ข่าวประชาสัมพันธ์

มาร่วมเป็นกำลังใจให้เว็บด้วยการสมัครสมาชิกวีไอพี ~~ เลือกปีที่ท่านต้องการได้โดยไม่ต้องเรียงปี ~~ ปีละ 350 บาท สมัคร 2 ปีลดเหลือ 600 บาท ~~ มีไลน์กลุ่ม VIP จำนวนหลายร้อยท่าน เอาไว้ปรึกษางานซ่อม ~~ เข้าถึงข้อมูลด้านเทคนิค ข้อมูลเชิงลึกมากมาย.....


ผู้เขียน หัวข้อ: ความหนักเบาของพวงมาลัย  (อ่าน 15853 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37146
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
ความหนักเบาของพวงมาลัย
« เมื่อ: 11 มีนาคม 2559, 14:57:33 »
  • ขึ้นบน
  • ลงล่าง
  • ความหนักเบาของพวงมาลัย แต่ละรุ่นไม่เหมือนกัน
    ที่เคยขับมา ...

    CR-V G2 ... พวงมาลัยหนักครับ หนืดใช้ได้เลย ยิ่งเร็ว ยิ่งหนัก
    CR-V G3 2.0 ไฟฟ้า ... รายนี้เบาใช้ได้ครับ เบากว่า G2 พอสมควร แต่ขับเร็วมันก็หนักนะ แช่ 180 มันก็นิ่ง เดินทางไกล ถนนตรงๆยาวๆ ผมจับพวงมาลัยมือเดียวตลอด อีกมือท้าวที่เท้าแขนครับ
    CR-V G3 2.4 ไฮดรอลิค ... หนืดขึ้นมาหน่อย ผมชอบฟิลลิ่งเค้านะ
    Civic FD ... หนักนะ น้ำหนักเยอะเลยล่ะ เพียงแต่เค้าเซ็ทมาค่อนข้างไว หักปุ๊บไปปั๊บ ใครไม่ชินก็จะบ่นว่า มันไว แต่ใครชอบขับรถพวงมาลัยคมๆ ก็จะชอบ
    CR-V G4 ... ยอมรับว่า เบาจริง เบากว่า G3 เสียอีก ขับเร็วแม้จะหน่วง แต่ก็รู้สึกว่า ยังเบา แต่ถามว่า ถึงกับต้องประครองเลยไหม ... คงไม่ล่ะครับ ก็แช่ 140 - 150 ได้สบายๆอยู่นะ มือเดียวด้วยแหละ

     - ขอบคุณท่านเด็กบูรพา ที่ให้ข้อมูล  ... ที่มา ...

    ขับมิตซูซีเดียร์มา9ปี. พอมาขับนิวซีอาร์2013 เบาจนไม่มั่นใจเลยค่ะ กลัวหลุด

    อ้าว ผมนึกว่าจะเป็นแต่เจ้า City ของผมคันเดียว

    มันไม่หนึบ ว๊อกแว๊กง่าย ไม่เหมือนขับกระบะอีซูสุ
    ส่วนมาสด้า ผมพอใจตั้งแต่ออกกระบะหน้าตาเหมือน
    เก๋งเมื่อ 20 กว่าปีมาแล้ว หลายอย่างในตัวมาสด้า
    ผมชอบมาก

    เป็นปกติครับ ฮอนด้าเบาทุกคัน แต่โตโยต้าจะเบากว่าอีก ถ้าไม่ใช่คัมรี่
    ในพวกรถเล็กถ้าจะเอาให้ดีใกล้ๆ Mazda3 สงสัยต้องดู Swift ซึ่งก็อาจจะไม่หนักมั่นคงเท่า เพราะต้องทำมาเผื่อผู้หญิงขับด้วย
    สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
    ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

    ออฟไลน์ Auto Man

    • Administrator
    • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
    • *****
    • เจ้าของกระทู้
    • Joined: ก.ย. 2558
    • กระทู้: 37146
    • สมาชิกลำดับที่ : 1
    • เพศ: ชาย
    • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
      • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
      • อีเมล์
    ความหนักเบาของพวงมาลัย
    « ตอบกลับ #1 เมื่อ: 11 มีนาคม 2559, 14:57:57 »
  • ขึ้นบน
  • ลงล่าง
  • พวงมาลัยเพาเวอร์ รุ่นปกติที่ใช้กันนั้น น้ำหนักของพวงมาลัย จะหนักหรือเบา ขึ้นอยู่กับ ปั้มน้ำมันไฮดรอลิคซึ่งทำงานโดยหมุนตามรอบเครื่อง โดยมีสายพานและพู่เล่ เป็นตัวฉุดกำลังครับ

    **** ปกติ บริษัทรถยนต์ จะออกแบบทดกำลังของพวงมาลัยเพาเวอร์มาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมครับ ****
    การที่ผู้ใช้รถต้องการให้พวงมาลัยหนักหรือเบาขึ้น สามารถปรับแก้ได้ 2 จุดครับ คือ

    1. เปลี่ยนหน้ายางให้ใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงครับ (ใหญ่ = หนักขึ้น, เล็ก = เบาลง)
    2. เปลี่ยนขนาดพู่เล่ให้เล็กหรือใหญ่ขึ้น (เล็ก = เบาลง, ใหญ่ = หนักขึ้น)

    แต่ไม่ว่าการเปลี่ยนในลักษณะไหนก็ตาม ก็จะทำให้ระบบเพาเวอร์ทำงานผิดจากปกติ ซึ่งอาจจะทำให้ปั๊มน้ำมันไฮโดรลิคเสื่อมสภาพเร็วขึ้น (ยิ่งการทำให้พวงมาลัยเบาขึ้นโดยการเปลี่ยนขนาดพู่เล่ หรือปรับเปลี่ยนหน้ายางให้ใหญ่ขึ้น)

    ปั๊มน้ำมันไฮไดรลิคของพวงมาลัยเพาเวอร์บางรุ่น ที่กระปุกพวงมาลัยจะมีวาล์วแปรผันปรับการทำงานด้วยไฟฟ้า ซึ่งส่งสัญญาณมาจาก ECU แจ้งความเร็วของรถ (ปกติรถยิ่งวิ่งเร็ว พวงมาลัยยิ่งเบา แต่ถ้ามีวาล์วแปรผัน ตัววาล์วจะปรับแรงดันน้ำมันให้พวงมาลัยหนักขึ้น ช่วยให้ความปลอดภัยมากขึ้น) ฉนั้นการที่ผู้ใช้จะปรับเปลี่ยนขนาดของพู่เล่ เพื่อปรับขนาดของน้ำหนักพวงมาลัย จะต้องคำนึงและระวังถึงระบบปั๊มน้ำมันไฮโดรลิคให้มากด้วยครับ
    สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
    ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

    ออฟไลน์ Auto Man

    • Administrator
    • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
    • *****
    • เจ้าของกระทู้
    • Joined: ก.ย. 2558
    • กระทู้: 37146
    • สมาชิกลำดับที่ : 1
    • เพศ: ชาย
    • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
      • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
      • อีเมล์
    ความหนักเบาของพวงมาลัย
    « ตอบกลับ #2 เมื่อ: 11 มีนาคม 2559, 14:58:55 »
  • ขึ้นบน
  • ลงล่าง
  • พวงมาลัยเพาเวอร์ รุ่นปกติที่ใช้กันนั้น น้ำหนักของพวงมาลัย จะหนักหรือเบา ขึ้นอยู่กับ ปั้มน้ำมันไฮดรอลิคซึ่งทำงานโดยหมุนตามรอบเครื่อง โดยมีสายพานและพู่เล่ เป็นตัวฉุดกำลังครับ

    **** ปกติ บริษัทรถยนต์ จะออกแบบทดกำลังของพวงมาลัยเพาเวอร์มาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมครับ ****
    การที่ผู้ใช้รถต้องการให้พวงมาลัยหนักหรือเบาขึ้น สามารถปรับแก้ได้ 2 จุดครับ คือ

    1. เปลี่ยนหน้ายางให้ใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงครับ (ใหญ่ = หนักขึ้น, เล็ก = เบาลง)
    2. เปลี่ยนขนาดพู่เล่ให้เล็กหรือใหญ่ขึ้น (เล็ก = เบาลง, ใหญ่ = หนักขึ้น)

    แต่ไม่ว่าการเปลี่ยนในลักษณะไหนก็ตาม ก็จะทำให้ระบบเพาเวอร์ทำงานผิดจากปกติ ซึ่งอาจจะทำให้ปั๊มน้ำมันไฮโดรลิคเสื่อมสภาพเร็วขึ้น (ยิ่งการทำให้พวงมาลัยเบาขึ้นโดยการเปลี่ยนขนาดพู่เล่ หรือปรับเปลี่ยนหน้ายางให้ใหญ่ขึ้น)

    ปั๊มน้ำมันไฮไดรลิคของพวงมาลัยเพาเวอร์บางรุ่น ที่กระปุกพวงมาลัยจะมีวาล์วแปรผันปรับการทำงานด้วยไฟฟ้า ซึ่งส่งสัญญาณมาจาก ECU แจ้งความเร็วของรถ (ปกติรถยิ่งวิ่งเร็ว พวงมาลัยยิ่งเบา แต่ถ้ามีวาล์วแปรผัน ตัววาล์วจะปรับแรงดันน้ำมันให้พวงมาลัยหนักขึ้น ช่วยให้ความปลอดภัยมากขึ้น) ฉนั้นการที่ผู้ใช้จะปรับเปลี่ยนขนาดของพู่เล่ เพื่อปรับขนาดของน้ำหนักพวงมาลัย จะต้องคำนึงและระวังถึงระบบปั๊มน้ำมันไฮโดรลิคให้มากด้วยครับ

    ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


    ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ที่ใช้ในเครื่องยนต์หัวฉีดที่ควบคุมด้วยอิเล็คทรอนิคส์ (EFI) ในปัจจุบันจะมีระบบชดเชยรอบเดินเบาพวงมาลัยเพาเวอร์ติดตั้งอยู่ด้วย เนื่องจากการหักเลี้ยวพวงมาลัยในขณะรถจอดอยู่กับที่ หรือที่ความเร็วต่ำๆ จะทำให้กำลังของเครื่องยนต์ลดลง ระบบชดเชยรอบเดินเบาพวงมาลัยเพาเวอร์ประกอบด้วยวาล์วควบคุมอากาศที่ทำงานด้วยไฮดรอลิก และวงจรสุญญากาศที่ต่อบายพาสลิ้นปีกผีเสื้อ เมื่อไหร่ก็ตามที่แรงดันในระบบพวงมาลัยเพาเวอร์สูงเกินกว่าวาล์วควบคุมที่ตั้งไว้ วาล์วก็จะเปิดให้แรงดันส่วนเกินบายพาสออกไป เราสามารถทดสอบการทำงานโดยการหมุนพวงมาลัยในขณะจอดรถอยู่กับที่ และฟังเสียงของรอบเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้น

    สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
    ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

    ความหนักเบาของพวงมาลัย
    « ตอบกลับ #2 เมื่อ: 11 มีนาคม 2559, 14:58:55 »


    ออฟไลน์ Auto Man

    • Administrator
    • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
    • *****
    • เจ้าของกระทู้
    • Joined: ก.ย. 2558
    • กระทู้: 37146
    • สมาชิกลำดับที่ : 1
    • เพศ: ชาย
    • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
      • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
      • อีเมล์
    ความหนักเบาของพวงมาลัย
    « ตอบกลับ #3 เมื่อ: 11 มีนาคม 2559, 14:59:57 »
  • ขึ้นบน
  • ลงล่าง
  • กระปุกเพาเวอร์รั่ว มีอยู่ 3 จุดครับ
    จุดแรก ตรงน๊อตที่ปรับตั้งระยะฟรี อาจจะคลาย แต่ถ้ารั่วจุดนี้ น้ำมันจะออกเยอะ แค่ขับเข้าไปให้แน่น
    ก็จบ  อีก 2 จุดที่เหลือก็คือ ตรงซีล ด้านใต้ที่แกนกระปุก ไปต่อกับมือลิง และที่แกนพวงมาลัยทิ้มเข้าไปนั่นแหละ
    แต่ส่วนใหญ่จะเป็นที่ด้านใต้มากกว่า แก้โดย เปลี่ยนซีลครับ การทำก็เอาไปร้านซ่อมครับ แฮ่ๆ...
    ของผมรั่วมา 3 ปีเพิ่งได้ซ่อมไปเมื่อ 3 เดือนที่แล้วนี่เอง

    ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ

    สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
    ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

    ออฟไลน์ Auto Man

    • Administrator
    • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
    • *****
    • เจ้าของกระทู้
    • Joined: ก.ย. 2558
    • กระทู้: 37146
    • สมาชิกลำดับที่ : 1
    • เพศ: ชาย
    • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
      • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
      • อีเมล์
    ความหนักเบาของพวงมาลัย
    « ตอบกลับ #4 เมื่อ: 11 มีนาคม 2559, 15:00:31 »
  • ขึ้นบน
  • ลงล่าง
  • ถ้าเป็นชนิดกระปุก ระบบมันแยกจากกัน ครับ น้ำมันเพาเวอร์ก็ต่างหาก น้ำมันที่หล่อลื่นชุดเกียร์ก็ต่างหาก
    ถ้าเป็นชนิกแร็ก ระบบมันจะรวมกัน และจะใช้น้ำมันเพาเวอร์เป็นตัวหล่อลื่นไปในตัว

    ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ

    สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
    ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

    ออฟไลน์ Auto Man

    • Administrator
    • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
    • *****
    • เจ้าของกระทู้
    • Joined: ก.ย. 2558
    • กระทู้: 37146
    • สมาชิกลำดับที่ : 1
    • เพศ: ชาย
    • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
      • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
      • อีเมล์
    ความหนักเบาของพวงมาลัย
    « ตอบกลับ #5 เมื่อ: 11 มีนาคม 2559, 15:01:48 »
  • ขึ้นบน
  • ลงล่าง
  • อ้างถึง
    ก่อนนี้ผมก็เคยเป็นครับ พวงมาลัยมีระยะฟรีมาก ตอนแลกก็คิดว่าเป็นที่กระปุก
    แต่ผมลองใช้คีมจับที่แกนพวงมาลัยก่อนเข้ากระปุกให้อยู่กับที่
    แล้วลองหมุนพวงมาลัยดูพบว่ายังมีระยะฟรีอยู่มากเหมือนเดิม
    จึงวิเคราะห์ว่ามันน่าจะหลวมที่จุดใดก่อนถึงกระปุกพวงมาลัยที่จะไปถึงช่วงล่าง
    ก็เจอสาเหตุว่า ลูกเต๋าที่ยอยพวงมาลัยหลวมครับ
    สรุปเข้าร้านเปลี่ยนชุดซ่อมลูกเต๋า ราคาชุดซ่อมจำไม่ได้แต่ไม่ถึงหลักพันครับ

    อ้างถึง
    พวงมาลัยพาวเวอร์ รถกระบะ ความจริงต้องมีน้ำหนักซักหน่อยถึงจะดี เบามากๆเวลาบรรทุก อันตราย ความจริงจะทำให้เบาก็ทำได้ครับ คือเปลี่ยนแร็กพวงมาลัยพาวเวอร์ครับ แต่จะคุ้มหรือเปล่าเท่านั้น คือรถที่บริษัทผม  มีอยู่คันหนึ่งแร็กพวงมาลัยเสีย  ก็เลยไปเปลี่ยนแร็ก พาวเวอร์และสายพานขับปั้ม พาวเวอร์มา ตัวแร็กเป็นของมือสองสภาพใหม่ ถามช่าง ช่างบอกว่าเป็นของวีโก้   แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า จริงๆแล้วเป็นของรถอะไร แต่ผลที่ออกมา มันเบามาก เบาจนไม่มีน้ำหนักเลย หมุนนิ้วเดียวสบายเลย และเหมือนว่าวงเลี้ยวจะแคบลงด้วย แต่ในแง่การใช้งาน เมื่อขับความเร็วสูงๆมันเบาเกินไปครับ เบาจนน่าจะอันตรายเวลาหักหลบ อะไรเวลาใช้ความเร็วสูงๆ 


    ส่วนตัว ถ้าจะให้เบาขึ้น ลองเปลี่ยนน้ำมันพาวเวอร์ ใหม่ดูก่อน  ของผมเปลี่ยนเอง แต่ผมจะซื้อมา 2 กระป๋อง กระป๋องแรก ผมจะใช้เพื่อไล่ น้ำมันเก่าออกจากระบบ แล้วจึงใช้กระป๋องที่ 2 เติมครับ ผลที่ออกมาพวงมาลัยเบาเหมือนใหม่เลยครับ

    ผมว่าซ่อมดีกว่าครับ(ซื้อมาเปลี่ยนก็ลุ้นเหมือนเดิม+ ยิ่งกว่าเดิม)เพราะของผมก็มีอาการเดียวกับพี่โอ๋กล่า วมาคือพวงมาลัยหนักมากแต่อาการไม่ได้ลามปามเหมือนพี่ แค่น้ำมันแห้งเฉยๆก็เปลี่ยนซีลแล้วเติมน้ำมันเข้าไปก ็ไหลลื่นเลยครับ ของผมยางหน้ากว้าง9.5นิ้ว(ใหญ่กว่าล้อหลังธรรมดาเสีย อีก)ก็หมุนได้สบายครับ หนักมือนิดหน่อยแต่เวลาขับเบามากครับ

    ป. ตอนแกะกระปุกต้องอาศัยช่างผู้ชำนาญนะครับ ส่วนผมนั่งดูพี่โอ็คกับช่างอุ้ยแล้วลุ้นตามครับ

    ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ

    สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
    ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

    ความหนักเบาของพวงมาลัย
    « ตอบกลับ #5 เมื่อ: 11 มีนาคม 2559, 15:01:48 »