ข่าวประชาสัมพันธ์

มาร่วมเป็นกำลังใจให้เว็บด้วยการสมัครสมาชิกวีไอพี ~~ เลือกปีที่ท่านต้องการได้โดยไม่ต้องเรียงปี ~~ ปีละ 350 บาท สมัคร 2 ปีลดเหลือ 600 บาท ~~ มีไลน์กลุ่ม VIP จำนวนหลายร้อยท่าน เอาไว้ปรึกษางานซ่อม ~~ เข้าถึงข้อมูลด้านเทคนิค ข้อมูลเชิงลึกมากมาย.....


ผู้เขียน หัวข้อ: Honda Wave 110 i ตอนเช้าสตาร์ทติดยาก มันเป็นที่อะไรกันหนา...  (อ่าน 8146 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37472
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
     รถยังไม่ว่างมาตรวจเช็ค แต่แจ้งอาการมาก่อนว่า จอดรถทิ้งไว้ทั้งคืน มาตอนเช้าต้องสตาร์ทกันหลายครั้ง มันเป็นที่อะไรกัน
สอบถามอะไร ๆ ก็ดีหมด  แต่ถ้าได้ติดได้แล้ว  ทิ้งไว้นานไม่เป็นไร ติดง่าย  แต่ถ้ามีข้ามคืนจะติดยาก ว่ามาอย่างนั้น
จั่วหัวไว้ก่อน  เดี๋ยวรถมาค่อยว่ากัน

   เตรียมอุปกรณ์ไว้แล้ว
- หัวเทียนใหม่ไว้ลอง
- ฯลฯ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 กันยายน 2561, 20:14:19 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37472
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
   รถมาเมื่อวาน (29 ก.ย. 60) มาซะเกือบหกโมงเย็น เป็นเวฟ 110 ไอ สเต็ปที่ 3 คำว่าสเต็ป (Step = ขั้น/รุ่น)
หมายถึงเป็นหัวฉีด PGM-Fi รุ่นที่ 3 ของฮอนด้า (มอเตอร์ไซค์) รุ่นนี้ต่างจากรุ่นที่ 2 คือ
- เอาตัวตรวจจับการเอียงของรถในรุ่นที่ 2 ออกไป แล้วแทนด้วย ออกซิเจนเซนเซอร์ ตำแหน่งติดตั้งอยู่ก่อน
   ออกท่อไอเสียที่ฝาสูบ ดูด้วยสายตาจะอยู่ล่างปลั๊กหัวเทียนลงไป
- จำได้ก็ประมาณนี้มั๊ง...

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


  วิ่งมาแล้ว 32,558 โล

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 มกราคม 2562, 10:40:56 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37472
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
    ตรวจสภาพเบื้องต้นด้วยการ...
1. เปิดสวิทช์กุญแจ สังเกตุไฟเช็คเอนจิ้น และฟังเสียงการทำงานของปั๊มเชื้อเพลิง
   - ไฟเช็คเอนจิ้นติดสว่างไม่เต็มที่ประมาณ 2 วิ แล้วดับ
   - เสียงการทำงานของปั๊ม หมุนทำงานเหมือนทำงานไม่เต็มที่/หมุนช้า
   - พบลักษณะของไฟเกียร์ว่าง ติดสว่างบ้างไม่สว่างเต็มที่บ้าง
   - ลองบีบแตร แตรไม่ทำงาน , เปิดไฟเลี้ยว ไฟเลี้ยวไม่ทำงาน
   - พอจะเริ่มมองต้นเหตุของปัญหาออกล่ะ

2. เปิดเบาะ ใช้ตัวทีเบอร์ 10 คลายฝาครอบปิดปั๊มเชื้อเพลิง และถอดปลั๊กไฟเลี้ยงปั๊ม เปิดสวิทช์กุญแจ สตาร์ทเครื่อง
    ปรากฏว่าเครื่องไม่สามารถติดได้ แสดงว่าแรงดันปั๊มไม่มีหรือว่าแรงดันเหลือน้อย  จึงปลดท่อน้ำมันที่ออกจากปั๊มแล้ว
    ประกอบเกจวัดแรงดันเชื้อเพลิงเข้าไปในระบบ  จากนั้นเปิดสวิทช์กุญแจเพื่อให้ปั๊มทำงาน ซึ่งปั๊มจะทำงาน 2 วิแล้วหยุด
    เปิดกุญแจครั้งที่ 1  ได้แรงดันประมาณ 20 ปอนด์/ตารางนิ้วแค่นั้นเอง จากนั้นปิดสวิทช์และเปิดใหม่ แรงดันก็ยังคงได้เท่าเดิมอยู่
    แสดงว่า เมื่อจอดรถทิ้งไว้ข้ามคืน  แรงดันเชื้อเพลิงในระบบตกลง เมื่อเปิดกุญแจ ปั๊มจะทำงานสร้างแรงดันได้ไม่พอนั่นเอง
    ประกอบกับแบตเตอรี่ไม่ดี เก็บไฟไม่ค่อยอยู่พอเช้ามาแรงดันไฟจะตกลงไปอีก ทำให้แรงดันน้ำมันไม่พอใช้งานนั่นเอง
 
3. จากนั้นลองสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยคันสตาร์ท (คันนี้สตาร์ทเท้าอย่างเดียว) รถก็ติดได้ง่ายเหมือนกัน แรงดันน้ำมันเพิ่มมาเป็น
   43 ปอนด์/ตารางนิ้ว  ทดลองเร่งเครื่องในรอบสูงๆ แรงดันน้ำมันสร้างได้ไม่มีปัญหาแรงดันตกแต่อย่างใด

4. ทดลองดับเครื่องยนต์ และสังเกตุว่าระบบสามารถรักษาแรงดันน้ำมันในระบบเชื้อเพลิงได้หรือไม่ ปรากฏว่า หลังการดับเครื่อง
   เข็มของเกจวัดตกลงเพียงเล็กน้อยแค่นั้นเอง ซึ่งสรุปได้ว่า ปั๊มดี หัวฉีดไม่รั่ว ท่อทางน้ำมันไม่รั่ว

ทำไมต้องเน้นตรวจระบบเชื้อเพลิง  เพราะว่ารุ่นนี้โดยเฉพาะ เวฟ 110 ไอ สเต็ปที่ 4 มีปัญหา
ในเรื่องของปั๊มเชื้อเพลิงไม่สามารถสร้างแรงดันได้ถึง 43 ปอนด์/ตารางนิ้ว ส่วนมากจะได้ประมาณ 20 กว่าแค่นั้นเอง ทำให้เร่งไม่ขึ้น
และอีกปัญหาหนึ่งคือ หัวฉีดฉีดน้ำมันได้น้อยลง เหมือนมีการอุดตันบางส่วน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 กันยายน 2560, 09:18:32 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai


ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37472
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
   เลยถอดแบตเตอรี่ ออกมาเพื่อทำการชาร์จไฟ เครื่องชาร์จตัวนี้เป็นระบบสลายซัลเฟตในตัว
มีตัวเลขดิจิตอลบอกค่าแรงดันไฟของแบตเตอรี่ก่อน หรือหลังชาร์จได้ พบว่ามีแรงดันไฟฟ้าเพียง
10.8 โวลท์  แค่นั้นเองซึ่งถือว่าต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่ประมาณ 12.4 โวลท์

  และเมื่อเริ่มทำการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ เครื่องชาร์จจะแสดงการชาร์จว่าเริ่มที่กี่เปอร์เซนต์ ปกติ
ถ้าแบตเตอรี่มีสภาพดี แต่ว่าไฟอ่อน เช่น วัดแรงดันไฟได้ 12.2 โวลท์ เมื่อเริ่มชาร์จอาจจะเริ่มที่
90 กว่าเปอร์เซนต์ขึ้นไป  แต่ถ้าแบตมีปัญหาจะเริ่มที่ 0 เปอร์เซนต์ แล้วค่อยเพิ่มขึ้นไป ถ้าแบตเก่าเสีย
จะไม่ไปไหนมาไหน ปริมาณไฟจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 เปอร์เซนต์แค่นั้นเอง แสดงว่าแบตมีปัญหา

  แบตลูกนี้ก็เช่นกัน เริ่มชาร์จแสดงที่ 0 % และพอทิ้งไว้สัก 1-2 ชั่วโมง กลับมาดูอีกที แบตอยู่ใน
สภาพนี้เลย 5 5 5

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


   ถ้าเป็นลักษณะนี้แสดงว่าแบตมีการลัดวงจรภายในเซลล์หนึ่งเซลล์ใด ต้องเปลี่ยนแบตลูกใหม่แล้วล่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 มกราคม 2562, 10:41:30 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37472
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
   ก็ไม่รู้ใช่แบตติดรถมาไหม หรือเคยเปลี่ยนใหม่มาแล้ว

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 มกราคม 2562, 10:41:49 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37472
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
   พอดีมีแบตสำรองอยู่ลูกหนึ่งที่ใช้มาแล้วประมาณ 2 ปี แต่ว่าดูแลรักษาดี น่าจะไปได้อีกเป็นปีสองปี เลยนำมาใส่แทนให้
ดูการทำงานของระบบทั้งหมด ทำงานได้ดีไม่ว่าจะเป็นไฟเลี้ยว แตร ไฟบอกเกียร์ แต่ว่าไฟบอกเกียร์ 3 กับเกียร์ 4 ไม่ติด
น่าจะเกิดจากหลอดไฟเกียร์นั้นๆ ขาด

   เสียงปั๊มทำงานดี ไม่มีงึกๆ งักๆ ไฟเช็คเอนจิ้นดี ติดแล้วดับ

   มองลอดช่องไปตรงเครื่องยนต์ เลยจ๊ะเอ๋กับชุดเซนเซอร์ เลยรู้ว่ารถคันนี้เป็น Wave110i Step 3

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 มกราคม 2562, 10:42:42 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37472
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
    เตรียมเครื่องมือสแกนรถมอไซค์ไว้ เป็นยี่ห้อนี้เลย Doctor API เป็นของคนไทยเราประดิษฐ์ เลยอุดหนุนกันใช้ดีครับ
ใครยังไม่มีรีบจัดหาเลย ราคาประมาณ 3,500 บาท แนะนำเอาเป็นใช้กับรถฮอนด้าก่อน เพราะจะได้ใช้ได้เยอะ

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ


   - จับดูปริมาณการฉีดที่รอบเดินเบาได้ ประมาณ 2.2-2.5 มิลลิเซค  แสดงว่าอุณหภูมิเครื่องได้ที่แล้ว
     ถือว่าปริมาณการฉีดนี้ประหยัดเลยทีเดียว
   - ดูอัตราส่วนผสมที่รอบเดินเบา อยู่ที่ 10:1 พอเร่งเครื่องไปสัก 3-4 พันรอบ ได้ประมาณ 15:1
   - ลองดูว่ามีโค๊ดปัญหาหรือไม่ในกล่อง ECM ปรากฏว่าไม่มีแต่อย่างใด
   - ....

    ก็จบการรายงานผลไว้เพียงเท่านี้...  ใครมีอะไรอยากสอบถามเพิ่มเติมก็ว่ามาได้ ตอบได้ก็จะตอบให้ครับ
อยากให้สมาชิกทุกท่านที่มีประสบการณ์การซ่อม ได้นำประสบการณ์นั้นมาแบ่งปันกันครับ  ให้สมกับสโลแกน
ของเว็บที่ว่า " ฮักแพง แบ่งปันกันคือเก่าเด้อ "
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ HS6YAQ

  • Lifelong VIP
  • Super VIP
  • วิศวกรรมเครื่องกล
  • *
  • Joined: ก.ย. 2559
  • กระทู้: 891
  • สมาชิกลำดับที่ : 1030
  • เพศ: ชาย
    • อีเมล์
PGM-FI  STEP 3 กับ STEP 4 มันต่างกันยังไงครับอาจารย์

ออฟไลน์ HS6YAQ

  • Lifelong VIP
  • Super VIP
  • วิศวกรรมเครื่องกล
  • *
  • Joined: ก.ย. 2559
  • กระทู้: 891
  • สมาชิกลำดับที่ : 1030
  • เพศ: ชาย
    • อีเมล์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23 มกราคม 2562, 07:07:36 โดย Auto Man »

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37472
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
กำลังศึกษาอยู่ครับ ซื้อเครื่องมือหมดไปหลายตังค์ครับ

  (ขออนุญาตปรับขนาดภาพ -เพื่อให้ดูง่าย /Auto Man)

    เครื่องมือก็มีพร้อมแล้ว ยังจะมัวรออะไรอยู่ล่ะ ลุยเลย เริ่มจากการซ่อมรถที่อยู่รอบๆ ตัวเรา
- รถเราเอง รถญาติพี่น้อง รถเพื่อน รถเพื่อนของเพื่อน
- พอมีชื่อเสียง เดี๋ยวงานจะมาเอง ค่าแรงตอนแรกไม่ได้ แต่ได้เป็นอย่างอื่นโดยเราไม่ต้องเป็นคนซื้อ..5 5 5
- รับงานก็พอได้สตางค์ครับ ไม่คิดเป็นการค้าก็ได้ แต่เราทำแล้วสบายใจ มีความสุขกับมัน

    ติดขัดอะไร เดี๋ยวช่วยอีกแรง ปัญหามีไว้แก้ครับ มีหลายวิธีแก้... ไม่จำเป็นต้องทำเหมือนๆ กัน
แต่ขอให้มีขั้นมีตอนในการวิเคราะห์ปัญหา จะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุด ทุกปัญหามีที่มาที่ไป
การปฏิบัติ ควรมีการเก็บข้อมูลเดิมก่อนลงมือแก้ไข

   สุดท้ายอย่าลืมนำประสบการณ์ของตนเอง มาแบ่งปันให้เพื่อนสมาชิกครับ
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37472
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
PGM-FI  STEP 3 กับ STEP 4 มันต่างกันยังไงครับอาจารย์

   มันต่างกันที่ Honda พยายามลดต้นทุนในการผลิตระบบ PGM-Fi ครับ รถดีๆ แพงๆ ระบบมันก็เป็น Step 2 + Step 3
- Step 1 ไม่อยากพูดถึง แต่กล่าวไว้สักเล็กน้อยละกันว่า มีใช้เฉพาะรุ่นเดียว รุ่นแรกที่นำหัวฉีดมาใช้ในรถมอไซค์ คือ
   - Honda Wave 125 i
- Step 2 ยังคงเป็นรถ Wave 125 i ที่ทำระบบแยกกล่อง ECM ไปต่างหาก ออกจากเรือนลิ้นเร่ง ทำปั๊มเชื้อเพลิงแบบ
     เป็นท่อน้ำมันออกมาเป็นเส้นเดียว ระบบวายริ่งสายไฟ ต่างจากรุ่นแรก อาจเรียกว่าเกือบสิ้นเชิง  ขอดีของ Step 2
     คือมีเซนเซอร์เกือบครบถ้วน ขาดอยู่ตัวเดียวคือออกซิเจนเซนเซอร์ ซึ่งสำคัญซะด้วย
- Step 3 มีใช้กันกับรถฮอนด้าหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น CZ-i , Wave110i อย่างคันที่ซ่อมในกระทู้นี้ , Wave 125 i
      ถามว่า Step 3 ต่างกับ Step 2 ยังไง 
      - Step 3 เริ่มใช้ตัวออกซิเจนเซนเซอร์ ซึ่ง Step 2 ไม่มี (เตรียมพื้นที่ไว้บนฝาสูบ -แต่ยังไม่ทำมา)
      - Step 2 มีตัวตรวจจับการเอียงของรถ เวลารถล้ม ระบบจะตัดไฟทำให้เครื่องดับ -เป็นระบบเพื่อความปลอดภัย ไม่เกี่ยวกับสมรรถนะ
      - ฮอนด้าเลยจำใจตัดตัวตรวจจับการเอียงออก แล้วมาเพิ่มออกซิเจนเซนเซอร์แทน ถ้าจะไม่ได้ทำได้ไหม ทำได้และยิ่งดีด้วย แต่
         ต้นทุนจะแพงขึ้น ซึ่งจะหมายถึงราคาขายที่เพิ่มขึ้นด้วย
- Step 4 เป็นเวอร์ชั่นที่ลดต้นทุนการผลิตสุดๆ ด้วยการตัดเซนเซอร์ออก 2 ตัว ตัวที่สำคัญหนึ่งตัวในนั้นก็คือ ตัวตรวจจับแรงดันอากาศ
       ในท่อร่วมไอดี ซึ่งตัวเซนเซอร์ตัวนี้สำคัญมากในระบบเชื้อเพลิง เพราะจะทำให้เรารู้ว่าอากาศเข้าเครื่องยนต์มากน้อยยังไง จะได้ฉีด/
       จ่ายเชื้อเพลิงให้เหมาะสมกันได้  แล้วฮอนด้าทำไงถึงให้รถทำงานได้โดยไม่มีเจ้า MAP Sensor ก็คือการโปรแกรมอากาศเข้าไปโดย
       อ้างอิงกับ TP Sensor ร่วมกับ CKP Sensor หรือว่าอ้างอิงตามการบิดคันเร่งมากหรือน้อย
       - บิดมาก.....องศา อากาศ น่าจะ......กรัม/...  ที่รอบเท่านี้ ประมาณนี้   แต่ระบบนี้มีความอ่อนไหว เมื่อนำรถไปใช้ในที่สูงๆ
         ดังนั้นระบบการเซ็ทโหมดให้กับกล่อง ECM จึงเกิดขึ้นในรถจักรยานยนต์ฮอนด้า Step 4  ซึ่งโหมดนี้เมื่อเราปรับตั้งไปแล้ว
         อาจจะมีการรวน เปลี่ยนโหมดได้เอง จนเหตุให้รถวิ่งไม่ออก บิดได้ไม่สุด
       - เซนเซอร์อีกตัวหนึ่งที่โดนตัดออกไปคือ IAT Sensor ตัวนี้ไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่ แต่ถ้ามีได้ก็จะดี การผสมเชื้อเพลิงจะทำได้
         ละเอียดขึ้น
- Step 5 ก็น่าจะเป็นระบบสตาร์ทเงียบ , ระบบ Idleling Stop ประมาณนั้น หรืออาจเป็นระบบกันขโมย ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์
      แบบไม่ต้องใช้ลูกกุญแจ ในรถรุ่นใหม่ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 กันยายน 2560, 15:13:44 โดย Auto Man »
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai

ออฟไลน์ HS6YAQ

  • Lifelong VIP
  • Super VIP
  • วิศวกรรมเครื่องกล
  • *
  • Joined: ก.ย. 2559
  • กระทู้: 891
  • สมาชิกลำดับที่ : 1030
  • เพศ: ชาย
    • อีเมล์
 -OOO- (( (( ((

ออฟไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 37472
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
  ปิดงานไปล่ะ... เจ้าของชอบใจ ตอนเช้าสตาร์ทครั้งเดียวติด ปกติแล้วครับ

  มารายงานผลให้ทราบ 

  อย่าลืมว่าแบตเตอรี่เป็นแหล่งพลัง ในการทำงานของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ไม่ควรละเลย หรือมองข้าม
เปลี่ยนแบตใหม่แล้ว อย่าลืมลงบันทึก ว.ด.ป. ที่ซื้อมาไว้ที่แบตด้วย จะได้รู้ และควรใช้รถให้สม่ำเสมอ
ไม่ควรจอดทิ้งไว้นาน หรือควรเวอร์มเครื่องบ้าง อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai