ข่าวประชาสัมพันธ์

มาร่วมเป็นกำลังใจให้เว็บด้วยการสมัครสมาชิกวีไอพี ~~ เลือกปีที่ท่านต้องการได้โดยไม่ต้องเรียงปี ~~ ปีละ 350 บาท สมัคร 2 ปีลดเหลือ 600 บาท ~~ มีไลน์กลุ่ม VIP จำนวนหลายร้อยท่าน เอาไว้ปรึกษางานซ่อม ~~ เข้าถึงข้อมูลด้านเทคนิค ข้อมูลเชิงลึกมากมาย.....


ผู้เขียน หัวข้อ: *** แชร์การซ่อมแอร์รถยนต์กับการเปลี่ยนคลัทช์คอมแอร์ ตอนที่ 2  (อ่าน 1625 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


     แชร์ประสบการณ์ ซ่อมแอร์รถยนต์ต่อจากคราวที่แล้ว ผมเป็นคนประเภทหัวแข็ง โดยเฉพาะเรื่องเสียเงิน ฮ่าๆๆ อยู่ๆ มาบอกว่าคอมแอร์พังเลยเหรอ ยังไม่เห็นดูอะไรมากเลย เอาง่ายเข้าว่า หวังจะฟันราคากับเราหรือเปล่าเนี่ย
                ก็ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อช่างซ่อมเสียทีเดียวและคิดว่าอาจจะเป็นตามที่ช่างแนะนำก็ได้ แต่ที่ไม่เลือกซ่อมทันทีกับร้านแรก แล้วขับรถออกมาก่อนเพราะช่างประเมินราคาค่าเปลี่ยนคอมแอร์ใหม่ พร้อมเติมน้ำยาแอร์ ถ้าจำไม่ผิดราคาเกือบ 4,000 กว่าบาทล่ะมั้ง ก็เลยอยากลองเช็คค่าซ่อมอีกสักหน่อย ลองไปถามร้านที่สอง บอกว่าเปลี่ยนคอมแอร์ของจีนไหม ถ้าจำไม่ผิด ลูกหนึ่งก็ประมาณ 2,500 บาท รวมเติมน้ำยาด้วยก็ 3,000 บาท แต่จำได้ว่าร้านที่สองตีราคาให้ถูกกว่า
                แต่ผมก็ยังไม่เลือกซ่อมกับร้านนี้ ขับรถออกมาอีก เพราะยังติดใจอะไรบางอย่างเล็กน้อย เลยยอมทนร้อน ยังไม่ซ่อม ที่ว่าเอะใจคือ ถ้าคอมแอร์พัง แอร์คงไม่สามารถกลับมาเย็นได้อีก แต่จากที่รู้ตัวว่าแอร์รถยนต์มีปัญหา ก็พบว่าแอร์เย็นๆ หายๆ อยู่หลายรอบ และจากที่ลองสังเกตุอาการ จากที่แอร์ไม่ทำงานแล้วอยู่ๆ ก็ทำงานขึ้นมา จะได้ยินเสียงเครื่องยนต์มีโหลดจากการทำงานของคอมแอร์ มีการตัดและต่อการทำงานของคลัทช์คอมแอร์ และในช่วงที่แอร์ไม่เย็น เสียงการทำงานที่ว่าก็จะเงียบหายไป
                อุปกรณ์ในระบบแอร์ของรถยนต์ที่จะทำหน้าที่ตัดและต่อการทำงานของคอมแอร์ก็คือ คลัทช์หน้าคอมแอร์ ถ้าสาเหตุมาจากอุปกรณ์ตัวนี้จริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนคอมทั้งลูก ในใจก็คิดว่าคอมแอร์จะเสียก็ไม่ว่ากัน ถ้าเสียก็ต้องซ่อมอยู่แล้ว แต่อยากเช็คให้แน่ใจว่าไม่ได้เสียแค่คลัทช์หน้าคอมแอร์แค่นั้น
                แล้วก็เป็นโชคดีของผมที่ร้านแอร์ร้านที่สามเป็นช่างที่มีความชำนาญ และไม่คิดแก้ปัญหาแบบง่ายๆ เอะอะอะไรก็จะให้เปลี่ยน แต่ค่อยๆ เช็คจากปัญหาเล็กๆ จุดเล็กๆ ของระบบไปหาจุดใหญ่ คุยกันแล้วรู้สึกว่าช่างคนนี้แหละใช่เลย ช่างบอกว่าอาการแบบนี้มาจากคอมแอร์ไม่ทำงาน แต่จะเป็นเพราะคลัทช์หน้าคอมแอร์เสียแค่นั้นหรือเปล่าต้องถอดมาเช็คดูก่อน ถ้าคลัทช์คอมแอร์ทำงานปกติก็แสดงว่าคอมเสีย ก็ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งลูก
                ได้เห็นช่างวิเคราะห์อาการและให้คำแนะนำแบบนี้ ผมก็ไม่เกี่ยงและไม่รู้สึกเสียดายเงินค่าซ่อมหรอกนะ ช่างไปก้มๆ ถอดคลัทช์หน้าคอมแอร์หน้าห้องเครื่องยนต์อยู่ไม่นานนัก ก็ถือคลัทช์มาให้ดูบอกว่าตัวนี้แหละที่เสีย ทำให้ผมลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมจากที่ต้องจ่ายๆ ประมาณ 4,000 บาท สรุปการซ่อมแอร์ในครั้งนั้นจ่ายค่าคลัทช์คอมแอร์ไป 600 บาท และค่าเติมน้ำยาแอร์ใหม่ เย็นเจี๊ยบอีก 400 บาท รวม 1,000 บาท ขับรถกลับบ้านสบายใจ
                ช่วงนี้ใครเจอปัญหาแอร์เสียแอร์ไม่เย็นก็อย่าเพิ่งร้อนใจ ค่อยๆ ตั้งสติ และไตร่ตรองให้ดีว่าควรจะต้องทำอย่างไร หลายคนเห็นแอร์ไม่เย็นก็ร้อนกายจนร้อนใจ อยากจะซ่อมให้เสร็จๆ จนต้องจ่ายแพงเกินความจำเป็น

    ขอบคุณบทความหรือกระทู้ดีๆ มาจากที่นี่...

  ข้อคิดสำหรับช่างยนต์
 - ไม่ควรรีบวินิจฉัย เพื่อหวังผลในการเปลี่ยนอะไหล่ ควรตรวจเช็คจากอาการง่ายๆ - ไปหาอาการใหญ่ๆ เพื่อช่วยลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่าย
 - ควรมีจรรยาบรรณช่าง

    อยากติดตามตอนที่ 1 ก็อ่านกระทู้ถัดไป ฮ่า ๆ ๆ
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


ก่อนหน้านี้ไม่นานผมเขียนแชร์ประสบการณ์การซ่อมเบรครถของตัวเองไปครั้งหนึ่ง สาระสำคัญที่อยากจะแชร์ไม่ใช่เรื่องของการซ่อมหรือว่าทำอะไรกับระบบเบรคไปบ้าง แต่ประเด็นที่อยากจะแชร์คือ การประเมินราคาค่าซ่อมที่ค่อนข้างสูงของสถานบริการบางแห่ง
                นอกจากจะเสนอการซ่อมที่ค่อนข้างจะเกินความจำเป็นแล้ว ราคาค่าซ่อมเบ็ดเสร็จแล้วค่อนข้างสูง หากไม่มีความรู้เรื่องรถยนต์เลย เวลาฟังที่ช่างแนะนำอาจจะดูน่ากลัว หรือถ้าไม่ทันได้คิดและไตร่ตรองให้ดี ก็อาจจะหลวมตัวซ่อมตามคำแนะนำและต้องจ่ายค่าซ่อมในราคาที่มหาแพงนั้นได้
                ระหว่างที่เขียนแชร์ประสบการณ์เรื่องเบรคก็นึกขึ้นมาได้ว่า ก่อนหน้านั้นก็เคยเจอปัญหาลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว แต่เป็นคนละระบบกัน ตอนนั้นเป็นระบบปรับอากาศหรือระบบแอร์ของรถไม่เย็น
                ย้อนไปสักประมาณปีกว่าๆ เป็นช่วงที่อากาศกำลังร้อนๆ แบบนี้เลย ช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคมนี่แหละ ระหว่างที่ขับรถตามปกติ อยู่ๆ แอร์ก็เกิดไม่เย็นขึ้นมา ความเย็นหายไปจากห้องโดยสารเสียอย่างนั้น มีเพียงลมร้อนๆ เท่านั้นที่เป่าออกมาจากตู้แอร์ ตายล่ะหว่า! เหงื่อแตกพลั่กๆ เลย อากาศก็ร้อนอยู่แล้ว ไหนจะต้องมาเสียเงินซ่อมแอร์อีก ยิ่งร้อนหนักเลยทีนี้ ขับรถไม่มีความสุขเลย แต่ก็ตั้งสติ เปิดกระจกรับลมแล้วค่อยๆ คิดพร้อมทั้งสังเกตุอาการไปด้วยว่าที่แอร์ไม่เย็นน่าจะเป็นเพราะอะไร
                หลังจากที่รู้สึกว่าแอร์เริ่มไม่เย็น ผมไม่ได้นำรถเข้าไปที่อู่เพื่อซ่อมแอร์ทันที เพราะระหว่างที่ขับๆ อยู่นั้น และกำลังคิดว่าน่าจะเป็นเพราะอะไร แอร์ก็เย็นขึ้นมาเป็นปกติ และก็ขับได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรไปอีกหลายวัน แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะการที่อยู่ๆ แอร์ก็ไม่เย็นแบบนั้นคงไม่ใช่เรื่องปกติแน่นอน ต้องมีปัญหาอะไรสักอย่าง ถ้านำรถเข้าไปหาช่างเลย ช่างเองก็อาจจะยังไม่สามารถหาสาเหตุได้เหมือนกัน ถ้าเจอช่างดี ก็โชคดีไป ก็คงจะค่อยๆ ไล่เช็คไปทีละจุด แต่ถ้าเจอช่างไม่ดี ก็คงแนะนำให้เปลี่ยนโน่นซ่อมนี่ไปเรื่อย ผมจึงค่อยๆ คิดและสังเกตุอาการด้วยตัวเองก่อน อย่างน้อยก็ใช้ไปจนแอร์ไม่เย็นแล้วจริงๆ ค่อยขับรถไปหาช่าง
                ทีแรกก็คิดว่าตู้แอร์อาจจะตัน แอร์อาจจะเย็นจัดจนเป็นน้ำแข็ง ซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากแอร์ไม่ตัด หรือไม่ก็เป็นไปได้ว่าตู้แอร์อาจจะรั่ว ระหว่างที่ใช้รถไปตามปกติเช่นเคย ก็มีจังหวะที่แอร์ไม่เย็นขึ้นมาอีก จนรู้สึกหงุดหงิดเหมือนกัน เพราะอากาศก็ร้อน รถก็ติด แอร์ไม่เย็นแบบนี้มันเป็นอะไรที่แย่สุดๆ ไปเลย จนคิดว่าไปหาช่างดีกว่า จะซ่อมหรือเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยนเลย ไม่ไหวแล้ว ร้อน!
                ลองไปสอบถามร้านซ่อมแอร์อยู่ 2 ที่ ช่างทั้ง 2 ที่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า คอมแอร์พังแล้ว ต้องเปลี่ยนใหม่ แต่ผมยังติดใจอะไรบางอย่างเล็กน้อย เลยยอมทนร้อน ยังไม่ซ่อม ขับรถออกมาก่อน สรุปแล้วครั้งนี้กับแอร์เสียผมต้องเปลี่ยนคอมไหม หรือต้องซ่อมอะไร ติดตามกันต่อได้ที่กระทู้ด้านบน  (วนอยู่นี่แหละ)
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai