ข่าวประชาสัมพันธ์

มาร่วมเป็นกำลังใจให้เว็บด้วยการสมัครสมาชิกวีไอพี ~~ เลือกปีที่ท่านต้องการได้โดยไม่ต้องเรียงปี ~~ ปีละ 350 บาท สมัคร 2 ปีลดเหลือ 600 บาท ~~ มีไลน์กลุ่ม VIP จำนวนหลายร้อยท่าน เอาไว้ปรึกษางานซ่อม ~~ เข้าถึงข้อมูลด้านเทคนิค ข้อมูลเชิงลึกมากมาย.....


ผู้เขียน หัวข้อ: ประวัติรถ Chevrolet Captiva  (อ่าน 754 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37422
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
ประวัติรถ Chevrolet Captiva
« เมื่อ: 20 ธันวาคม 2563, 08:13:04 »
  • ขึ้นบน
  • ลงล่าง
  •    ประวัติรถ Chevrolet Captiva   
       จุดประสงค์ของเว็บที่นำประวัติรถหรือคู่มือการใช้รถ มาอยู่ในเว็บด้วย เพื่อที่จะให้ผู้ใช้รถตลอดจนช่างซ่อม
    ได้เข้าใจอย่างแท้จริงในรถรุ่นนั้นๆ เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อการซ่อมและบำรุงรักษาได้อย่างถูกต้องครับ

    ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


         เชฟโรเลต แคปติวา อังกฤษ: Chevrolet Captiva มีชื่อเดิมว่า ซี100 (C100) รถยนต์เอนกประสงค์ขนาดกลางหรือเป็นรถเอสยูวี (SUV) ขนาดกลางแบบ 7 ที่นั่งของเชฟโรเลตที่พัฒนาขึ้นโดยศูนย์ออกแบบของบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ หรือชื่อย่อว่า จีเอ็ม (GM) ในเมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ (South Korea) ซึ่งเป็นการพัฒนาบนตัวถังรุ่นเธต้า (Theta platform) ที่เคยใช้ในการผลิตรถยนต์ในเครือของจีเอ็มมาแล้วหลายรุ่น โดยทางจีเอ็มใช้ชื่อ แคปติวา จำหน่ายในตลาดยุโรป, ตะวันออกกลาง, อาเซียน และอเมริกาใต้ แต่ในประเทศออสเตรเลียจะจำหน่ายในนาม Holden Captiva ส่วนในประเทศเกาหลีใต้ใช้ชื่อ Daewoo Windstorm ในส่วนของการเปิดตัวรถยนต์เชฟโรเลต แคปติวานั้น ทางจีเอ็มได้ทำการเปิดตัวแคปติวาครั้งแรกที่ประเทศออสเตรเลีย (Australia) ต่อด้วยประเทศนิวซีแลนด์ (New Zealand) และตามด้วยการเปิดตัวในประเทศไทย (Thailand) และอีกหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อราวต้นปี 2550

         สำหรับการผลิตรถยนต์เชฟโรเลต แคปติวาเพื่อส่งออกตลาดทั่วโลกนั้น ทางจีเอ็มได้ใช้ฐานการผลิตหลักของแคปติวาที่ศูนย์การผลิตรถยนต์จีเอ็มแดวูในประเทศเกาหลีใต้ ร่วมกับศูนย์การผลิตรถยนต์จีเอ็ม จังหวัดระยอง ซึ่งในประเทศไทยเชฟโรเลต แคปติวามีจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่น แบ่งออกเป็น รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซลแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และรุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร จะเป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เช่นกัน

         ล่าสุด SGMW หรือ SAIC-GM-Wuling Automobile บริษัทร่วมทุนระหว่าง SAIC Motor, General Motors และ Wuling Motors ก็ได้กลับมาแนะนำรถพลังงานพื้นฐานอย่างครอสโอเวอร์ขนาดคอมแพคท์ Baojun 530 รุ่นปรับปรุงในช่วงปลายปี 2561 ความสำคัญของรถรุ่นนี้คือ มันได้ถูกเปิดตัวอีกครั้งในฐานะรถรีแบดจ์เป็น Chevrolet Captiva เจนเนอเรชั่น 2 ในเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา ณ งาน International Motor Show Bogota 2018 ประเทศโคลัมเบีย และในประเทศไทย ในเดือนมีนาคม 2562
    สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
    ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

    ออฟไลน์ Auto Man

    • Administrator
    • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
    • *****
    • เจ้าของกระทู้
    • Joined: ก.ย. 2558
    • กระทู้: 37422
    • สมาชิกลำดับที่ : 1
    • เพศ: ชาย
    • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
      • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
      • อีเมล์
    ประวัติรถ Chevrolet Captiva
    « ตอบกลับ #1 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2563, 08:14:43 »
  • ขึ้นบน
  • ลงล่าง
  •     รุ่นที่ 1 (พ.ศ. 2549 - 2561)   
         เชฟโรเลต แคปติวา ได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 28 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2550 เชฟโรเลต แคปติวา เป็นรถเอสยูวี อเนกประสงค์ ภายในมีทั้งหมด 7 ที่นั่ง เบาะแถว 2 และ 3 สามารถพับเก็บได้ ในเมืองไทยมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ในรุ่นเครื่อง 2.0 ลิตร จะเป็นเครื่องยนต์แบบดีเซล มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาจะอยู่ที่ 1,279,000 และ 1,560,000 บาท ตามลำดับ

    ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


          ส่วนในรุ่น 2.4 ลิตร จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ เช่นกัน ราคาจะอยู่ที่ 1,189,000 และ 1,460,000 บาท ตามลำดับ โดยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ของแคปติวาเป็นแบบ AWD (All Wheel Drive) เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด แบบ Tiptronic ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างเร้าใจยิ่งขึ้น อีกทั้งมาพร้อมกับความจุที่มาก เมื่อพับเบาะแถวที่ 3 ลงจะมีปริมาตรในการขนสัมภาระอยู่ที่ 465 ลิตร แต่ถ้าพับเบาะแถวที่ 2 ลงอีก ความจุก็จะเพิ่มเป็น 930 ลิตร

          ภายในใช้วัสดุหรูหรา เครื่องเสียงแบบบิวด์อินที่รองรับการใช้งานวิทยุ, ซีดี และ MP3 ที่สามารถใส่ได้มากที่สุด 6 แผ่น มีพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมทั้งจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ DIC (Driver Information Center) ที่แสดงอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง, ระยะทาง และปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลืออยู่ ในแคปติวายังมีแอร์สำหรับผู้โดยสารในแถวที่ 3 อีกด้วย โดยทั้งหมดที่กล่าวมาอาจจะแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น

    ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


         ส่วนทางด้านความปลอดภัยนั้น แคปติวามีค่ามาตรฐานด้านความปลอดภัย 4 ดาว จากการทดสอบการชนของ Euro NCAP ซึ่งเป็นมาตรฐานความแข็งแรงของรถยนต์ที่หลายประเทศในยุโรปใช้กัน

    รุ่นย่อยของแคปติวามีตามรุ่นปีดังนี้

    - พ.ศ. 2550  เปิดตัวครั้งแรกพร้อม 2 รุ่นย่อย LS และ LT ทั้งเบนซินและดีเซล

    - พ.ศ. 2552 มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ LSX และ LTZ พร้อม 2 สีใหม่ สีขาว Summit White และสีฟ้า Light Blue

    - พ.ศ. 2553 เพิ่มรุ่นพิเศษด้วยติดตั้งชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ในรุ่นเบนซิน เป็นเครื่องยนต์เบนซิน Ecotec 4 สูบ 2.4 ลิตร E20 พร้อมเพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ (DOHC) 16 วาล์ว และระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง (Double CVC) ให้พละกำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ 6 สปีด พร้อม DSC (Driver Shift Control)

    ปรับโฉมปี 2554
        เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉมปี 2554  เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉม ได้ถูกเผยโฉมเมื่อไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 โดนมาการออกแบบกระจังหน้าใหม่ ไฟเลี้ยวตรงกระจกข้างแบบ LED ล้อออกแบบใหม่ ช่องรับอากาศและไฟตัดหมอกทรงใหม่ ฝังตัวอยู่บริเวณด้านข้างของกันชนหน้า แผ่นกันกระแทกสีบรอนซ์ใต้กันชนหน้าซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในแคปติวา ส่วนอ็อปชั่นใหม่ คือ ระบบควบคุมป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางลาดชัน (Hill Start Assist) ช่วยป้องกันรถไหลลงทางลาดชันในขณะออกตัว ในประเทศไทยมีเครื่องยนต์ใหม่ให้เลือกคือ เครื่องยนต์เบนซิน Ecotec 4 สูบ 2.4 ลิตร E85 พร้อมเพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ (DOHC) 16 วาล์ว และระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง (Double CVC) ให้พละกำลังสูงสุด 168 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 229 นิวตันเมตร และ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร DOHC 16 วาล์ว มาพร้อมระบบจ่ายเชื้อเพลิงคอมมอนเรลแรงดันสูง ให้แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร พละกำลังสูงสุด 163 แรงม้า โดยมีการปรับตามรุ่นปีดังนี้

    - พ.ศ. 2554 เปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์พร้อมจำหน่ายเครื่องเบนซินอย่างเดียว มีการออกรุ่นพิเศษ Centennial Edition

    - พ.ศ. 2555 มีการเพิ่มรุ่นเครื่องดีเซลตามมา

    - พ.ศ. 2556 มีการออกรุ่นพิเศษ Limited Edition จำกัดจำนวนเพียง 600 คัน

    - พ.ศ. 2557 มีการปรับเปลี่ยนไฟท้ายใหม่แบบ LED กันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ ฝาครอบไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่ และเพิ่มติดตั้งบันไดข้างสแตนเลสในรุ่น LTZ และล้ออัลลอยลายใหม่ 18 นิ้วในรุ่น LSX ส่วนเครื่องยนต์จะมี 2 แบบเหมือนเดิม คือ เบนซินและดีเซล แต่มีการปรับปรุงเกียร์อัตโนมัติให้ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการตัดรุ่น LS และ LT ออกไป

    - พ.ศ. 2558 มีการเปลี่ยนวิทยุใหม่ให้เหมือนสเปคยุโรป

    รุ่นปรับโฉมปี 2559
        - เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉม ด้านหน้า

    ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


        - เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉม ด้านหลัง

    ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


         เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉมปี 2559 ได้เปิดตัวครั้งแรกที่ Dubai International Motor Show 2015 ในวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 สำหรับประเทศไทย GM Thailand ได้เปิดตัวเชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉมด้วย ที่งานอินเตอร์เนชัลนอล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 ในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ต่อมาอีกไม่กี่วัน โฮลเด้น แคปติวาก็ได้เปิดตัวในประเทศออสเตรเลีย โดยมีการปรับเปลี่ยนกระจังหน้าแบบดูอัลพอร์ทใหม่ที่ปรับให้ช่องด้านบนมีขนาดเล็กลงและติดตราโบว์ไทคั่นตรงกลาง ส่วนช่องดักอากาศด้านล่างเปลี่ยนมาเป็นแบบหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ขึ้นรวมถึงรายละเอียดของกันชนหน้าและกรอบไฟตัดหมอกออกแบบใหม่ให้ดูมีมิติมากขึ้น ไฟหน้าทรงใหม่ใกล้เคียงของเดิมและติดตั้งไฟสำหรับวิ่งในเวลากลางวัน (DRL) มาให้ โดยในรุ่น LTZ จะได้ล้อขนาด 19 นิ้วลาย 5 ก้านเดิมแต่เปลี่ยนมาใช้สีเทา-เงินแบบทูโทน ส่วนไฟท้ายเปลี่ยนเป็นแบบ LED

         ส่วนภายในห้องโดยสารภายในเปลี่ยนมาใช้พวงมาลัยทรงสปอร์ตแบบ 3 ก้าน พร้อมกับเปลี่ยนคอนโซลกลางใหม่ย้ายปุ่มควบคุมอุปกรณ์ให้อยู่สูงใกล้มือผู้ขับขี่มากขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มเครื่องเสียงที่มีระบบ MyLink ที่รองรับการใช้งานแอปพลิเคชันทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ผ่านสาย USB

         โดยในรุ่น LTZ ยังเพิ่มความปลอดภัยอย่างระบบแจ้งเตือนสิ่งกีดขวางด้านหน้า, ระบบตรวจจับยานพาหนะในมุมอับสายตาของกระจกมองข้าง (Side Blind Zone Alert ) และระบบ Rear Cross-Traffic ซึ่งสามารถตรวจจับยานพาหนะที่วิ่งผ่านด้านหลังขณะถอยออกจากมุมอับได้ โดยมีการปรับรุ่นปีดังนี้

    - พ.ศ. 2559 มีการเปิดตัวพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการ มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ 2.0 LTZ VCDi ขับเคลื่อนล้อหน้า

    - พ.ศ. 2560 มีการเพิ่มสีใหม่ สีขาวมุก Abalone White และ สีดำเมทัลลิก Black Meet Kettle Metallic
    « แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 ธันวาคม 2563, 08:35:20 โดย Auto Man »
    สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
    ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

    ออฟไลน์ Auto Man

    • Administrator
    • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
    • *****
    • เจ้าของกระทู้
    • Joined: ก.ย. 2558
    • กระทู้: 37422
    • สมาชิกลำดับที่ : 1
    • เพศ: ชาย
    • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
      • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
      • อีเมล์
    ประวัติรถ Chevrolet Captiva
    « ตอบกลับ #2 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2563, 08:23:51 »
  • ขึ้นบน
  • ลงล่าง
  •    รุ่นที่ 2 (พ.ศ. 2562 - ปัจจุบัน )   
    2019 Chevrolet Captiva 1.5T LT (รุ่นที่ 2; South American market spec)
    Chevrolet Captiva 1.5T LT
    Chevrolet Captiva 1.5T LT (รุ่นที่ 2; Thailand market spec)
    All NEW Captiva : 2nd Generation เปิดตัวครั้งแรกในโลกในชื่อ Baojun 530 เมื่อปลายปี 2017 ที่ประเทศจีน จากนั้นเข้าไปโชว์ตัวที่อินโดนีเซีย ในชื่อ Wuling SUV เมื่อเดือน สิงหาคม 2018 จากนั้นเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศโคลัมเบีย ในเดือน พฤศจิกายน 2018 โดยรถคันนี้เป็นพัฒนาร่วมกัน และ ลงทุน ระหว่าง GM – General Motors / Wuling และ SAIC Motors รวมกันเป็น SGWM (SAIC – General Motors – Wuling Motor). All NEW Captiva ได้เผยโฉมอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ในงาน Thailand International Motor Show 2019 และหลังจากนั้นก็เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2019 ที่ผ่านมา และได้ส่งมอบในเดือนต่อมา มี 3 รุ่นย่อยคือ LS, LT และ Premier มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Daewoo S-TEC III เทอร์โบ 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตรที่ 2,400 รอบต่อนาที

    - พ.ศ. 2563 เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ข่าวด่วน General Motors (GM) ประกาศยุติการทำตลาด และ ยกเลิกการขายรถยนต์ Chevrolet ในประเทศไทย ภายในปี 2563 นี้ แถมยังจัดโปรส่วนลด 500,000 บาท จนกว่ารถในสต๊อกจะหมด ครบ 2,000 คัน

    ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


       
     

    ประวัติรถ Chevrolet Captiva -วิกิพีเดีย

     
    « แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 ธันวาคม 2563, 08:37:19 โดย Auto Man »
    สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
    ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

    ประวัติรถ Chevrolet Captiva
    « ตอบกลับ #2 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2563, 08:23:51 »


    ออฟไลน์ Auto Man

    • Administrator
    • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
    • *****
    • เจ้าของกระทู้
    • Joined: ก.ย. 2558
    • กระทู้: 37422
    • สมาชิกลำดับที่ : 1
    • เพศ: ชาย
    • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
      • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
      • อีเมล์
    ประวัติรถ Chevrolet Captiva
    « ตอบกลับ #3 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2563, 08:55:59 »
  • ขึ้นบน
  • ลงล่าง
  • ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


         ทั้งเครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2,405 ซีซี
    กระบอกสูบ x ช่วงชัก 87.5 x 100 มม.
    อัตราส่วนกำลังอัด 9.6 : 1

    136 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 รอบ/นาที
    แรงบิดสูงสุด 22.4 กก.-ม.ที่ 2,200 รอบ/นาที

    ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


       เครื่องยนต์ ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,991 ซีซี
    คอมมอนเรล ไดเร็กต์อินเจ็กชัน VCDi เทอร์โบ แปรผัน
    ใช้หัวฉีดแรงดันสูง ควบคุมด้วยอีเล็กโทรนิกส์
    กระบอกสูบ x ช่วงชัก 83 x 92 มม.
    อัตราส่วนกำลังอัด 17.5 : 1

    150 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบ/นาที
    แรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม.ที่ 2,000 รอบ/นาที

    ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
    สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
    ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

    ประวัติรถ Chevrolet Captiva
    « ตอบกลับ #3 เมื่อ: 20 ธันวาคม 2563, 08:55:59 »