ลองเข้าไปตามลิ้งก์ รับรองมีเรื่องดีๆ ให้ได้อ่านกัน
http://www.geocities.ws/aircav1st/index.htmยกตัวอย่างมาสัก 1 เรื่อง 5 5 5
๑๗๘ นาทีในสภาพอากาศปิด ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง
สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบ ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง
สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบ นักบินที่ไม่เคยได้รับการฝึกบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบินมาก่อนเลย จะสามารถทำการบินในลักษณะสภาพอากาศปิด และมองไม่เห็นพื้นดินเลย ได้นานเท่าไร
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง
สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบ คำตอบนี้ทางสถาบันการบิน มหาวิทยาลัยอิลลอนอยส์ได้ทำการทดลอง โดยให้นักบินที่ไม่เคยฝึกบินด้วยเครื่องวัดประกอบการบินมาก่อนเลย จำนวน ๒๐ นาย ทำการบินด้วยอากาศยานจำลองและสมมุติสถานการณ์ให้บินในสภาพอากาศปิด ผลปรากฏออกมาว่า ไม่มีใคร่ที่จะสามารถทำการบินไปได้ตลอด อากาศยานพุ่งลงชนพื้นดินทั้งหมด ผู้ที่บินได้ดีที่สุดและนานที่สุด บินได้นานถึง ๘ นาที หรือ ๔๘๐ วินาที ส่วนนักบินที่บินอยู่ได้ในเวลาที่สั้นที่สุด เพียง ๒๐ วินาที่เท่านั้น และสรุปผลเวลาเฉลี่ย ได้นาน ๑๗๘ วินาที หรือเกือบ ๓ นาทีเท่านั้น
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง
สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบ สถานการณ์ที่สมมุติให้ทำการทดลองเป็นดังนี้ ท้องฟ้ามีเมฆปกคลุมโดยทั้วไป ทัศนะวิสัยจำกัด และตามที่นักบินได้รับรายงานจากหอบังคับการบิน แจ้งว่า ทัศนะวิสัยประมาณ ๕ ไมล์ แต่อันที่จริงดูแล้วน่าจะเป็นเพียง ๒ ไมล์ เท่านั้น ท่านไม่ทราบว่า ความสูงยอดเมฆที่อากาศแจ่มใสเป็นเท่าใด
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง
สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบ ขณะที่เครื่องวัดความสูงชี้ที่ ๑,๕๐๐ และท่านรู้ว่าภูมิประเทศข้างล่างสูง ๑,๒๐๐ ฟุต เหนือระดับน้ำทะเล โดยดูจากแผนที่ และก็ไม่แน่ใจว่าจะมีพวกเสาวิทยุ เสาอากาศสูงๆ อยู่ด้วยหรือไม่ อีกอย่างหนึ่ง ท่านก็รู้ตำแหน่งที่อยู่ของท่านโดยประมาณเท่านั้น อาจจะตกซ้ายหรือขวานิดหน่อยก็ได้ทั้งนี้เพราะท่านไม่เคยสนใจใช้เทคนิคการเดินอากาศโดยการใช้วิทยุช่วยในการเดินอากาศรักษาเส้นทางบินเลย แต่ไม่เป็นไร อากาศเลวยิ่งกว่านี้ ก็เคยบินมาแล้ว เมฆหรือฝนเป็นหย่อมๆ ทำให้มองไปข้างหน้าไม่ดีเดี๋ยวเห็นเดี๋ยวไม่เห็น
ความรู้สึกใต้สำนึกจะทำให้ท่านดึงคันบังคับมาข้างหลังเล็กน้อย เพื่อให้พ้นสิ่งกีดขวาง เช่น พวกเสาวิทยุต่างๆ และแล้วท่านก็หลุดเข้าไปในเมฆโดยไม่ทันรู้ตัว มองเห็นแต่เมฆขาวไปหมดรอบด้าน ท่านเริ่มรู้สึกตื่นกลัวเล็กน้อย แต่ก็ยังมีความหวังว่า อีกประเดี๋ยวก็คงจะพ้นน่ะ ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกเหมือนกับว่า เจอของจริงแล้ว
ขณะนี้ท่านจะมีเวลาเหลืออยู่เพียง ๑๗๘ นาที อากาศยานของท่านอยู่ในอากาศที่ดี แล้วท่านสังเกตเห็นเข็มทิศค่อย ๆ หมุนไปอย่างข้าๆ แสดงว่าหัวเครื่องเริ่มเลี้ยวไป ท่านก็แก้มันให้หยุดเลี้ยวโดยอาศัยการดูเครื่องวัดๆประกอบ แต่ทว่ามันฝืน ๆ กับความรู้สึกอย่างไรชอบกล เอาละมันหยุดหมุนแล้ว และท่านก็คืนคันบังคับให้อยู่ในตำแหน่งปกติเป็นบินตรงบินระดับต่อไป แต่เข็มทิศมันเริ่มหมุนอีกแล้ว หมุนเร็วกว่าเดิมด้วยซ้ำ และความเร็วในเครื่องวัดๆ เพิ่มกว่าปกติเล็กน้อย ท่านกวาดสายตาตรวจดูเครื่องวัดๆทั่วๆไป เพื่อหวังอาศัยมันเป็นหลัก แต่ในขณะนี้มันกลับดูแปลกผิดหูผิดตาไปหมด เพราะความไม่เคยชิน ถึงอย่างไรก็ตามท่านก็ยังมีความมั่นใจอยู่ว่าท่านจะสามารถทำการบินต่อไปได้อีกหลายนาทีจนกว่าจะพื้นเมฆกลุ่มนี้ ท่านคิดผิดเสียแล้ว ขณะนี้ท่านยังมีเวลาเหลืออยู่อีก ๑๐๐ วินาที ท่านดูที่เครื่องวัดความสูงและต้องตกใจที่เห็นมันกำลังลดลงอยู่เรื่อย ๆ และชี้ที่ ๑,๒๐๐ ฟุต ซึ่งเท่ากับความสูงของภูมิประเทศพอดี ด้วยสัญชาติญาณ ท่านก็ดึงคันบังคับมาข้างหลัง เพื่อให้อากาศยานได้สูงขึ้น แต่เข็มในเครื่องวัดความสูงมันกลับลดลงไปอีก หูท่านได้ยินเสียงรอบเครื่องยนต์ มันดังแรงขึ้น เข็มวัดความเร็วชี้เกือบถึงขีดแดงอยู่แล้วขณะนี้ท่านยังมีเวลาเหลืออยู่อีก ๕๐ วินาที ท่านรู้สึกว่าเหงื่อกาฬไหลออกมาท่วมตัว ไม่รู้ว่าจะบังคับเครื่องได้อย่างไรแล้ว ตั้งใจจะให้หลุดการเสียความสูง มันกลับกลายเป็นทำให้เข็มชี้ความเร็วชี้เกินขีดแดงไปเสียอีกหูของท่านเริ่มอื้อแล้วได้ยินแต่เสียงลมแรงที่พัดผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ขณะนี้ท่านมีเวลาเหลืออีกเพียง ๑๐ วินาที ทันใดนั้นท่านหลุดออกมาจากสภาพอากาศปิด เห็นพื้นเต็มหน้า ยอดต้นไม้วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว และมองเห็นแนวขอบฟ้า แต่ทว่าอากาศยานของท่านอยู่ในอาการที่แก้ไม่ทันเสียแล้ว สิ่งที่ทำได้ในขณะนี้คือรอความตาย
ขณะนี้ท่านหมดเวลาเสียแล้ว ช้าไปเสียแล้ว ........
ไปอ่านเรื่องดีๆ มีสาระต่อได้ที่นี่...
http://www.geocities.ws/aircav1st/safety_files/ifr.htmขอบคุณกองร้อยบิน กองพลทหารม้าที่ 1 จังหวัดเพชรบูรณ์