ข่าวประชาสัมพันธ์

มาร่วมเป็นกำลังใจให้เว็บด้วยการสมัครสมาชิกวีไอพี ~~ เลือกปีที่ท่านต้องการได้โดยไม่ต้องเรียงปี ~~ ปีละ 350 บาท สมัคร 2 ปีลดเหลือ 600 บาท ~~ มีไลน์กลุ่ม VIP จำนวนหลายร้อยท่าน เอาไว้ปรึกษางานซ่อม ~~ เข้าถึงข้อมูลด้านเทคนิค ข้อมูลเชิงลึกมากมาย.....


ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีปิด Windows Defender แบบถาวร  (อ่าน 2219 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Sonchai_Music

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 2071
  • สมาชิกลำดับที่ : 2
  • สมาชิกวีไอพี ปีที่ 1,3-4
วิธีปิด Windows Defender แบบถาวร
« เมื่อ: 06 ธันวาคม 2566, 14:29:35 »
  • ขึ้นบน
  • ลงล่าง
  •       วิธีปิด Windows Defender แบบถาวร     
       (How to turn off Windows Defender permanently ?)   
    สำหรับคนที่ต้องการปิดการทำงานของ Windows Defender แบบถาวรไปเลย เราก็มีวิธีการทำมาฝากเช่นกัน
    แต่ควรจะแน่ใจว่าตัวคุณเอง มีความสามารถในการเฝ้าระวังภัยอันตราย จากโลก อินเทอร์เน็ต ได้เป็นอย่างดี
    ไม่เข้าชมเว็บไซต์อันตราย หรือต้องการปิดเพราะมี โปรแกรมป้องกันไวรัสบุคคลที่สาม (3rd-Party Antivirus
    Software) ไว้ใช้งานอยู่แล้ว

    ขั้นตอนการปิด Windows Defender แบบถาวร จะสามารถทำได้ 2 วิธี
    วิธีแรกจะใช้การแก้ไขค่าของไฟล์รีจิสทรี (Windows Registry)
    ส่วนวิธีที่สองจะเป็นการแก้ไขค่า Local Group Policy นั่นเอง

    ถ้าถามว่าวิธีไหนง่ายกว่า ? การแก้ไขค่า Local Group Policy ก็ดูจะง่ายกว่า แต่มีข้อจำกัดตรงที่สามารถทำไ
    ด้เฉพาะบน Windows เวอร์ชัน Pro, Enterprise และ Education เท่านั้น หากคุณใช้งาน Windows Home
    จะไม่สามารถทำได้ ซึ่งก็จะต้องเลือกใช้วิธีแก้ไขค่า Registry แทน

    วิธีปิด Windows Defender แบบถาวร ด้วย Local Group Policy
    (เฉพาะผู้ใช้งาน Windows เวอร์ชัน Pro, Enterprise และ Education)
    1 กด "ปุ่ม Windows + r" เพื่อเปิด "แอป Run" ขึ้นมา
    2 พิมพ์ลงไปว่า "gpedit.msc" แล้วกด "ปุ่ม Enter"
    3 และ "หน้าต่าง Local Group Policy" จะถูกเปิดขึ้นมา
    4 ในพาเนลด้านซ้าย ให้คลิกที่ "เมนู Computer Configuration" → "เมนู Administrative Templates" → "เมนู Windows Components" → "เมนู Microsoft Defender Antivirus"

    ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


    5 ในพาเนลด้านขวา จะมี "ไฟล์ Turn off Microsoft Defender Antivirus" ให้เราดับเบิลคลิก เพื่อทำการ แก้ไขการตั้งค่า
    6 เลือก "เมนู Enable" แล้วคลิก "ปุ่ม OK" (หากต้องการเปิดใช้งาน Windows Defender ในอนาคตให้กลับมาเปลี่ยนเป็น "เมนู Disable" )

    วิธีปิด Windows Defender แบบถาวร ด้วย Registry Editor
    (ทำได้บน Windows ทุกเวอร์ชัน)
    1 กด "ปุ่ม Windows + r" เพื่อเปิด "แอป Run" ขึ้นมา
    2 พิมพ์ลงไปว่า "regedit" แล้วกด "ปุ่ม Enter"
    3 ไปยังตำแหน่ง "Computer\HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Policies\Microsoft\Windows Defender"
    4 ในพาเนลด้านขวา คลิกขวาบนพื้นที่ว่าง แล้วเลือก "เมนู New" ตามด้วย "เมนู DWORD (32-bit) Value"

    ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


    5 ตั้งชื่อไฟล์ว่า "DisableAntiSpyware"
    6 ดับเบิลคลิกไฟล์ "DisableAntiSpyware" ที่เราสร้างขึ้นมา ในช่อง Value Data ให้เปลี่ยนค่าจาก "0" เป็น "1" แล้วคลิก "ปุ่ม OK" เพื่อยืนยันการตั้งค่า
     
    ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


    7 หากไม่ได้ผล ให้ทำตามขั้นตอนใน ข้อ 4. อีกครั้ง แต่ให้ตั้งชื่อไฟล์ และกำหนดค่า Value Data ดังต่อไปนี้
    DisableRealtimeMonitoring
    กำหนดค่า Value Data เป็น "1"
    DisableRoutinelyTakingAction
    กำหนดค่า Value Data เป็น "1"
    DisableAntiVirus
    กำหนดค่า Value Data เป็น "1"
    DisableSpecialRunningModes
    กำหนดค่า Value Data เป็น "1"
    ServiceKeepAlive
    กำหนดค่า Value Data เป็น "0"
    8 ในกรณีที่ทำตามขั้นตอนในข้อ 7. แล้วยังไม่ได้ ให้ทำเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
    9 ในพาเนลด้านซ้ายคลิกขวาที่ "โฟลเดอร์ Windows Defender" เลือก "เมนู New" ตามด้วย "เมนู Key" ตั้งชื่อโฟลเดอร์ว่า "Signature Updates"
    10 คลิกที่โฟลเดอร์ Signature Updates แล้วไปที่พาเนลด้านขวา คลิกขวาบนพื้นที่ว่าง แล้วเลือก "เมนู New" ตามด้วย "เมนู DWORD (32-bit) Value" ตั้งชื่อไฟล์ว่า "ForceUpdateFromMU" กำหนดค่า Value Data เป็น "0"
    11 ในพาเนลด้านซ้ายคลิกขวาที่ "โฟลเดอร์ Windows Defender" เลือก "เมนู New" ตามด้วย "เมนู Key" ตั้งชื่อโฟลเดอร์ว่า "Real-Time Protection"
    12 คลิกที่โฟลเดอร์ Real-Time Protection แล้วไปที่พาเนลด้านขวา คลิกขวาบนพื้นที่ว่าง แล้วเลือก "เมนู New" ตามด้วย "เมนู DWORD (32-bit) Value" ตั้งชื่อไฟล์ว่า (สร้าง 4 ไฟล์)
    DisableRealtimeMonitoring
    กำหนดค่า Value Data เป็น "1"
    DisableOnAccessProtection
    กำหนดค่า Value Data เป็น "1"
    DisableBehaviorMonitoring
    กำหนดค่า Value Data เป็น "1"
    DisableScanOnRealtimeEnable
    กำหนดค่า Value Data เป็น "1"
    13 ในพาเนลด้านซ้ายคลิกขวาที่ "โฟลเดอร์ Windows Defender" เลือก "เมนู New" ตามด้วย "เมนู Key" ตั้งชื่อโฟลเดอร์ว่า "Spynet"
    14 คลิกที่โฟลเดอร์ Spynet แล้วไปที่พาเนลด้านขวา คลิกขวาบนพื้นที่ว่าง แล้วเลือก "เมนู New" ตามด้วย "เมนู DWORD (32-bit) Value" ตั้งชื่อไฟล์ว่า DisableBlockAtFirstSeen กำหนดค่า Value Data เป็น "1"
    15 หากต้องการเปิดใช้งาน Windows Defender ในอนาคต ให้ลบไฟล์ทั้งหมดที่เราสร้างขึ้นมาได้เลย

      มาจากที่นี่...
    « แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 ธันวาคม 2566, 14:35:18 โดย Sonchai_Music »

    วิธีปิด Windows Defender แบบถาวร
    « เมื่อ: 06 ธันวาคม 2566, 14:29:35 »