ข่าวประชาสัมพันธ์

มาร่วมเป็นกำลังใจให้เว็บด้วยการสมัครสมาชิกวีไอพี ~~ เลือกปีที่ท่านต้องการได้โดยไม่ต้องเรียงปี ~~ ปีละ 350 บาท สมัคร 2 ปีลดเหลือ 600 บาท ~~ มีไลน์กลุ่ม VIP จำนวนหลายร้อยท่าน เอาไว้ปรึกษางานซ่อม ~~ เข้าถึงข้อมูลด้านเทคนิค ข้อมูลเชิงลึกมากมาย.....


ผู้เขียน หัวข้อ: ใครมีัปัญหาแบคไฟร์บ่อยๆ ลองอ่านดูครับเผื่อจะเป็นเหมือนกัน  (อ่าน 1545 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออนไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37161
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
อ้างถึง
พอดีรถของคุณพ่อวาง 2J-Vvti ใน cameo มาประมาณ ปีกว่า ก็เริ่มมีปัญหา Back-fire ตลอด เหยีบคันเร่งแรงไม่ได้ เบามากก็ดับ เบื้องต้นลองให้ช่างที่ต่างจังหวัดดูให้ พอดีผมอยู่กรุงเทพ ผมเลยไม่ได้ดูให้เอง ช่างจัดการเปลี่ยน หม้อต้ม เปลี่ยน คอยล์ เปลี่ยนหัวเทียน เปลี่ยนสายหัวเทียน ล้างปีกผีเสื้อ ปรากฏว่าดีขึ้นอยู่เดือนนึง เป็นอีกครับ อาการเดิม ช่างก็เชียร์ให้เปลี่ยนเครื่องอย่างเดียวเรย บอกว่า vvti มัปัญหากันเยอะ ยกทิ้งกันทั่งนั้น ดูท่าทางพ่อก็อยากเปลี่ยนเครื่องใจจะขาด
ผมทนไม่ได้เลยไปเอารถมาลองใช้ดู ก็ลองไล่ระบบใหม่ครับ ตั้งแต่คอยล์ สายหัวเทียน เปลี่ยนชุดใหม่ มือสอง เปลี่ยนหัวเทียนใหม่ใช้ได้ อาทิตย์กว่าๆ ก็ดีครับไม่มีปัญหา แต่พออาทิย์ที่สองเริ่มเร่งแรงๆ แล้ว Backfire อีกแล้ว ก็หาสาเหตุท่ออากาศต่างๆ เปลี่ยนเป็นซิลิโคนหมด ไม่มีรั่ว ก็ยังเป็นอยู่ ถอดปีกผีเสื้อล้างก็แล้ว ก็ยังไม่หาย แต่ที่สังเกต หลังจากมีการทำอะไรกับหัวเทียนหรือสายหัวเทียนแล้วมั นจะดีขึ้นซักพักนึง แล้วจะมีอาการเดิมอีก ปรึกษาอู่มา 3 อู่ ฟันธงว่าเป็นที่คอยล์และสายหัวเทียนแน่นอน ผมซื้อเปลี่ยนมา 4 ชุดแล้วครับ ทั้งหาเอง ทั้่งให้ช่างหาให้ เหมือนเดิมครับ ใช้ได้ไม่นาน เป็นอีก แต่อาการพอจะกระเตื้องขึ้นบ้าง แต่ยัง Backfire อยู่ พอดีพ่อรีบใช้รถเลยให้ไปใช้ก่อนอีก 2 เดือน ต้องเอากลับมาใหม่อีกที คราวนี้ไม่ไหวแล้วครับ รื้ออีกครั้ง เอาหัวเทียนออกมานั่งวิเคราะห์เลย ว่า Spec มันผิดหรือเปล่าหว่า

สุดท้ายเจอร่องรอยครับ ที่หัวเทียน ถ้าเอาหัวเทียนใหม่มาเทียบจะเห็นเลยครับ มันเหมือนรอยแตกร้าวสีดำเป็นเส้นที่แกนเซรามิคสีขาว สังเกตุจะเห็นเป็นเส้นจากหัวจุกของหัวเทียน ลงมาที่ฐานหัวเทียนที่เป็นหกเหลี่ยมที่เราใช้ขันหัวเ ทียนลงบล๊อคอ่ะครับ ก็เลยสันนิษฐานว่าเบ้าซิลิโคนของสายหัวเทียนคงหลวมจน ไฟมันสามารถสปาร์ควิ่งข้ามลงมาที่ฐานได้ เปรียบเหมือนไฟรั่วลงกราวทันทีที่มีไฟจ่ายมาที่หัวเท ียน ก็เลยลองหาซื้อสายหัวเทียนใหม่ก็ไม่มีขาย เลยไปหาซื้อเซียงกง สภาพไม่ต่างกันเลย ใส่อีกคงรั่วอีก เลยตัดสินใจซื้อเทป 3M สำหรับพันอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง ม้วนละ 280 ที่คลองถม มาพันที่ฐานน๊อตของหัวเทียนที่จะใช้ขันหัวเทียนเข้าบ ล็อกอ่ะครับ พัน1-2รอบพอเดี๋ยวเสียบเบ้าซิลิโคนของสายหัวเทียนไม่ลง หรือขันไม่ได้ คุณสมบัิติของเทปคือ ป้องกันไฟฟ้าแรงสูง และละลายเป็นเนื้อเดียวกันเมื่อโดนความร้อน ทำให้ไม่มีจุดให้ไฟรั่วออกมาได้ เท่านั้นแหล่ะครับ ใส่กลับไป อาการต่างๆ หายสนิทเลยครับ


สรุป: อาการ Backfire สาเหตุของรถพ่อผม อยู่ที่ ระบบไฟครับ เบื้องต้นสงสัยคอยล์ ซึ่งหลายๆ กรณีเป็นที่คอยล์จริงครับ หรือสายหัวเทียนรั่ว ซึ่งส่วนมากก็เป็นกรณีนี้เหมือนกัน แต่รถพ่อผมเจออาการซ่อนที่เบ้าซิลิโคนของสายหัวเทียน มันไม่แน่นพอ เนื่องจากเก่าแล้วมันเริ่มแข็งและร้าว ทำให้ไฟกระโดดจากขั้วหัวเทียน ลงกราวที่ฐานหัวเทียนของตัวมันเองซะอย่างงั้น สรุปถ้าทราบอาการ ใช้งบ 280 บาท ซื้อเทป 3M มาพันที่ฐานหัวเทียนพอครับ เผื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนสมาชิกที่จะถอดใจกับอาการ Backfire ที่แก้ไม่จบซักที รถพ่อผมใช้เวลาแก้อยู่ ครึ่งปีครับกว่าจะเจอสาเหตุ พอดีพ่อต้องใช้รถด้วย ก็ให้ช่างต่างจังหวัดดูมั่ง ผมไปเอามาดูมั่ง ไปปรึกษาช่างที่กรุงเทพ มั่ง รวมๆ แล้วก็ตามนั้นอ่ะครับ

บทเรียนที่ได้ อู่ส่วนใหญ่เค้าไม่มีเวลามานั่งวิเคราะห์ละเอียดให้เ ราหรอกครับว่าน่าจะเกิดจากรายละเอียดปลีกย่อยอะไร เค้ารู้สาเหตุหลัก ก็มักจะสั่งเปลี่ยนอะไหล่ก่อน แล้วดูอาการ ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็จะบอกใ้ห้เปลี่ยนเครื่อง ซึ่งเปลี่ยนเครื่องครั้งนึงมันก็ไม่ใช่ถูกๆ บางคนก็ใช้เวลานานกว่าจะได้เงินมาเปลี่ยนเครื่องกันท ีนึง แถมเปลี่ยนแล้วจะเจอช่างวางเครื่องวายสายไฟยังไงก็ยั งไม่รู้ ผมเลยอยากแบ่งประสบการณ์นี้ให้เพื่อเป็นแนวทางให้เพื ่อนได้ลองก่อนที่จะคิดเปลี่ยนเครื่องครับ

ผมก็คิดหลายรอบเหมือนกันครับ แต่โชคดีเจอก่อนเลยไม่ต้องเสียตังค์เปลี่ยนเครื่อง เฮ้อ.....สู้ๆ ครับ เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ที่มีปัญหาทุกคนครับ

เครดิต : Aood vvti
http://www.clubjz.net/showthread.php?t=52643
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออนไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37161
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
อ้างถึง
เห็นหลายๆท่านได้แนะนำวิธีแก้ปัญหา ทั้งปลายเหตุและต้นเหตุ ก็รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยในความรู้สึก ก็เลยอดไม่ได้ที่จะเข้ามาแนะนำบ้าง กล่าวคือ เราต้องเข้าใจในสาเหตุของการเกิดก่อน แต่ก็เห็นหลายท่านก็บอกได้ถูกต้องในเรื่องของสาเหตุ แต่ก็เล่าไม่หมด ผมอยากจะให้ท่านลองนึกถึงระบบการทำงานของหม้อต้มแก๊สก่อนนะครับ หม้อต้มมีหน้าที่ทำให้แก๊สจากที่เป็นน้ำกลายเป็นไออย่างรวดเร็วและจ่ายเข้าเครื่องยนต์ โดยผ่านการควบคุมด้วยไดอะแฟรมในหม้อต้มและตัวมิกเป็นตัวที่ทำให้เกิดแรงดูดในท่อจ่ายแก๊ส คราวนี้มาดูว่ามันเกิดแบ็ลคได้อย่างไร เราต้องเข้าในในตัวรถก่อน รถทรูปเปอร์มีน้ำหนักมากและเครื่องยนต์ใหญ่ ส่วนใหญ่จะเกิดแบ็ลคตอนเกียร์คิกอัฟ 3 ไป 4 เพราะรอบเครื่องยนต์จะตกจากประมาณ 3500 รอบ เหลือ 2500 รอบ ช่วงนีมันจะกลับกันคือเครื่องอยากได้เชื้อเพลิงเพิ่มแต่หม้อต้มกลับจ่ายแก๊สน้อยเพราะแรงดูดที่ไปกระตุ้นไดอะแฟรมในหม้อต้มตกลง แก๊สก็เลยจ่ายน้อยลง ก็เข้าสู่กระบวนการเกิดแบ็ลคไฟร์ขึ้น เราจะแก้ปัญหาอย่างไรดี ก่อนอื่นต้องตรวจสอบว่าขนาดมิกและการออกแบบมิกได้เหมาะสมและอากาศไหลลื่นเข้าเครื่องยนต์ได้ดีหรือไม่และเกิดแรงดูดแก๊สได้ดีหรือเปล่า เท่าที่เคยเห็นมามิกสำเร็จจะเป็นมิกหน้าต้ด คือทางด้านอากาศเข้าจะเป็นหน้าตัดลงมาเลย มันจะทำให้การไหลของอากาศไหลเข้าไม่ดี และเกิดแรงดูดที่กระเพื่อมมากเมื่อมีการเปลี่ยนรอบเครื่องยนต์ จึงทำให้แก๊สจ่ายออกมาไม่เสมอกัน และจะเกิดปัญหาการวิ่งไม่ออกตอนตีนปลายและที่สำคัญอีกจุด หม้อต้มอะไรก็ได้แต่ต้องจูนอัฟให้ตามความต้องการของเครื่องยนต์ หรือเทียบค่ากับน้ำมันเลยก็ได้ ถ้าได้ค่าที่เท่าน้ำมันจะสุดยอด เพราะอาการแบ็ลคจะไม่เกิดไฟเช็คเอ็นจิ่นก็ไม่โชว์ ลองสอบถามสมาชิก"คนเฝ้าน้ำ" ดูนะครับเค้ามีประสพการณ์ในเรื่องนี้ดี
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai