ข่าวประชาสัมพันธ์

มาร่วมเป็นกำลังใจให้เว็บด้วยการสมัครสมาชิกวีไอพี ~~ เลือกปีที่ท่านต้องการได้โดยไม่ต้องเรียงปี ~~ ปีละ 350 บาท สมัคร 2 ปีลดเหลือ 600 บาท ~~ มีไลน์กลุ่ม VIP จำนวนหลายร้อยท่าน เอาไว้ปรึกษางานซ่อม ~~ เข้าถึงข้อมูลด้านเทคนิค ข้อมูลเชิงลึกมากมาย.....


ผู้เขียน หัวข้อ: ใช้เกียร์ CVT ในรถ Mitsubishi ให้ถูก และ ได้อย่างใจ ปลอดภัย ไร้ เกียร์พัง  (อ่าน 1240 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37161
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
ใช้เกียร์ CVT ในรถ Mitsubishi ให้ถูก และ ได้อย่างใจ ปลอดภัย ไร้ เกียร์พัง

MItsubishi Attrage ที่เป็นรุ่นเกียร์อัตโนมัติ(CVT) จะเป็นรถที่ขับเคลื่อน โดยใช้เกียร์ CVT (Continous Variable Transmission) ของ Jatco รุ่น CVT 7 ซึ่งเป็นเกียร์แบบ สายพาน คล้องกับพูเลย์ ( รุ่นเดียวกันกับ ที่ติดตั้งอยู่ใน Nissan March Almera , Suzuki Swift )

แต่ Attrage จะพิเศษกว่าบรรดา Eco เหล่านั้น ด้วยการใช้กล่องสมองกลคอมพิวเตอร์ สำหรับควบคุมเกียร์ ที่ Mitsubishi Motors พัฒนาขึ้นเองนั่นคือระบบ INVECS-III (Intelligent & Innovative Vehicle Electrics Control System) เจเนอเรชัน ที่ 3 นั่นเองครับ

INVECS - III นี้ แบ่งการทำงานเป็น 2 แบบ คือ

1. เปลี่ยนเกียร์ตาม "สภาพการขับขี่"  (Optimum Shift Control)
กล่องคอมพิวเตอร์ จะวิเคราะห์ การเหยียบคันเร่ง เพื่อดูองศาการเปิดของลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้า การเหยียบเบรก เลี้ยวพวงมาลัย และความเร็วของรถในขณะนั้น เพื่อให้ได้ตำแหน่งเกียร์ ที่เหมาะกับสภาพเส้นทาง และการขับขี่ในช่วงเวลานั้นๆ ให้มากที่สุด

2. เปลี่ยนเกียร์ตาม "พฤติกรรมผู้ขับขี่" (Adaptive Shift Control)
กล่องคอมพิวเตอร์ จะศึกษาพฤติกรรมการขับขี่ แล้วเปลี่ยนเกียร์ไปตามนิสัยคนขับ เช่น ถ้าเป็นคนชอบเหยียบคันเร่งจมมิด เรียกอัตราเร่งแซงตลอดเวลา กล่องคอมพิวเตอร์จะสั่งให้เปลี่ยนตำแหน่งพูเลย์ บีบถ่าง ในชุดเกียร์ช้าลง ลากรอบเครื่องยนต์ ไปสู่รอบสูงๆ นานขึ้น แต่ถ้าคุณขับช้าๆ สบายๆ ระบบก็จะสั่งให้เปลี่ยนตำแหน่งพูเลย์ ในชุดเกียร์ เร็วขึ้น เพื่อให้ใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำลง โดยเร็ว กว่าปกติเล็กน้อย

นอกจากนี้ เกียร์ลูกนี้ มีระบบ Idle Neutral Control โดยเป็นชุด Forward Clutch ทำหน้าที่ ตัดการส่งแรงบิดจากเครื่องยนต์ ไปยังล้อขับเคลื่อนคู่หน้า ขณะเหยียบเบรก ติดไฟแดง แล้วเข้าเกียร์ D ทิ้งไว้เพื่อช่วยลดภาระของ Torque Converter ไม่ให้หนักเกินไป

CVT Attrage จะมีอัตราทดเกียร์ ดังต่อไปนี้

เกียร์สูงสุด.........................4.007
เกียร์ต่ำสุด.........................0.550
เกียร์ถอยหลัง.....................3.771
อัตราทดเฟืองท้าย...............3.757

- ใช้น้ำมันเกียร์ CVTF-J4

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


ทีนี้จะขับกันอย่างไร ให้ปลอดภัย ประหยัด และถูกต้องที่สุด สำหรับรถ Attrage CVT จากที่ได้ยินมา เกียร์ CVT นั้นเป็นเกียร์ที่ฉลาดมากครับ  เรื่องขับยังไงให้ไม่อืดนะ อย่างที่รู้กันแล้วว่า CVT ไม่ได้ใช้ฟันเฟืองแต่ใช้พลูเลย์กับสายพานโลหะเพื่อความต่อเนื่องในการทำความเร็วเพราะรอบไม่มีตกเลยนะครับ

ดังนั้น เราจะไม่รู้ว่าเกียร์เราเปลี่ยนเหมือนเกียร์ออโต้ทั่วๆไป ทีนี้ เราจะให้ไอ้ CVT ของเราขับเคลื่อนรถของเราไปข้างหน้าให้เร็วล่ะ ทำยังไง บอกไว้เลยนะครับ ถ้าจากจุดหยุดนิ่งแล้วกดคันเร่งมิดเลยเนี้ย รถไม่วิ่งนะครับ มีแต่เสียงเครื่องที่ดังสนั่น แต่ล้อไม่ค่อยหมุนครับ

ถ้าเราอยากจะให้มันพุ่ง จากจุดหยุดนิ่ง โดยไม่อืดยืดยาดและเสียงคำรามสนั่น(แต่รถดันไม่ไป) ให้เราก็กดคันเร่งลงไปก่อนเลย ซักครึ่งหนึ่งของระยะคันเร่งทั้งหมด รอบเครื่อง มันจะไต่ระดับ พร้อมกับความเร็วรถที่เพิ่มขึ้น
จากนั้นก็กดคันเร่งลงไปอีกหน่อย(แค่ใหนต้องลองดูบ่อยๆจนจับจังหวะได้) แล้วก็กดเพิ่มไปทีละนิด ด้วยการดูการตอบสนองจากทั้งเกียร์และรอบเครื่อง จนกว่าเราจะพอใจก็หยุดการเติมคันเร่ง และอาจจะผ่อนเพื่อลดรอบเครื่องลงมาได้อีกด้วย

แล้วทีนี่ วิ่งมาอยู่ดีๆ จะแซงรถสิบล้อ ทำไงล่ะ ลอง kick down ดูน่ะครับ รถไม่วิ่งนะครับ

จำไว้เลย จะเร่งแซงให้ิติดเท้านะครับ กระตุ้นให้มันรู้ซะหน่อยว่าเราจะบ้าพลังแล้วนะ โดยการกดคันเร่งลงไปให้ลึกกว่าเดิมซักหน่อย( ต้องบอกอีกหละว่าแค่ใหนนั้น เราต้องลองดูด้วยตัวเอง ) แล้วถอนคันเร่งออกมานิด แล้วจึงกระแทกคันเร่งลงไปใหม่แล้วคาไว้ที่ตรงนั้นแหล่ะ ทีนี้ล่ะ รอบจะกวาดพร้อมๆกับ ความเร็วจะขึ้นตามเท้าเลยแหล่ะครับ จะเอาเท่าไหร่ก็ค่อยๆกดเพิ่มลงไป จะมุดจะแทรก เพียงเดินคันเร่งความเร็วก็ขึ้นตามเท้าเลยครับ

CVT สำหรับผมจะขับให้พุ่งเนี้ย มันอยู่ที่เราเดินคันเร่งล้วนๆเลยครับ ถ้าเราเข้าใจการทำงานของมันและเข้าใจการเดินคันเร่งให้ smooth เนี้ย เกียร์ธรรมดาเนี้ยโดน CVT สวนแน่นอนครับ เพราะสับเกียร์ไม่ทันเรา แรกๆถ้าไม่เคยใช้อาจไม่ชิน ถ้าชินเมื่อไหร่ รับรองว่าติดใจในเกียร์ CVT แน่นอน


credit : ROOKIE และลองเองแล้วแจ่มจริงๆ  ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 พฤศจิกายน 2559, 13:49:13 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37161
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
ขอแชร์ประสบการณ์บ้าง จากคนที่ใช้ CVT มากว่า หนึ่งแสนห้าหมื่นกิโลเมตร

ระบบเรียนรู้การขับขี่ไม่ใช่ cvt ครับ cvt คือชื่อระบบเกียร์  ระบบเรียนรู้และหน่วยประมวลผลคือ Invect ครับ ซึ่งมีหลายเวอร์ชั่น ไล่มาตั้งแต่ Invect  /  Invect II สองระบบแรกสำหรับควบคุมเกียร์ชนิดที่เป็นแบบ Auto ทั่วไป และได้มี Invect III ที่พัฒนาเพื่อมาควบคุมเกียร์ประเภท CVT ครับ

ดังนั้นขอสรุปในส่วนนี้ว่า  ระบบที่คอยสั่งการการทำงานของเกียร์ คือ Invect ครับโดยจะประมวลจากข้อมูลขององศาการเลี้ยว องศาการเปิดลิ้นผีเสื้อ และอื่นๆครับ

CVT พังง่ายจริงไหม

ไม่จริงครับ  CVT ตอนนี้พัฒนาไปเยอะครับ  แต่มีข้อควรระวังเพียงแค่
1. เมื่อทำการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ จาก P ไป R หรือ D พูดง่ายๆ ว่าการเปลี่ยนการทำงานของเกียร์  ยกเว้นโหมด D ไป Manual หรือ sport ต้องแน่ใจทุกครั้งว่า รถหยุดนิ่งแล้ว ถึงแม้จะมี ระบบเซฟตี้ แต่ก็ไม่ควรทำครับ
2. น้ำมันเกียร์  รถใช้งานหนัก แต่งซิ่ง ขับรุนแรง วิ่งน้อย ลุยน้ำ ใส่ล้อหนัก หรืออย่างอื่นอย่างใดที่เข้าข่ายการใช้งานหนัก แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ สองหมื่นกิโลเมตรครับ ถ้าขับแบบแม่บ้านจ่ายตลาด หรือไม่ได้ใช้งานหนักก็ไม่ควรเกิน 4 หมื่นกิโลเมตร ตาม spec น้ำมันเกียร์ครับ
3. น้ำมันเกียร์ที่เปลี่ยนควรใช้น้ำมันสำหรับเกียร์ CVT ของมิตซูครับ เพราะตัวเซนเซอร์จะวัดความต้านทานไฟฟ้าในน้ำมันเกียร์ด้วย ดังนั้น เรื่องน้ำมันเกียร์ ควรปลอดภัยไว้ก่อน
4. การกระชากบ่อยๆ จะทำให้ CVT พังหรือไม่ ถ้าเข้า D เรียบร้อยแล้ว ขับไปเถอะครับ เขาออกแบบมารองรับให้ใช้แล้ว  เพราะหลังจากที่เราเลื่อนเกียร์อยู่ในตำแหน่งขับเคลื่อนแล้ว จะมีการตัดต่อกำลังไปยังชุดทอร์คคอนเวอร์เตอร์แค่ครั้งเดียวครับ  ไม่ได้มีการตัดต่อกำลังหลายครั้งตามการเปลี่ยนเกียร์อย่างเกียร์ auto ทั่วไป  อัตราการสึกหรอจึงต่ำมาก  ถึงต่ำมากๆ จะขับเร่งๆ เบรคๆแค่ไหนก็ขับไปได้เลยครับ แต่อย่าลืมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ ให้อยู่ในสภาพที่ดีสม่ำเสมอ
5. การดึงก้านวัดน้ำมันเกียร์ออกมาดู เพื่อดูว่า มีการเปลี่ยนแปลงหรือยัง ไม่สามารถดูได้ครับ  ต้องถ่ายเท่านั้นจึงจะเห็นชัดเจนว่า หมดสภาพหรือยัง
6. ไม่แน่ใจว่าน็อตถ่ายน้ำมันเกียร์ cvt ของ lancer ex เหมือนของ cedia หรือไม่  แต่คิดว่าน่าจะเหมือน  ตัวนี้จะทำหน้าที่กรองน้ำมันเกียร์ด้วยครับ เพราะน็อตเป็นแม่เหล็ก จะดูดสิ่งสกปรกเอาไว้ เวลาถ่าย สังเกตุจากน็อตได้ครับ ว่ามีเศษผงโลหะจากการสึกหรอมากแค่ไหน
7. ผมคิดว่า lancer ex น่าจะเหมือน cedia ตรงที่ น้ำมันเกียร์จะหมุนวนไปที่แผงระบายความนร้อนหน้าตัวรถ ทำให้อุณหภูมิน้ำมันเกียร์คงที่อยู่ในอุณภูมิทำงานตลอดเวลาครับ
8. เกียร์ cvt ของมิตซูสามารถ reset ระบบเรียนรู้ได้ นะครับ เมื่อมันจดจำพฤติกรรมการขับในแบบที่เราไม่ชอบ

สงสัยถามเพิ่มได้ครับ

สรุปง่ายๆ ดังนี้นะครับ

เกียร์ cvt มิตซู พังไม่ง่ายครับ  ขับไปเถิด จะซิ่งแค่ไหนก็ขับไป แต่ขอให้ดูแลมันหน่อยก็แล้วกัน


จากประสบการณ์  ที่ผ่านมาของผมคนเดียว1.5แสนกิโลเมตรยังไม่รวมเพื่อนรวมทางที่ใช้เหมือนกันอีกหลายท่าน กับการใช้งานที่เรียกว่าโหดร้าย กระชากรอบเล่นเกียร์ แช่รอบ ทำมาหมดแล้ว

ขอร่วมแบ่งปั่นประสบการณ์เพียงเท่านี้ก่อนแล้วกันนะครับ

เบียร์ สมาชิก www.lancer-club.net ครับ

มาจากที่นี่...
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai