ายและปลอดภัยกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 มกราคม 2560, 11:41:48 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
   แล้วเราจะเริ่มเช็คจุดใดก่อน รถคันนี้เป็นระบบหัวฉีด EFI แบบ D-Jetronic  ซึ่งระบบเขาจะมีกล่องควบคุม คุมทั้งเรื่องไฟจุดระเบิดและน้ำมันเชื้อเพลิง ถ้าระบบมีปัญหาไฟก็จะไม่จุด (ไม่มีประกายไฟ) ในสมองก็นึกถึงวงจร EFI ของโตโยต้า เริ่มจาก
- วงจรไฟเลี้ยงกล่องอีซียูก่อนเลย (ยังจำวงจรนี้กันได้อยู่รึเปล่า)

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


  - ตำแหน่งที่อยู่ของกล่องฟิวส์และรีเลย์ ภายในห้องเครื่องยนต์

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 มกราคม 2560, 14:17:05 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai


ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
     วิธีการเช็คว่าไฟไปเลี้ยงกล่องหรือไม่โดยการเปิดสวิทช์กุญแจ ไปที่ตำแหน่ง ON ไฟเช็คเอนจิ้นจะต้องติดสว่าง
แต่ว่าเครื่องนี้ไฟที่ว่า "ไม่ติดเลย" ถามคนขับว่าปกติไฟดวงนี้ติดไหม ก็ตอบไม่ได้

      รถพี่แกเหมือนรถช่าง เครื่องไม้เครื่องมือ หรือสภาพภายในของรถมีการดัดแปลงสภาพไปบ้าง เช่น สวิทช์กุญแจเดิมที่ยึดที่คอพวงมาลัยเสียอาจจะเสียที่น่าคอนแทคทางเดินไฟ แต่การล็อคคอพวงมาลัยทำได้อยู่  (ที่จริงต้องเปลี่ยนยกชุด) แต่แก้ไขปัญหาด้วยการเพิ่มสวิทช์กุญแจ ไปติดที่แผงคอนโซลข้างคนขับแทน  เวลาจะขับรถต้องใช้กุญแจสองดอก
 - ดอกหนึ่ง ปลดล็อคคอ
 - อีกดอก  ทำหน้าที่เป็นสวิทช์สตาร์ท

      ทำแบบรถจักรยานยนต์สมัยก่อน ที่ตำแหน่งล็อคคอ กับ กุญแจบิดสตาร์ทอยู่คนละที่กัน 5 5 5  งงดีเหมือนกัน
แต่คนไม่รู้ อันตรายเหมือนกัน ถ้าไม่ปลดล็อคคอก่อน
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
    เมื่อไฟเช็คเอนจิ้นไม่โชว์ โชว์แต่ไฟอื่นๆ เช่นไฟ ABS ติดและดับลง เราต้องไปเช็คที่ขั้วตรวจสอบก่อนดีกว่า  เพราะว่ามีขั้วไฟ +B มาเข้าด้วย (ซึ่งก็คือไฟไปเลี้ยงกล่องด้วย)

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


     ดังนั้นต้องเช็คไฟไล่ตั้งแต่กล่องฟิวส์  พวกรีเลย์ EFI 
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
      ลองดูตำแหน่งของอุปกรณ์ที่เราจะต้องตรวจเช็ค มี
1. ฟิวส์ EFI  15 A
2. รีเลย์ EFI

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
   - ทีนี้ก็มาถึงการเช็คการทำงานของรีเลย์ EFI กัน
- อันดับแรก จ่ายไฟ + และ - 12V เข้าขาขดลวดโซลินอยด์  จะได้ยินเสียงโซลินอยด์ทำงาน (/) ... OK
- ต่อมาวัดความต่อเนื่องของหน้าสัมผัส ว่าไฟ 12V เข้าขาหนึ่งแล้ว มีไฟไหลผ่านหน้าคอนแทคของรีเลย์
   ออกมาอีกขาหนึ่งหรือไม่ ผลการวัด ... ( X ) ไม่ผ่านครับ No.K

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
   แสดงว่ารีเลย์ EFI เสียครับ ทำไงจึงจะติดเครื่องยนต์ได้ก่อน  จึงขอยืมรีเลย์ตัวที่อยู่ข้างๆ กันคือเมเนติกคลัทช์รีเลย์
ของคอมแอร์ เอามาใช้ชั่วคราวก่อน เมื่อรถติดได้ ค่อยขี่ไปซื้อ

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
   สังเกตุ ระหว่างที่ถอดรีเลย์ EFI  ออกมา มีมดตัวเล็กๆ วิ่งอยู่แถวซ็อคเก็ตรีเลย์ มดนี้น่าจะเป็นสาเหตุให้
หน้าคอนแทครีเลย์ปิดไม่สนิทก็เป็นไปได้  แต่คิดไปคิดมาแล้ว รถอายุประมาณยี่สิบปี จะเริ่มมีปัญหาเรื่องของ
รีเลย์เกือบทั้งนั้นเลย  มีสำรองไว้บ้างก็ดีเหมือนกัน

   ก็ปิดงานกันไป
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
   ข้อคิดที่ได้จากการปฏิบัติงาน 

1. จัดเตรียมกล่องเครื่องมือสำหรับปฏิบัติงานซ่อมฉุกเฉิน ในกล่องมีอะไรกันบ้าง
   - ประแจรวม 1 ชุด
   - ไขควงแฉก/แบน
   - คีม 3 ประเภท (ตัด/ปลายแหลม/ปากจิ้งจก)
   - ประแจหกเหลี่ยม (ประแจแอล)
   - สายไฟเศษ สัก 2-3 เส้น
2. หัวเทียนสำรอง
3. บ๊อกซ์ถอดหัวเทียนยาว
4. มัลติมิเตอร์ ขาดไม่ได้เลย
5. สายจั๊ม ทำไว้ก็ดีเหมือนกัน เอาแบบที่มีฟิวส์ขั้นกลางก็ดี
6. หลอดไฟเช็คเอนจิ้นสำหรับโตโยต้า  รุ่น OBD-I
7. เกือบลืม Mini ELM327 พร้อมโทรศัพท์ที่ลงแอปทอร์คโปร ไว้แล้ว 5 5 5
8. และเพื่อให้การตรวจเช็ครีเลย์กระทำได้อย่างรวดเร็ว ควรจัดทำปากคีบ และหลอดไฟทดสอบหน้า
    คอนแทครีเลย์ โดยเฉพาะ

ประมาณนี้ (ข้อ 5.)

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 มกราคม 2560, 16:42:09 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai