ข่าวประชาสัมพันธ์

มาร่วมเป็นกำลังใจให้เว็บด้วยการสมัครสมาชิกวีไอพี ~~ เลือกปีที่ท่านต้องการได้โดยไม่ต้องเรียงปี ~~ ปีละ 350 บาท สมัคร 2 ปีลดเหลือ 600 บาท ~~ มีไลน์กลุ่ม VIP จำนวนหลายร้อยท่าน เอาไว้ปรึกษางานซ่อม ~~ เข้าถึงข้อมูลด้านเทคนิค ข้อมูลเชิงลึกมากมาย.....


ผู้เขียน หัวข้อ: ปัญหาหนักหน่วงรถวิ่งอืด กินน้ำมัน ความร้อนขึ้น แก้ยังไม่จบ  (อ่าน 723 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37700
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
       อีกปัญหาหนึ่งในรถ CR-V G2 คือปัญหารถเร่งอืด ไม่มีกำลัง ลุกลามมาจนถึง
ความร้อนขึ้นสูง ยังแก้ไม่จบ

 - เริ่มจาก.... ปัญหาของรถวิ่งอืดและเป็นรถที่ติดแก๊ส LPG อาจจะต้องการมี
การตรวจเช็คระยะห่างวาล์ว 

    จากการตรวจสอบ ไม่มีวาล์วยันสักสูบ แต่ระยะห่างชิดกว่าค่ามาตรฐานของโรงงาน
ได้ทำการปรับแก้ไข โดยการปรับตั้งระยะห่างให้เป็นตามมาตรฐานโรงงาน

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


แล้วลองทดสอบใช้งาน ผลปรากฏว่า  รถวิ่งอืดน่าจะหนักกว่าเก่า
เลยต้องปรับตั้งวาล์วใหม่อีกครั้ง ให้ชิดลงกว่าเดิม ที่จำได้คือ ไอดี 15 ไอเสีย 20 แต่รถก็ยัง
มีอาการอืดเหมือนเดิม ก็ตัดปัญหารถวิ่งอืดเนื่องจากวาล์วยันนี้ออกไป

    มีบางอู่ใช้สูตรนี้เลย 10 12
10 น่าจะหมายถึงระยะห่างวาล์วไอดี
12 น่าจะหมายถึงระยะห่างวาล์วไอเสีย
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 กันยายน 2566, 08:36:02 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37700
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
    หลังจากตรวจสอบระยะห่างวาล์วแล้ว
   - ลำดับต่อมาเป็นการตรวจเช็คกำลังอัดในกระบอกสูบของเครื่องยนต์ เพื่อเช็คูว่า
บ่าวาล์วมีการทรุดตัวรือวาล์วมีการรั่วหรือไม่ ด้วยการใช้เครื่องวัดกำลังอัด
ผลการวัด
    จากการตรวจวัดทั้งสี่สูบ ค่ากำลังอัดอยู่ที่ประมาณ 110-135 ปอนด์/ตารางนิ้ว


ดูจากตารางการวัดกำลังอัด
( <- คลิ๊กเพื่อแสดง/ซ่อนเนื้อหา)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 กันยายน 2566, 07:42:30 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37700
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
    - ปัญหาเกจวัดความร้อนบางครั้งขึ้นสูง ได้นำเครื่องวิเคราะห์ปัญหารถยนต์
มาเชื่อมต่อและอ่านค่าอุณหภูมิของเครื่องยนต์ เริ่มจากประมาณ 30 องศาเซลเซียส
และค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ในช่วงนี้ไม่มีการเปิดแอร์ พัดลมหน้าเครื่องยังไม่ทำงาน
จนอุณหภูมิเครื่องยนต์ถึง 111 องศาเซลเซียส สวิทช์ความร้อน (Thermoswitch)
ถึงต่อวงจรลงกราวด์ ทำให้รีเลย์พัดลมหม้อน้ำทำงาน ทำงานได้สักแป๊บหนึ่ง อุณหภูมิลด
ลงมาอยู่ที่ 103-105 องศาเซลเซียสก็หยุดการทำงาน

      สาเหตุที่อุณหภูมิการ ON ตัวของเทอร์โมสวิทช์ ไม่ตรงกับสเปคที่บริษัทออกแบบมา
น่าจะมาจากหลายสาเหตุ ดังนี้
 - เทอร์โมสวิทช์ น่าจะเสื่อมค่าทำให้ทำงานช้ากว่ากำหนด ปกติจะออกแบบให้ทำงานที่
94-96 องศาเซลเซียส แต่ตัวนี้ทำงานที่ 111 องศาเซลเซียส
  - อีกปัญหาหนึ่งที่แอดมินคิดว่าน่าจะใช่หรือเปล่า คือปัญหามาจากปั๊มน้ำ
ใบพัดของปั๊มน้ำน่าจะโดนสนิมกัดกร่อน จนไม่สามารถทำให้น้ำไหลเวียน
ถ่ายเทความร้อนได้เต็มประสิทธิภาพ ทำให้การถ่ายเทความร้อนจากเครื่องยนต์
ไปยังหม้อน้ำจนถึงตัวเทอร์โมสวิทช์ น้ำไหลเวียนไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้อุณหภูมิ
ของเครื่องยนต์สูงกว่าอุณหภูมิของเทอร์โมสวิทช์ เนื่องจากตำแหน่งการติดตั้งของทั้งสองตัว
ไม่ได้อยู่ในที่เดียวกัน ทำให้การตรวจวัดอุณหภูมิทำงานของเทอร์โมสวิทช์คลาดเคลื่อน
ตำแหน่งการติดตั้ง
ตำแหน่งการติดตั้งของเทอร์โมสวิทช์ และตัวตรวจจับอุณหภูมิน้ำ ในรถ Honda CR-V G2
อยู่คนละตำแหน่งกัน กล่าวคือ
  - เทอร์โมสวิทช์ ติดตั้งอยู่ที่ด้านล่างของหม้อน้ำ
  - ตัวตรวจจับอุณหภูมิน้ำ ติดตั้งอยู่ที่ประมาณท่อทางน้ำออกของเครื่องยนต์ไปยังหม้อน้ำ

    ด้วยเหตุที่ตัวตรวจจับอุณหภูมิน้ำอยู่ใกล้จุดที่เกิดความร้อนก็จะทำให้
การวัดอุณหภูมิจุดนี้วัดได้อุณหภูมิที่สูงกว่าเทอร์โมสวิทช์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กันยายน 2566, 05:03:19 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai


ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37700
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
     เรื่องความร้อนของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะอุณหภูมิการทำงานของตัว
เทอร์โมสวิทช์ ที่สเป็กระบุมาว่าทำงานที่ 93-94 องศาเซลเซียส แต่รถคันนี้
ทำงานที่อุณหภูมิ 111 องศาเซลเซียส แต่จุดที่เราวัดน่าจะมีอุณหภูมิต่ำกว่า
ต่างกันกับจุด ECT ประมาณไม่น่าเกิน 10 องศา ดังนั้น อุณหภูมิที่เทอร์โมสวิทช์
น่าจะอยู่ราวๆ 101 องศา ก็ถือว่าจุดทำงานสูงเกินไป  ในเบื้องต้นนี้ก็น่าปรับ/แก้ไข
จุดการทำงานของพัดลมระบายความร้อนให้ตรงหรือใกล้เคียงกับสเป็กก่อน

    ก่อนหน้านี้
     ได้ทำการเปลี่ยนมอเตอร์พัดลมระบายความร้อนของหม้อน้ำไปแล้ว
มีอาการดีขึ้นสักสองสามวัน ก็กลับมาเป็นอีก โดยความร้อนจะขึ้นมากตอนวิ่งในซอย
ที่ใช้ความเร็วต่ำ วิ่งประมาณสักสองสามร้อยเมตร บางครั้งเกจ์ความร้อนก็ขึ้นเลยจุด
พอสมควร แต่ไม่ถึงกับฮีต
     เคยแก้ปัญหานี้  ด้วยการถอดเอาวาล์วน้ำ (เทอร์โมสตัท) ออก ผลที่ตามมาคือ
ความร้อนของเครื่องยนต์จะอยู่ประมาณ 80-90 องศาเซลเซียส ซึ่งน่าจะเป็นอุณหภูมิ
ที่ต่ำเกินไปหน่อย 

     ปัญหาที่ตามมาของการถอดวาล์วน้ำออกคือ อุณหภูมิการทำงานของหม้อต้มแก๊ส
จะขึ้นช้า  บางครั้งถ้าเราเริ่มให้เข้าแก๊สเร็ว ทำให้หม้อต้มเย็นตัวจนมีน้ำมาเกาะ แทนที่
หม้อต้มจะร้อนกลับกลายเป็นว่ามีอุณหภมิลดลง

     เคยใช้โปรแกรมจูนแก๊สเข้าไปดูอุณหภูมิที่หม้อต้ม เริ่มทำงานหม้อต้มมีอุณหภูมิ
30 องศาเซลเซียส พอสั่งเปลี่ยนเข้าแก๊ส อุณหภูมิของหม้อต้มเริ่มลดลงมาเป็น 29
28 27 ลดลงมาเรื่อยๆ จนมาถึง 20 องศาก็ได้หยุดการทดสอบ
     ปัญหานี้ น่าจะมาจากการที่เราถอดวาล์วน้ำออก ทำให้น้ำทางท่อทางย่อย ไม่มี
แรงดันมากพอ เพราะว่าไม่มีวาล์วน้ำคอยบังคับทิศทางน้ำนั่นเอง

   และอีกอย่างหนึ่งคือ มีอากาศอยู่ในระบบนั่นเอง

     เรื่องนี้เคยเจอกับเครื่องฝึก 5A-FE ที่ถอดวาล์วน้ำออก พอเข้าแก๊ส หม้อต้มถึง
กับมีน้ำแข็งเกาะ/อุดตันทางเดินของแก๊ส  แล้วทำให้เครื่องวูบดับไปเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 กันยายน 2566, 07:52:36 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37700
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
   และอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำไม่วนที่หม้อต้มแก๊สก็คือ มีอากาศในระบบ
ระบายความร้อน/หล่อเย็นนั่นเอง

    การแก้ไข อาจต้องถอดท่อน้ำที่เข้าที่หม้อต้มแก๊สและเติมน้ำให้เต็มท่อ
แล้วประกอบกลับคืน หรืออีกแนวทางหนึ่งคือเช็คเติมน้ำในระบบสักหนึ่งอาทิตย์
ในกรณีนี้ต้องใช้สายตาดูเกจ์ความร้อน จะต้องไม่สูงเกินขีดกำหนด
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37700
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
     อีกปัญหาหนึ่งในเรื่องความร้อนของเครื่องสูงเกินไป คือไฟจุดระเบิดอ่อนเกินไป
การแก้ไข ถ้าเป็นรถยนต์ที่มีจานจ่ายเราสามารถหมุนจานจ่ายเพื่อปรับองศาการจุดระเบิด
ได้อย่างง่ายดาย ไม่มีความยุ่งยากใดๆ

     แต่นี่เป็นระบบจุดระบิดแบบ Diret Coil ใช้กล่อง ECU ในการกำหนดตำแหน่งการ
จุดระเบิด ในรถคันนี้ตำแหน่งการจุดระเบิดที่รอบเดินเบาอยู่ที่ -7 ถึง 3 องศา ซึ่งเป็นตำแหน่ง
ที่ผิดปกติ แต่เราไม่สามารถปรับตำแหน่งได้
ตามสเปกของทางโรงงาน
- ระบุไว้ว่า "ตำแหน่งการจุดระเบิดอยู่ที่ 8 องศา (+/- 2 องศา) ก่อนศูนย์ตายบน (ฺBTDC)
     เคยปรับมุมการเปิดของลิ้นเร่ง (TPS) ในตำแหน่งเดินเบา ให้มีมุมการเปิดไปที่ 15 องศา
โดยใช้เครื่องสแกนทั่วๆ ไปทำการวัด แต่ถ้าใช้เครื่อง Launch X431 5C จะวัดมุม TPS ได้
ประมาณ 5.5 องศา (แปลกดีนะที่มุมที่วัดได้จากเครื่องสแกนได้ไม่เท่ากัน ลองเอาเครื่องสแกน
พวก MaxiScan MS509 กับ ..... วัดได้มุมเท่ากันคือ 15 องศา แต่พอมาใช้ Launch X431
กลับวัดได้ 5.5 องศา)

     จากการปรับมุมการเปิดของลิ้นเร่งดังกล่าว เวลาติดเครื่องยนต์เดินเบา ตำแหน่งไฟจุดระเบิด
มาอยู่ที่ประมาณ 15 องศาก่อนศูนย์ตายบน  ดังนั้นมุมการเปิดของลิ้นเร่งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
แต่ก็ไม่รู้ว่าค่าสเป็กของโรงงานกำหนดมาเป็นเท่าใดว่าเปิดกี่องศาที่รอบเดินเบา หรือวัดโวลท์ของ
TPS ว่าได้กี่โวลท์

     ท่านใดที่ใช้รถรุ่นนี้อยู่ (CR-V G2) และมีข้อมูลในเรื่องนี้ สามารถโพสต์แชร์ข้อมูลเข้ามาได้นะครับ

     แต่เท่าที่ทดลองสตาร์ทเครื่อง พอเครื่องติดตอนแรกรอบจะพุ่งไปที่เกือบ 2,000 รอบ/นาที
แล้วรอบค่อยตกลงมาอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 1,500 รอบ

     แต่ก่อนหน้านี้ก่อนที่จะมีการปรับ TPS เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รอบจะอยู่ที่ประมาณ 1,200 - 1,500 รอบ/นาที
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 กันยายน 2566, 05:10:33 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37700
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
   ย้อนไปเรื่องมุมการเปิดของ TPS (Thorttle Position Sensor) เพื่อนช่างต้องดูดีๆ
ว่าเครื่องสแกนกำหนดไว้ในหน่วยใด ไม่งั้นอาจทำให้เราปรับมุม TPS ผิดได้
หน่วยของ TPS ที่มีในเครื่องสแกน
- บอกหน่วยออกมาเป็นโวลท์ (V)
- บอกหน่วยออกมาเป็นองศา (Degree)
- บอกหน่วยออกมาเป็นเปอร์เซนต์ (Percentage)
     ต้องระมัดระวังในสองหน่วยหลังคือเป็นองศากับเป็นเปอร์เซนต์ ถ้าอ่านแบบไม่ตั้งใจ
ก็จะเข้าใจว่าเป็นหน่วยเดียวกัน

     ความจริงมันไม่ใช่ มันคนละหน่วย ดังนั้นเวลาอ่านค่าเครื่องสแกนแต่ละเครื่องนำมา
เทียบกันต้องอยู่ในหน่วยเดียวกัน
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37700
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
    ปัญหาของรถ CR-V G2 ที่มีคนเขาพูดกันว่าย้ายตำแหน่งติดตั้งของตัว Knock Sensor
จากตำแหน่งเดิมที่อยู่ตอนบนของเสื้อสูบสูบ 2-3 ไปยังตำแหน่งใหม่ที่อยู่ต่ำลงไปประมาณ
ตรงเหนือกรองออยเกียร์ A/T ซึ่งเขาบอกว่าทำให้รถหายอืด วิ่งดีขึ้น...ว่างั้น
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37700
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
    แต่เท่าที่ได้ทำการย้ายดู
ผลปรากฏว่า
   
อาการเครื่องยนต์ไม่ได้แตกต่างจากเดิม อาจจะแย่ลงกว่าเดิมด้วยละมั๊ง
ก็เป็นอีกหนทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหา เพื่อนช่างก็ต้องลองดูว่าในรถคันนันจะเป็นอย่างไร

   และได้ลองถอดเอาน็อกเซนเซอร์ไปใส่กับ Honda Jazz L15A1 ตัว Vtec
และทดลองติดเครื่อง/เดินเครื่องทดสอบ ทั้งเร่งและเบาเครื่อง และดูผลจากเครื่องสแกน
ปรากฏว่า เครื่องทำงานได้ปกติและน็อกเซนเซอร์ ส่งค่าโวลท์ออกมาในรอบเดินเบา
ได้ค่าโวล์ประมาณ 0.14 - 2.1 โวลท์
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37700
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
    เลยย้ายน็อกเซนเซอร์กลับไปยังตำแหน่งเดิม

    แต่ว่านักเรียนลืมเสียบสายสัญญาณน็อกเซนเซอร์ให้
    ผลก็คือเครื่องอืดหนักกว่าเดิม และมีไฟโชว์ แจ้งปัญหาเป็นน็อกเซนเซอร์

    การที่ไม่ได้เสียบสาย Knock Sensor    เครื่องสแกนจะอ่านค่าได้ประมาณ 0.14 V. 
ค่าการทำงานของน็อกเซนเซอร์ พอแบ่งได้เป็นดังนี้
   - ช่วงเดินเบาอยู่กับที่ ไม่มีโหลดแอร์หรืออื่นๆ จะอยู่ที่ 0.14 - 2.1 V
   - ช่วงขับตั้งแต่ความเร็วต่ำไปจนถึงความเร็วสูง ประมาณ 0.14 - 0.68 V
เป็นค่าโดยประมาณนะครับ เพราะแอดต้องขับรถไปด้วย อาจจะมีคลาดเคลื่อนบ้างนะครับ
เอาไว้เป็นตัวอ้างอิงการทำงานของน็อกเซนเซอร์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 กันยายน 2566, 08:54:09 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37700
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
    หลังเสียบสายน็อกเซนเซอร์เข้าไปแล้ว

    ได้ทำการรีเซ็ทกล่อง ECM ด้วยการใช้เครื่องสแกน Launch X431 5C
(การ Reset ECM ในเครื่องล้อนช์ถือเป็นเรื่องง่ายๆ )

ผลหลังการรีเซ็ทกล่อง ECM Honda CR-V G2 (2002-2006)
     ติดเครื่องอยู่กับที่การตอบสนองของเครื่องดีพอสมควร ไม่แสดงอาการงอแง
ให้เห็น แต่เมื่อนำรถออกไปวิ่ง
    แต่ผลออกมา เครื่องวูบลงหนักกว่าเดิม ยิ่งเหยียบคันเร่ง องศาจุดระเบิด -30 องศา
แบบนี้จะไม่ให้เครื่องร้อนขึ้นได้ยังไง กดไป 2-3 ครั้ง เกจความร้อนขึ้นเกินพิกัด
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


   
 

99การาจ

 
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37700
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
    หลังการ Reset ECM แล้ว

    จะต้องมีการเลิร์นิ่งการทำงานของกล่อง ECM
ด้วยวิธีการตามกระทู้นี้ครับ

==>    การรีเซ็ตกล่อง ECM รถยนต์ Honda

    อยากรู้ กดตามลิ้งค์ไปครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 กันยายน 2566, 09:19:46 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai