หมวดวิศวกรรม/เทคโนโลยียานยนต์ => ห้องซ่อม (Service Shop) => แชร์ประสบการณ์ซ่อม => ข้อความที่เริ่มโดย: Auto Man ที่ 08 ตุลาคม 2563, 15:43:27

หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 08 ตุลาคม 2563, 15:43:27
    อาจจะเรียกได้ว่า
"หนึ่งงานคือหนึ่งประสบการณ์"
ซึ่งต้องสั่งสม พบเจอเหตุในรูปแบบต่างๆ
ซึ่งช่างเองจะต้องวิเคราะห์และลงมือซ่อมให้ตรงจุด งานจะได้จบ เจ้าของรถเจ็บน้อยที่สุด

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62737783)

     มีรถตู้สำหรับรับส่งนักเรียน มีปัญหาหลายอย่างที่ช่างแก้ไม่ตก อยากจะนำรถเข้ามาให้ช่วย
วิเคราะห์ปัญหา

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62737786)
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 08 ตุลาคม 2563, 15:53:09
     การปรึกษาเริ่มจากทางโทรศัพท์คุยกันก่อนว่า รถคันนี้ติดโค๊ด P0093 ซึ่งถ้าดูตามโค๊ดแล้ว
ได้ความว่า

  " ตรวจพบน้ำมันเชื้อเพลิงในระบบรั่ว/รั่วมาก "

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62737784)

   ซึ่งถ้ารถวิ่งอยู่ ไฟเช็คเอนจิ้นจะเด้งขึ้นมา พร้อมกับรถมีอาการตื้อเร่งไม่ขึ้น อั้นอยู่ไม่เกิน 2,000 รอบ หลัง
จากนั้นเครื่องจะดับลง

   เมื่อทำการปิดสวิทช์กุญแจ และเปิดใหม่ เครื่องจะมีอาการเป็นปกติ เหมือนไม่ได้เกิดอะไร แต่ถ้ามีไฟเช็คเด้ง
ขึ้นมาเมื่อไหร่ อาการเดิมจะมาทันที

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62737785)
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 08 ตุลาคม 2563, 16:12:18
     ลองใช้เครื่องสแกนจับแรงดันในรางคอมมอนเรล ได้ประมาณนี้ในขณะเดินเบา

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62737787)

    แปลงหน่วยกันหน่อยให้เป็นเมกกะปาสคาล

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62737788)

   ซึ่งค่าที่ได้ ถือว่าอยู่ในสภาวะปกติของรถคอมมอนเรลทั่วๆ ไป ที่รอบเดินเบาแรงดันจะอยู่ประมาณ 28-30 Mpa
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 08 ตุลาคม 2563, 16:19:14
    มาดูว่าเครื่องทำงานอยู่ที่รอบเท่าไหร่

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62737789)

      ต่อไปมาดูค่า Injection Feedback ของแต่ละสูบกันบ้างว่าเป็นอย่างไร

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62737790)

   ซึ่งค่าฟีดแบคของแต่ละสูบ ที่ดีจะต้องมีค่า บวก/ลบ ไม่เกิน 3 ครับ จากภาพได้บน ถือว่าค่านี้ใช้ได้ครับ
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 08 ตุลาคม 2563, 16:26:56
     ต่อไปมาดูค่าระยะการฉีด จะมีการฉีดนำ ที่เรียกว่า Pilot Injection กับฉีดหลัก (Main Injection)

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62737791)

    รถรุ่นนี้มีการฉีดนำเพียง 1 ครั้งและก็ฉีดตาม อีก 1 ครั้ง ในรอบเดินเบา
แต่เมื่อไหร่ที่เราเร่งรอบสูงๆ น่าจะเกินสองพันรอบ การฉีดจะฉีดเมนเพียงอย่างเดียว

   ในรถรุ่นต่อๆ มา มีการพัฒนาการฉีดเป็น 4 ครั้งละมั๊ง เช่น รุ่นวีโก้แชมป์ หรือรุ่นต่อมาก็รีโว้

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


   ภาพนี้เป็นเครื่องคอมมอนเรลของรถแบ๊กโฮล์ Doosan เอามาให้ดูจะได้เห็นลักษณะของการฉีดนำ
ฉีดเมนและฉีดตามเป็นยังไง
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 08 ตุลาคม 2563, 16:32:02
   ดูจากดาต้าในรอบเดินเบาแล้ว ไม่พบรายการใดที่จะเป็นปัญหาเลย แต่เห็นว่าเมื่อเร่งไป
สักประมาณ 3000 รอบ/นาที ที่เป็นความเร็วที่คนขับรถรับส่งนักเรียนคันดังกล่าวใช้ประจำ
เครื่องจะมีอาการวูบลง จับดาต้าดูพบว่าแรงดันน้ำมันในราง ลดลงเรื่อยๆ แต่ถ้าเร่งเกินรอบ
ดังกล่าวไปรถจะมีอาการปกติ แรงดันรางก็เพิ่มขึ้นปกติเช่นกัน
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 08 ตุลาคม 2563, 16:38:34
    ถ้าถามว่ารถคันนี้ไปทำอะไรมาแล้วบ้าง

    เริ่มจากนำรถไปซ่อมที่อู่แห่งหนึ่งบอกว่าน่าจะเป็นอาการเกี่ยวกับปั๊มคอมมอนเรล ตกลงซ่อมปั๊มกัน
ไม่รู้ว่าช่างทำอะไรบ้าง แต่ว่าหมดไปหลายตังค์ อาการเช็คเด้ง ยังเป็นเหมือนเดิม โดยก่อนซ่อมบอกว่า
อาการนี้ซ่อมปั๊มหายแน่นอน
 

     แต่จนแล้วจนรอด อาการรถก็ยังเหมือนเดิม ได้นำรถกลับซ่อมที่อู่ดังกล่าวหลายครั้ง เจ้าของอู่บอกว่า
ต้องมีอะไหล่ตัวอื่นมีปัญหาจะต้องเปลี่ยนเพิ่มเติมอีก


    เจ้าของรถเกิดความไม่มั่นใจ ประกอบกับอู่ดังกล่าวอยู่ไกลจากบ้านตัวเอง(ไปซ่อมข้ามจังหวัด เห็นแต่
ว่าราคาถูกกว่าบ้านตัวเอง) วิ่งไปแก้งานหลายรอบแล้วไม่จบ  เลยตัดสินใจเปลี่ยนอู่ใหม่

หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 08 ตุลาคม 2563, 16:48:45
     อู่ต่อมาสอบถามประวัติรถ เจ้าของรถคันนี้เป็นมือที่สาม (ไม่ใช่มือที่มองไม่เห็นนะ 5 5 5)
โดยรู้แต่ว่าเจ้าของแรกมีการไปติดตั้งกล่องดันราง แต่ปัจจุบันได้ปลดออกก่อนที่จะมาถึงมือเจ้าของรถ
คนปัจจุบัน

     อู่เลยถอดหัวฉีดออกมาดู และแนะนำให้เปลี่ยนชุดปลายหัวฉีดทั้งสี่หัว ตกหัวละหลายพัน รวมกันเป็นเงิน
หมื่นกว่าบาท เจ้าของตัดสินใจเปลี่ยนตามคำแนะนำอยากให้งานจบ จะได้นำรถไปทำงานรับส่งนักเรียน
     แต่ว่ามันไม่จบเท่านั้นสิครับ ปัญหาไฟเด้ง ยังคงเป็นปัญหาที่ช่างยังแก้ไม่ตก

     เจ้าของรถเริ่มรู้สึกเอือมระอา ทั้งรถ ทั้งช่างแล้วว่างั้นเถอะ แต่จะทำยังไงได้...

    ช่างเองก็ปวดหัว มึนตึ๊บ นอนก็คิดว่าคงไม่หลับเต็มตื่นสักเท่าไหร่หรอก เจ้าของรถเอ๊ย...
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 08 ตุลาคม 2563, 16:52:06
      มาถึงช่างมือที่สาม เท่ากันกับรถเลย(มือที่สาม 5 5 5) ช่างก็สอบถามก่อนซ่อมก่อนรับงาน
ว่ารถคันนี้ไปทำอะไรมาแล้วบ้าง ก็ว่า....กันไป

      ช่างคนที่สาม....คิด....
- ปั๊มก็ไปทำมาแล้ว
- หัวฉีดก็ทำมาแล้ว

    ทีนี้...เหลืออะไรอีกล่ะ

   เอ้า... สมาชิกที่ติดตามเรามา ช่วยกันคิด ร่วมช่วยช่างคนที่สามหน่อยว่า
เขาควรจะดำเนินการซ่อมต่อไปอย่างไรดี...

หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 31 มีนาคม 2566, 10:28:42
   เมื่อวาน (30 มีนาคม 66) มีเพื่อนสมาชิกทักไลน์มา บอกว่าไปซื้อรถตู้มือ...
จากเต็นท์รถ อาการก็เป็นตั้งแต่ซื้อรถมานั่นแหละ เต็นท์ก็พยายามแก้ไขให้ แต่ไม่จบ

   น่าเห็นใจ เจ้าของรถท่านนี้จริงๆ ซื้อรถมาใช้งานนะครับ ไม่ได้ซื้อมาซ่อม....

   ทำมาหลายอย่าง ตั้งแต่ปั๊ม... ยันมาถึงหัวฉีด

   SCV เปลี่ยนไป 7-8 รอบ 5 5 5 ถ้าเป็นรถเบนซิน เขาเรียกว่ารถกินหัวเทียน
แต่นี่เป็นเครื่องคอมมอนเรลดีเซล ทำไมมันกิน SCV ขนาดนั้น
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 31 มีนาคม 2566, 10:31:46
   แอดก็เลยมาเปิดกระทู้ย้อนดู

   อ้าว... แอดเล่าครั้งก่อน ยังเล่าไม่จบ

   แต่ว่างาน  จบไปนาน จนจำไม่ได้แล้วว่า ท้ายสุด สุดท้าย จบงานยังไง
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 31 มีนาคม 2566, 10:36:36
    ช่างคนที่สามที่กล่าวถึงก็เป็นลูกศิษย์/ศิษย์เก่า ได้นำรถตู้รับส่งนักเรียนของลุงวัยเกษียณ
ขายรถคันเก่าแล้วมาซื้อรถตู้คอมมิวเตอร์ ปีก็น่าจะ 05-06 นี่แหละ โดยลูกหลานหวังจะดาวน์
รถคันนี้ให้ แล้วให้ผ่อนต่อเอา จะได้รถใหม่ๆ ดูทันสมัยและปลอดภัย

    พูดถึงรถคันนี้มีความทันสมัยในเรื่องของระบบสื่อสารของรถ ใช้ระบบ CAN สามารถใช้หัว
Mini-VCI ทั่วไปร่วมกับโปรแกรมเทคสตรีม เชื่อมต่อได้อย่างง่ายๆ เลย ระบบ CAN ยังครอบคลุม
ในเรื่องระบบแอร์ด้วย

    สามารถเข้าฟังก็ชั่นพิเศษ สั่งตัดหัวฉีดทีละหัวในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานได้เลย
เหมือนกับเราอยากเช็คว่าสูบไหนทำงานหรือไม่ทำงาน เราก็ชักปลั๊กหัวเทียนทีละสูบ
ในเครื่องยนต์เบนซิน อารมณ์ประมาณนั้นเล
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 31 มีนาคม 2566, 10:47:10
    ดูค่าจากดาต้า ก็เหมือนรถปกติ แต่พอวิ่งๆ ไป ถ้ามีไฟรูปเครื่องยนต์โชว์เมื่อไหร่
เป็นอันต้องรีบหลบเข้าข้างทาง อาการเร่งได้ไม่เกินสองพันรอบ และสักหน่อยเครื่องก็ดับ

    อะไรๆ ก็ทำงานปกติหมด จับโค้ดก็ได้โค๊ด "นรก" อย่างที่ว่า P0093

    จะไปทางไหนต่อดี

    หัวฉีด...ทำมาแล้ว
    ปั๊ม......ทำมาแล้ว
    SCV....ก็เปลี่ยนมาแล้ว
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 31 มีนาคม 2566, 10:52:59
   เหลืออยู่ก็แต่ รางคอมมอนเรลกับเซนเซอร์ท้ายราง

   ลองสับอะไหล่ใส่ดู อาการก็ทำท่าดีขึ้น ไม่ดับบ่อย เหมือนแต่ก่อน

   ได้คุยกับหัวอกคนเป็นเจ้าของรถ ก็อยากจะซ่อมให้จบๆ ตัวไหนเสียจริง
ก็ให้เปลี่ยน แต่ว่าถ้าเปลี่ยนไปแล้ว อาการยังเหมือนเดิม ก็สงสารเจ้าของรถ

   จึงเป็นที่มาของการทดลอง ลองนำอะไหล่ตัวที่คิดว่าเสีย/เสื่อม นำมาใส่
แล้วออกไปวิ่งทดลอง แต่ว่าลำบากลูกหลานนักเรียนที่อาศัยรถไปโรงเรียน
รถเสียกลางทาง คิดสภาพดูเอาครับ

    เลยตัดสินใจสั่ง รางคอมมอนเรลพร้อมเซนเซอร์ท้ายราง มาใส่...
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 31 มีนาคม 2566, 10:58:39
    หลังจากอะไหล่ รางคอมมอนเรล+ท้ายราง มาแล้ว จัดการถอดเปลี่ยน
เข้าไปแทน และให้เจ้าของรถนำรถไปใช้งานดู

    ใช้งานไปสักสองสามวัน  รถวิ่งดีเหมือนปกติ
ก็ดีใจทั้งช่างและเจ้าของรถ จบงานได้ซะที

   แต่ไม่นาน รถขับกลับมาอีกแล้ว พร้อมกับอาการเดิม งานนี้...หัวเริ่มจะมึนๆ ล่ะ

   เอ... แล้วมันจะเกี่ยวกับกล่อง ECU หรือเปล่า
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 31 มีนาคม 2566, 11:04:33
   เลยตัดสินใจหยิบกล่อง ECU ของรถวีโก้ 2.5 ใส่เข้าไปแทน

    ก็สตาร์ทติดได้เหมือนกัน แต่ว่าพอออนสวิทช์เท่านั้นแหละ พัดลมโบลเวอร์
ของแอร์ทำงานทันที (ระบบควบคุมแอร์มันไม่เหมือนกัน -ระบบแคน)

    ไม่รู้จะไปทางไหนแล้วล่ะ เลยให้เอากล่องใบนี้ไปทดลองใช้งานดูไปก่อน
เพราะว่าถ้าตัดสินใจเปลี่ยนกล่อง ECU แล้วมันไม่จบ เจ้าของรถก็จะเจ็บครับ
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 31 มีนาคม 2566, 11:08:49
   ผ่านไปสองสามวัน ได้รับรายงานว่า ใช้งานได้ดี

   ช่างก็เลยดูดไฟล์ของกล่องเดิม แล้วนำมาทำการรีแมพใหม่เข้าไป
แก้อาการที่ว่า มีการไปปรับเพิ่ม/ลดบางแมพ แล้วอัดกลับผ่านหน้าปลั๊ก
OBD-II เข้าไปเลย งานนี้หลับเป็นหลับ 5 5 5
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 31 มีนาคม 2566, 11:12:56
    ก็หวังว่าจะจบด้วยดี...

    แต่ว่าหายไปสักสองสามวัน มาอีกล่ะ....
    ระหว่างที่ทำการแก้ไข สังเกตุกล่อง ECU มีอาการตัวร้อนผิดปกติ
เลยคิดว่าน่าจะเป็นที่ชิปภายในของกล่อง (จำเบอร์ชิปไม่ได้แล้ว)
เห็นว่าได้ส่งกล่องไปเปลี่ยนชิป

    หลังจากนั้นก็ไม่เห็นกลับมาอีกเลย
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 31 มีนาคม 2566, 11:14:58
   ก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่า งานนี้ จบด้วยการเปลี่ยนชิปที่กล่องอีซียู
หรือว่าได้แก้ไขอะไหล่ตัวอื่นด้วย

    เดี๋ยวจะทักถามช่างให้อีกทีนะครับ

    แล้วจะนำมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง

   ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันมา
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 05 เมษายน 2566, 10:55:48
     วันนี้ได้มีโอกาสเจอศิษย์เก่าที่รับรถคันนี้มาทำและจบส่งงานไปเรียบร้อยแล้ว
สำหรับท่านที่อยากจะรู้จริงๆ ว่าเคสนี้จบได้อย่างไร เล่นเอาช่างและเจ้าของรถ
นอนไม่หลับไปหลายๅ วัน

     ขอสงวนไว้สำหรับสมาชิกที่มีจำนวนชั่วโมงบินสูง 5 5 5 หรือว่าสะสมปี
สมาชิกวีไอพีได้ 10 ปี ขึ้นไปก็จะได้ประสบการณ์อันมีค่านี้ เอาไว้ทำมาหากิน
แก้ไขรถให้ลูกค้าได้ตรงจุด
    เพราะประสบการณ์ในครั้งนี้ ผ่านอู่ไปหลายอู่/หลายช่าง เปลี่ยนอะไหล่ไปหลายชิ้น
ไม่ว่าจะเป็น (เรียงลำดับไป อะไหล่ไม่ได้เปลี่ยนในครั้งเดียว ไปแต่ละอู่ก็จะสอบถาม
แบบที่เรารู้กันว่า ก่อนหน้านี้ไปทำอะไรมาแล้วบ้าง แล้วก็จะเปลี่ยนอะไหล่ตัวที่เหลือหรือ
ตัวที่ยังสงสัยอยู่ต่อไป)
ไปอู่แรก รถวิ่งไปแล้วติดโค้ด P0093 ตรวจพบมีการรั่วของระบบเชื้อเพลิงจำนวนมาก
อาการของรถ เริ่มจากไฟรูปเครื่องโชว์ แล้วรถจะวิ่งไม่ออก รอบทำงานได้ไม่เกินสองพัน
แล้วเครื่องก็จะดับลง  เมื่อปิดสวิทช์ออฟ และสตาร์ทเครื่องใหม่ เครื่องจะติดและใช้งานได้ปกติ
แต่ถ้าเมื่อไรมีไฟเช็คเอ็นจิ้นโชว์ ก็จะเข้าอีหรอบเดิม

     เจ้าของรถอึดอัดใจมาก เพราะเป็นรถรับส่งนักเรียน เรียกว่าจะหมดทางทำมาหากินกันเลย
ลูกค้าชักจะไม่ไว้วางใจใช้บริการล่ะ

    อู่แรก ทำการซ่อมปั๊มคอมมอนเรล
    อู่ที่สอง ทำการซ่อมหัวฉีดทั้ง 4 หัว หมดไปเป็นหมื่น
    อู่ที่สาม เปลี่ยนรางคอมมอนเรลและท้ายราง หมดไปสามพันกว่าบาท
             ส่งกล่องอีซียู ไปเปลี่ยนชิป ไม่จบ
     แต่ด้วยความพยามยามและรับผิดชอบงาน จะต้องจบให้ได้ และเจ้าของรถ
     เจ็บให้น้อยที่สุด สุดท้ายก็จบงานได้
หัวข้อ: ขอเรียกว่า "มหากาพย์การซ่อม TOYOTA Hiace Commuter "
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 05 เมษายน 2566, 11:38:43
   ได้เวลามาเฉลยการจบงานของเคสนี้กัน เรียกว่าเจ้าของรถหมดเงินไปหลายหมื่น

คุณต้องมีสิ่งต่อไปนี้เพื่อดูเนื้อหาโพสต์นี้:
  • คุณต้องเป็นสมาชิกของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งต่อไปนี้: สมาชิก VIP, วีไอพีสะสม 10 ปี, ผู้สนับสนุนเว็บ/Sponsor.