หมวดวิศวกรรม/เทคโนโลยียานยนต์ => ห้องเครื่อง => ห้องเครื่องยนต์แก๊สโซลีน => ข้อความที่เริ่มโดย: Auto Man ที่ 29 ตุลาคม 2558, 16:40:57
-
รถยนต์โตโยต้า โคโรน่า เครื่อง 4A-FE หัวฉีด มีปัญหาหม้อน้ำรั่ว เครื่องโอเวอร์ฮีต เครื่องน็อค
ต้องเปลี่ยนฝาสูบใหม่ ให้ช่างศูนย์ทำ คิดราคา 16,000 บาท ใช้ได้ไม่นานเครื่องพังอีก
คราวนี้เปลี่ยน ร้านใหม่อยู่ที่สกลนคร ยกเครื่องออกเลย เปลี่ยนเป็นเครื่องมือสอง
รักประกันหนึ่งปี วางเครื่องตอนแรกเครืองเดินเบาไม่เรียบ แต่ช่างบอกว่าวางเครื่องใหม่ก็เป็นแบบนี้แหละ
เลยทนใช้มาเรื่อยๆ มาวันนี้ เครื่องสตาร์ทไม่ติดลากมาให้ช่างยนต์เราดูแล
วัดกำลังอัดแต่ละสูบได้ดังนี้
สูบที่ 1 และ 2 วัดได้ 50 PSI
สูบที่ 3 และ 4 วัดได้ 100 PSI
ตรวจเช็คลิ้นไม่มีการยัน
เลยตัดสินใจถอดฝาสูบมาดูและเช็คการรั่วของลิ้น
ปรากฏว่ารั่วทุกลิ้น เลยบดลิ้นและตรวจเช็คการรั่ว ไม่มีรั่ว
ประกอบกับเข้าไปวัดกำลัดอัดได้ดังนี้
สูบที่ 1- 2 - 3 วัดได้ 150 PSI
ส่วนสูบ 4 วัดได้ 100 PSI ลองติดเครื่องดู ปรากฎว่า เครื่องติดได้ง่ายกว่าเก่า
สตาร์ทครั้งเดียวติด แต่ก่อนต้องสตาร์ทอย่างน้อยสองครั้ง
-
เจ้าของรถ เป็นอาจารย์สอนอยู่ วท.นครพนม แต่อยู่คนละคณะกับเรา
พอใจในผลงาน แต่เราเป็นครูช่างยนต์ เราสามารถที่จะทำอะไรให้ดีกว่านี้ได้
สงสัยต้องล้างลิ้นปีกผีเสื้อและไล่วงจร ISC Valve ดู
... แต่ไฟเช็คเอนจิ้นไม่ขึ้น
มาดูขั้วปลั๊กเช็คคอนเนคเตอร์กันว่ามีขั้วอะไรกันบ้าง ในรถโตโยต้า โคโรน่า
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/57144939)
เลยจั้มเอาที่ตำแหน่งการจั๊มเสียเลย
โดยใช้หลอดไฟเลี้ยวมาจั้มที่ขั้ว +B กับ W ผล OK ติดดับตามการเปิดสวิทช์
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/57144926)
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/57144935)
ใช้สายไฟอีกเส้น จั้มที่ตำแหน่ง TE1 กับ E1 ผล เจอรหัส
12 , 14 และ 22
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/57144936)
เลยลบรหัสออก คงเหลือแต่ รหัส 22 (ตัวตรวจจับอุณหภูมิน้ำ)
-
การลบรหัสทำได้ 2 วิธีคือ
1. ถอดขั้วลบแบตเตอรี่ เป็นเวลา 30 วินาที หรือ
2. ถอดฟิวส์ EFI 20A เป็นเวลา 30 วิ เหมือนกัน
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/57144952)
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/57144953)
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/57144954)
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/57144955)
ลองใช้เครื่องสแกนรถยนต์ ยี่ห้อ คาร์แมนสแกน รุ่น ไลท์
ร่วมกับปลั๊ก TOYOTA 17 PIN เข้ารุ่น COLORA AE101 w/o O2 MT
ได้โค๊ด 22 เหมือนกัน
(ลองใช้คาร์แมนกับรถรุ่นเก่าดู ว่าได้หรือไม่ ผลใช้ได้แฮะ 8) 8) 8) )
-
ขออำภัยอย่างแรง มีกล้องอยู่ในมือแต่รูปสักรูปไม่ได้ถ่ายเลย
ทำมา 3 วันล่ะ
??? เอาไว้ครั้งหน้าไม่มีพลาดคร๊าบ
-
แก้ไขเรื่องภาพที่ไม่ได้ถ่ายเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่มีเวลาลงภาพ ต้องเตรียมการ
ออกศูนย์อาชีวะบริการซ่อมสร้างเพื่อชุมชน
แต่ผลงานออกมาดีม๊ากๆ เดี๋ยวซิบอกปัญหา/วิธีป้องกัน รวมถึงกลโกลช่างยนต์นอกคอก... :o
โปรดคอยติดตาม.... เชื่อใจนาย ออโต้ แมน 8) 8) 8)
-
ปัญหาทั้งหมด แก้ได้แล้ว เดี๋ยวขอเวลา นายออโต้แมน เรียบเรียง รวบรวม ให้เห็นภาพกันจะๆ
ว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้เครื่องยนต์เดินเบาได้ราบเรียบ หัวเทียนไม่ดำ รหัส 12 ,14, 22 แก้ได้หมดแล้ว
อยากรู้... รีบสมัครเป็นสมาชิก เพราะว่ามีสิทธิโพสต์หรือตั้งกระทู้สอบถามได้ ไม่สมัครไม่ว่ากัน เป็นพวก
ชอบสอดรู้สอดเห็น ไม่ไปซ้ายไปขวา ทางไหนเข้าทางตรู ตรูเอา... อย่าเผลอ ว่างั้นเถอะ
มีเยอะสังคมไทยทุกวันนี้....
:( :( :(
-
นี่เลยรถโตโยต้า โคโรน่า สมัยนี้รุ่นนี้ไม่ผลิตขายแล้ว เหมือนกับรถโคโรล่า บางคนชอบหุ่นของรถรุ่นนี้เหมือนกัน
ราคาซื้อขายกันน่าจะอยู่ประมาณ 5-6 หมื่นบาท ถือว่าไม่แพงเลย
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/57125012)
ใช้เครื่องยนต์หัวฉีด EFI รุ่นพิมพ์นิยมครับ 4A-FE แต่ไม่มีออกซิเจนเซนเซอร์
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/57125013)
-
เมื่อรถสตาร์ทไม่ติด เจ้าของรถซึ่งเป็นสุภาพสตรี นำรถมาให้ดู ครูช้างเป็นคนรับรถ
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/57125017)
แจ้งว่าเมื่อวันก่อนๆ ก็ยังขับได้อยู่ แต่มาวันนี้สตาร์ทไม่ติด เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว มาลงมือกันเลย
- ลำดับแรก ลองเช็คประกายไฟที่หัวเทียนว่ามีมั๊ย โดยการถอดปลั๊กหัวเทียนและนำหัวเทียนอะไหล่มาทดสอบ
ว่ามีประกายไฟที่เขี้ยวหัวเทียนหรือไม่
- ผล มีประกายไฟ ---> ปกติ
มีประกายไฟ/มีไฟจุดระเบิด แต่เครื่องยนต์ไม่ทำงาน แสดงว่าต้องเป็นปัญหาที่จุดอื่น
การที่เครื่องยนต์จะทำงานได้นั้น จะต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่างด้วยกัน ตามที่ได้ร่ำเรียนกันมา คือ
1. ต้องมีไฟ
2. ต้องมีน้ำมัน
3. ต้องมีกำลังอัด
เมื่อมีไฟแล้ว สิ่งที่ต้องตรวจกันต่อไปคือ น้ำมัน กับ กำลังอัด
-
การตรวจเช็คแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง และการตรวจสอบการฉีดของหัวฉีด อาจจะดูยุ่งยากกว่าการวัดกำลังอัด
เพราะจากประวัติของรถคันนี้ เคยไปทำฝาสูบมา จนถึงยกเครื่องมือสองมาวางแทนเครื่องเดิม ซึ่งเครื่องมือสอง
อย่างที่เรารู้กันอยู่ว่า จะเอาความแน่นอน 100 % ไม่ได้ ขนาดศูนย์บริการแท้ๆ เมื่อยกเครื่องมือสองใส่ จะรับประกัน
งานแค่ 3 เดือนเอง เพราะเครื่องมือสองเป็นเครื่องที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว จะใช้งานมามากจนเครื่องหลวม หรือใช้งานมาน้อย
เครื่องอยู่ในสภาพดี เราไม่อาจจะบอกได้ ต้องเสี่ยงดวงกันเอาเอง
ดังนั้น... การตรวจเช็คขั้นต่อมาจึงเป็นการวัดกำลังอัดภายในกระบอกสูบของแต่ละสูบ
ผลการวัด ออกมาดังนี้
- สูบที่ 1 กับ สูบที่ 2 ได้กำลังอัด 50 ปอนด์/ตารางนิ้ว
- สูบที่ 3 กับ สูบที่ 4 ได้กำลังอัด 100 ปอนด์/ตารางนิ้ว
จากผลการวัด ปรมาจารย์ทั้งหลายที่อยู่ในช็อป บอกว่าประเก็นฝาสูบระหว่างสูบที่ 1 กับ สูบที่ 2 รั่วถึงกัน ทำให้เมื่อวัดกำลังอัด
จึงได้ค่าเท่ากัน ส่วนสูบที่ 3 กับสูบที่ 4 ค่ากำลังอัด 100 PSI นั้นน้อยเกินไปที่จะทำให้เครื่องยนต์ติดได้
ว่ากันไปอย่างนั้น หรือว่าเครื่องจะหลวม หมายถึงแหวนหลวม...
แต่ก่อนที่จะไปทำอย่างอื่น เลยเปิดฝาครอบวาล์ว เช็คระยะห่างลิ้น ทุกสูบอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน คือ
- วาล์วไอดี 0.20+- 0.05 มม.
- วาล์วไอเสีย 0.30+- 0.05 มม.
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/57125152)
-
ตัดสินใจเปิดฝาสูบมาดูกันให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย :(
เครื่อง 4A-FE เป็นเครื่องหัวฉีด การถอดฝาสูบไม่ต้องถอดท่อร่วมไอดีออกให้เสียเวลา/แรงงาน ให้ถอดฝาสูบยก
ออกมาด้วยกันเลย เพียงแต่ถอดสาย ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นพวก ท่อยางหม้อกรองอากาศ ปลั๊กสายไฟ สายเซนเซอร์
ต่างๆ ร่วมถึงท่อสูญญากาศต่างๆ
สรุปก็คือถอดชิ้นส่วนที่เกะกะออก เราจะยกฝาสูบออกมา...เอาจังซั่นซะจะได้รวบรัดขึ้น
หลังการถอดฝาสูบ และหงายฝาสูบขึ้นเพื่อดูว่าลิ้นมีการเปิดค้างหรือไม่ ผล ไม่มี
- ใช้น้ำมันเบนซิน ตรวจสอบการรั่วของลิ้น ปรากฎว่า มีการรั่วทุกสูบ แสดงว่า เครื่องมีกำลังอัดต่ำ เนื่องจากลิ้นรั่ว
ส่วนจะเครื่องหลวดมั๊ย ได้ใช้มือสัมผัสที่ขอบบนของกระบอกสูบ เพื่อเช็คหลิด ปรากฎว่าไม่มี มีเพียงคราบเขม่า
เพียงเล็กน้อย แสดงว่าเครื่องยังไม่สึกหรอมาก สรุป คือลิ้นรั่ว ก็เพียงแค่ทำการบดลิ้นเท่านั้น
-
จากนั้นถอดลิ้นออกมาเพื่อทำการบดลิ้น สังเกตดูการสึกหรอของลิ้น พบว่า
ลิ้นไอดีมีการสึกหรอ มากกว่าลิ้นไอเสีย ประมาณครึ่งหนึ่ง
ซึ่งเป็นปกติของเครื่องยนต์
ส่วนการรั่วของลิ้นที่พบเห็นในเครื่องยนต์
ลิ้นไอเสียจะรั่วมากกว่าลิ้นไอดี อันเนื่องมาจากเขม่าการเผาไหม้ต้องไหลผ่านหน้าลิ้นและบ่าลิ้น
บางครั้งมีการเกาะติดค้างที่หน้าสัมผัส สะสมมากขึ้นทำให้เกิดการรั่วได้มากกว่าไอดี
-
งานนะจบแล้ว แต่ยังลงเรื่องราวไม่จบ
... โปรดคอยติดตามกันต่อไป
-
อาจารย์คะไม่ทราบพอจะมีคู่มือซ่อมรถโตโยต้า 20 v ฝาดำ ไหมคะ