วงจรพัดลม เอามาจาก
http://electronicsthailand.blogspot.com/2013/04/blog-post.html ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง
สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบ การทำงานของวงจร 1 เมื่อกดสวิทซ์เบอร์ 1 เมื่อกดสวิทซ์เบอร์ 1 จะมีกระแสไฟฟ้าไหลจากสาย ไลน์ (L) ผ่านฟิวส์ไหลเข้า แคปสตาร์ทออกมาเข้าขดลวดสตาร์ท L 1 เมื่อกระแสไหลออกจากขดลวด L1 ไหลไปผ่านสวิทซ์ S1 (สวิทซ์เบอร์ 1 ) ไปครบวงจรที่นิวตรอน (N) ในจังหวะนี้เองที่ทำให้มอเตอร์เริ่มหมุน มอเตอร์จะเริ่มหมุนไปเรื่อยๆจนถึงประมาณ 70% จึงเริ่มหยุดการทำงาน กระแสไฟฟ้าจึงไหลผ่านขดลวด MAIN COIL ( ขดรัน = Run ) ไหลผ่านผ่าน L3 และ L2 ผ่านสวิทซ์ S1 ไปครบวงจรที่นิวตรอน พัดลมจึงหมุนต่อเนื่องไปที่ความเร็วเบอร์ 1 ซึ่งเป็นความเร็วที่ช้าที่สุด (เนื่องจากกระแสไฟฟ้า ไหลผ่านขดลวด MAIN COIL L3 และ L2 ทำให้ขดลวดชุดนี้มีความต้านทานมากที่สุด กระแสจึงไหลได้น้อย ความเร็วในการหมุนจึงน้อยลงไปด้วย )
2 เมื่อกดสวิทซ์เบอร์ 2 เมื่อกดสวิทซ์เบอร์ 2 จะมีกระแสไฟฟ้าไหลจากสาย ไลน์ (L) ผ่านฟิวส์ไหลเข้า แคปสตาร์ทออกมาเข้าขดลวดสตาร์ท L1 และ L2 เมื่อกระแสไหลออกจากขดลวด L1 และ L2 ไหลไปผ่านสวิทซ์ S2 (สวิทซ์เบอร์ 2 ) ไปครบวงจรที่นิวตรอน(N) ในจังหวะนี้เองที่ทำให้มอเตอร์เริ่มหมุน มอเตอร์จะเริ่มหมุนไปเรื่อยๆจนถึงประมาณ 70% จึงเริ่มหยุดการทำงาน กระแสไฟฟ้าจึงไหลผ่านขดลวด MAIN COIL ( ขดรัน ) ไหลผ่านผ่าน L3 ผ่านสวิทซ์ S2 ไปครบวงจรที่นิวตรอน พัดลมจึงหมุนต่อเนื่องไปที่ความเร็วเบอร์ 2 ซึ่งเป็นความเร็วปานกลาง (เนื่องจากกระแสไฟฟ้า ไหลผ่านขดลวด MAIN COIL และ L3 ทำให้ขดลวดชุดนี้มีความต้านทานน้อยกว่า กระแสจึงไหลได้มากขึ้น ความเร็วในการหมุนจึงเพิ่มไปด้วย )
3 เมื่อกดสวิทซ์เบอร์ 3 เมื่อกดสวิทซ์เบอร์ 3 จะมีกระแสไฟฟ้าไหลจากสาย ไลน์ (L) ผ่านฟิวส์ไหลเข้า แคปสตาร์ทออกมาเข้าขดลวดสตาร์ท L1 L2 และ L3 เมื่อกระแสไหลออกจากขดลวด L1 L2 และ L3 ไหลไปผ่านสวิทซ์ S3 (สวิทซ์เบอร์ 3 ) ไปครบวงจรที่นิวตรอน(N) ในจังหวะนี้เองที่ทำให้มอเตอร์เริ่มหมุน มอเตอร์จะเริ่มหมุนไปเรื่อยๆจนถึงประมาณ 70% จึงเริ่มหยุดการทำงาน กระแสไฟฟ้าจึงไหลผ่านขดลวด MAIN COIL ( ขดรัน ) ผ่านสวิทซ์ S3 ไปครบวงจรที่นิวตรอน พัดลมจึงหมุนต่อเนื่องไปที่ความเร็วเบอร์ 3 ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุด (เนื่องจากกระแสไฟฟ้า ไหลผ่านขดลวด MAIN COIL เพียงอย่างเดียว ทำให้ขดลวดชุดนี้มีความต้านทานน้อยที่สุด กระแสจึงไหลได้มากขึ้น ความเร็วในการหมุนจึงมากที่สุด )
ต่อไป เป็นหลักการซ่อม ปิดเครื่อง ถอดปลั๊กก่อนนะครับ วัดที่ปลั๊กของพัดลม1 . ใช้โอมห์มิเตอร์ วัดที่ปลั๊กของพัดลม (วัดคร่อม ไลน์ นิวตรอน )
- ให้กดสวิทซ์ เบอร์ 1 แล้ววัดค่าค่าความต้านทานจะต้องได้มากที่สุด
- กดสวิทซ์ เบอร์ 2 แล้ววัดค่าค่าความต้านทาน ค่าที่ว้ดได้จะต้องน้อยกว่าตอนกดสวิทซ์ เบอร์ 1
- กดสวิทซ์เบอร์ 3 แล้ววัดค่าความต้านทานค่าที่วัดได้จะต้องได้น้อยที่สุด
ในเบื้องต้นค่าที่วัดได้จะต้องได้ประมาณนี้ ถ้าวัดแล้วไม่ขึ้น ให้เช็คอุปกรณ์ ดังนี้ 1.1 สวิทซ์กดเลือกความเร็วพัดลมว่าปกติหรือไม่
1.2 สายไฟฟ้าว่าขาดหรือไม่
1.3 ฟิวส์ หรือ เทอร์โมฟิวส์ว่าขาดหรือไม่ ( ต้องแกะมอเตอร์ออกมาดู )
1.4 ขดลวด MAIN COIL ขาด ขดลวด L3 หรือ ขดลวด L2 ขาด
ถ้าใช้มิเตอร์โอมห์มิเตอร์ วัดที่ปลั๊กของพัดลมแล้วได้ค่าตามข้อที่ 1 แต่มอเตอร์ไม่หมุน
ให้ทดลองหมุนดูว่ามอเตอร์ฝืดหรือไม่ ถ้ามอเตอร์ฝืดให้ ทำความสะอาด เช็คแกนมอเตอร์ บู๊ช หรือลูกปืนต่างๆ
ถ้ามอเตอร์ไม่ฝืด ให้ใช้มือหมุนใบพัดของพัดลม ถ้าหมุนแล้วพัดลมใช้ได้ ให้เปลี่ยน แคปสตาร์ท
หรือเช็คสายไฟฟ้าในส่วนที่ต่ออยู่กับ แคปสตาร์ทว่าปกติหรือไม่
ถ้าใช้มือหมุนดูแล้วมอเตอร์ไม่หมุน ให้เช็คดังต่อไปนี้1 เช็คขดลวด สตาร์ท โดยทำการถอด แคปสตาร์ทออก แล้ววัดโอมห์คร่อมขดลวดเส้นนั้น ค่าความต้านทานที่ได้จะต้องเป็นค่าความต้านทาน ของขดลวด L1 L2 L3 และ MAIN COIL ค่าความต้านทานจะต้องได้มากที่สุดประมาณ 900 - 1000 โอมห์ ถ้าวัดแล้วไม่ขึ้น แสดงว่าขดลวดชุดสตาร์ทขาด หรือสายที่ต่อกับขดลวดขาด ซึ่งสาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ ขดลวด L1 ขาด
วิธีการตรวจเช็คขดลวด L1 ให้ใช้มิเตอร์ เส้นหนึ่งจับที่ฝั่งขาออกของ แคปสตาร์ท อีกเส้นหนึ่งจับที่ สวิทซ์ S1 ถ้าขดลวดปกติจะต้องมีค่าความต้านทานขึ้น ถ้าขดลวดขาดจะไม่มีค่าความต้านทาน
วิธีการตรวจเช็ค ขดลวด MAIN COIL 1 การตรวจเช็คขดลวด MAIN COIL
ให้ใช้โอมห์มิเตอร์ สายเส้นหนึ่งจับที่ แคปสตาร์ทฝั่งที่ติดกับฟิวส์ อีกเส้นจับที่ สวิทซ์ เบอร์ 3 ค่าความต้านทานต้องขึ้น ถ้าไม่ขึ้นแสดงว่าขดลวด MAIN COIL ขาด
อ้อ อย่าลือมตรวจเช็คสายไฟที่ต่อกับเส้นลวดมอเตอร์ดูด้วยว่าไหม้หรือขาด หรือไม่
ก็น่าจะประมานนี้
แถมอีกหนึ่งวงจร
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบ มาจากกระทู้นี้
https://pantip.com/topic/33408587/comment3