หมวดวิศวกรรม/เทคโนโลยียานยนต์ > Mitsubishi

Mitsubishi Lancer E-Car CB2A (1990-1995) ติดโค้ด 14

(1/2) > >>

Auto Man:
     เป็นงานที่ต่อเนื่องมาจากกระทู้นี้
==> มิตซูบิชิ แลนเซอร์ CB2A 1,500 ซีซี เช็คอ่านโค๊ดไม่ได้

   เจอโค้ดสองตัวมีอะไรกันบ้าง

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


   ได้ทำการตรวจสอบโค้ด 14 กันก่อน

Auto Man:
    มาดูวงจรในส่วนของ MAP Sensor ของรถ Mitsubishi Lancer 4G15
(วงจรเป็นรุ่น 4G13)

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ

Auto Man:
    เพื่อนๆ บางท่านอาจจะยังไม่มีความเข้าใจในหน้าที่ของ MAP Sensor
MAP Sensor มีหน้าที่ในการตรวจวัดแรงดันในท่อร่วมไอดี แล้วแปลงเป็น
แรงเคลื่อนไฟฟ้า ส่งให้กล่องอีซียู เพื่อใช้ในการประมวลผล

   แมพเซนเซอร์จะตรวจจับแรงดันในท่อไอดีดังนี้ 
- ถ้าแรงดันในท่อไอดีน้อย คือเป็นสูญญากาศหรือแรงดูดเยอะ แมพเซนเซอร์
  จะส่งแรงเคลื่อนไฟฟ้าค่าน้อยลง ไปให้กับกล่อง ECU
- ถ้าแรงดันในท่อไอดีมาก แมพเซนเซอร์ จะส่งแรงเคลื่อนไฟฟ้าค่าสูงขึ้น
  ถ้าแรงดันมากถึงขนาดแรงดันภายนอกท่อไอดีหรือแรงดันอากาศ แมพจะส่ง
  แรงเคลื่อนไฟฟ้า เกือบ 5 โวลท์เลยทีเดียว ไปให้กับกล่อง ECU   

Auto Man:
    ลองดูวงจรการทำงานของแมพเซนเซอร์ของรถยนต์ Toyota กัน
รถยี่ห้ออื่นๆ การทำงานจะเป็นลักษณะเดียวกันครับ

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ

Auto Man:
     ได้ตรวจสอบการทำงานของแมพเซนเซอร์โดยใช้โวลท์มิเตอร์
และใช้แวคคั่มเทสเตอร์ ผลออกมาตามภาพครับ

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


   อันดับแรก เราวัดไฟว่ามีมาเลี้ยงที่แมพเซนเซอร์หรือไม่ มีค่าเท่าไหร่ ?

    ต่อไป ลองวัดไฟขาออก (ขาว-ดำ) เทียบขากราวด์ (สีดำ) ในสภาวะ
  ที่มีแรงดูด (สูญญากาศ) ต่างๆ กัน
หมายเหตุ ตัวแมพเซนเซอร์ที่ดี เมื่อมีแรงดูดเพิ่มขึ้น ค่าแรงเคลื่อนไฟฟ้าจะลดลง

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

ดูเหมือนว่าคุณยังไม่ได้ลงทะเบียนสมาชิก ต้องการสมัครคลิ๊กที่นี่...
Go to full version