หมวดวิศวกรรม/เทคโนโลยียานยนต์ => คู่มือการซ่อม (Service Manual) => คู่มือการใช้/ประวัติรถยนต์ => ข้อความที่เริ่มโดย: Auto Man ที่ 20 ธันวาคม 2563, 08:13:04

หัวข้อ: ประวัติรถ Chevrolet Captiva
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 20 ธันวาคม 2563, 08:13:04
   ประวัติรถ Chevrolet Captiva   
   จุดประสงค์ของเว็บที่นำประวัติรถหรือคู่มือการใช้รถ มาอยู่ในเว็บด้วย เพื่อที่จะให้ผู้ใช้รถตลอดจนช่างซ่อม
ได้เข้าใจอย่างแท้จริงในรถรุ่นนั้นๆ เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อการซ่อมและบำรุงรักษาได้อย่างถูกต้องครับ

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62782807)

     เชฟโรเลต แคปติวา อังกฤษ: Chevrolet Captiva มีชื่อเดิมว่า ซี100 (C100) รถยนต์เอนกประสงค์ขนาดกลางหรือเป็นรถเอสยูวี (SUV) ขนาดกลางแบบ 7 ที่นั่งของเชฟโรเลตที่พัฒนาขึ้นโดยศูนย์ออกแบบของบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ หรือชื่อย่อว่า จีเอ็ม (GM) ในเมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ (South Korea) ซึ่งเป็นการพัฒนาบนตัวถังรุ่นเธต้า (Theta platform) ที่เคยใช้ในการผลิตรถยนต์ในเครือของจีเอ็มมาแล้วหลายรุ่น โดยทางจีเอ็มใช้ชื่อ แคปติวา จำหน่ายในตลาดยุโรป, ตะวันออกกลาง, อาเซียน และอเมริกาใต้ แต่ในประเทศออสเตรเลียจะจำหน่ายในนาม Holden Captiva ส่วนในประเทศเกาหลีใต้ใช้ชื่อ Daewoo Windstorm ในส่วนของการเปิดตัวรถยนต์เชฟโรเลต แคปติวานั้น ทางจีเอ็มได้ทำการเปิดตัวแคปติวาครั้งแรกที่ประเทศออสเตรเลีย (Australia) ต่อด้วยประเทศนิวซีแลนด์ (New Zealand) และตามด้วยการเปิดตัวในประเทศไทย (Thailand) และอีกหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อราวต้นปี 2550

     สำหรับการผลิตรถยนต์เชฟโรเลต แคปติวาเพื่อส่งออกตลาดทั่วโลกนั้น ทางจีเอ็มได้ใช้ฐานการผลิตหลักของแคปติวาที่ศูนย์การผลิตรถยนต์จีเอ็มแดวูในประเทศเกาหลีใต้ ร่วมกับศูนย์การผลิตรถยนต์จีเอ็ม จังหวัดระยอง ซึ่งในประเทศไทยเชฟโรเลต แคปติวามีจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่น แบ่งออกเป็น รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซลแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และรุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร จะเป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เช่นกัน

     ล่าสุด SGMW หรือ SAIC-GM-Wuling Automobile บริษัทร่วมทุนระหว่าง SAIC Motor, General Motors และ Wuling Motors ก็ได้กลับมาแนะนำรถพลังงานพื้นฐานอย่างครอสโอเวอร์ขนาดคอมแพคท์ Baojun 530 รุ่นปรับปรุงในช่วงปลายปี 2561 ความสำคัญของรถรุ่นนี้คือ มันได้ถูกเปิดตัวอีกครั้งในฐานะรถรีแบดจ์เป็น Chevrolet Captiva เจนเนอเรชั่น 2 ในเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา ณ งาน International Motor Show Bogota 2018 ประเทศโคลัมเบีย และในประเทศไทย ในเดือนมีนาคม 2562
หัวข้อ: ประวัติรถ Chevrolet Captiva
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 20 ธันวาคม 2563, 08:14:43
    รุ่นที่ 1 (พ.ศ. 2549 - 2561)   
     เชฟโรเลต แคปติวา ได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 28 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2550 เชฟโรเลต แคปติวา เป็นรถเอสยูวี อเนกประสงค์ ภายในมีทั้งหมด 7 ที่นั่ง เบาะแถว 2 และ 3 สามารถพับเก็บได้ ในเมืองไทยมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ในรุ่นเครื่อง 2.0 ลิตร จะเป็นเครื่องยนต์แบบดีเซล มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาจะอยู่ที่ 1,279,000 และ 1,560,000 บาท ตามลำดับ

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62782809)

      ส่วนในรุ่น 2.4 ลิตร จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ เช่นกัน ราคาจะอยู่ที่ 1,189,000 และ 1,460,000 บาท ตามลำดับ โดยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ของแคปติวาเป็นแบบ AWD (All Wheel Drive) เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด แบบ Tiptronic ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างเร้าใจยิ่งขึ้น อีกทั้งมาพร้อมกับความจุที่มาก เมื่อพับเบาะแถวที่ 3 ลงจะมีปริมาตรในการขนสัมภาระอยู่ที่ 465 ลิตร แต่ถ้าพับเบาะแถวที่ 2 ลงอีก ความจุก็จะเพิ่มเป็น 930 ลิตร

      ภายในใช้วัสดุหรูหรา เครื่องเสียงแบบบิวด์อินที่รองรับการใช้งานวิทยุ, ซีดี และ MP3 ที่สามารถใส่ได้มากที่สุด 6 แผ่น มีพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมทั้งจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ DIC (Driver Information Center) ที่แสดงอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง, ระยะทาง และปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลืออยู่ ในแคปติวายังมีแอร์สำหรับผู้โดยสารในแถวที่ 3 อีกด้วย โดยทั้งหมดที่กล่าวมาอาจจะแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62782810)

     ส่วนทางด้านความปลอดภัยนั้น แคปติวามีค่ามาตรฐานด้านความปลอดภัย 4 ดาว จากการทดสอบการชนของ Euro NCAP ซึ่งเป็นมาตรฐานความแข็งแรงของรถยนต์ที่หลายประเทศในยุโรปใช้กัน

รุ่นย่อยของแคปติวามีตามรุ่นปีดังนี้

- พ.ศ. 2550  เปิดตัวครั้งแรกพร้อม 2 รุ่นย่อย LS และ LT ทั้งเบนซินและดีเซล

- พ.ศ. 2552 มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ LSX และ LTZ พร้อม 2 สีใหม่ สีขาว Summit White และสีฟ้า Light Blue

- พ.ศ. 2553 เพิ่มรุ่นพิเศษด้วยติดตั้งชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ในรุ่นเบนซิน เป็นเครื่องยนต์เบนซิน Ecotec 4 สูบ 2.4 ลิตร E20 พร้อมเพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ (DOHC) 16 วาล์ว และระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง (Double CVC) ให้พละกำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ 6 สปีด พร้อม DSC (Driver Shift Control)

ปรับโฉมปี 2554
    เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉมปี 2554  เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉม ได้ถูกเผยโฉมเมื่อไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 โดนมาการออกแบบกระจังหน้าใหม่ ไฟเลี้ยวตรงกระจกข้างแบบ LED ล้อออกแบบใหม่ ช่องรับอากาศและไฟตัดหมอกทรงใหม่ ฝังตัวอยู่บริเวณด้านข้างของกันชนหน้า แผ่นกันกระแทกสีบรอนซ์ใต้กันชนหน้าซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในแคปติวา ส่วนอ็อปชั่นใหม่ คือ ระบบควบคุมป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางลาดชัน (Hill Start Assist) ช่วยป้องกันรถไหลลงทางลาดชันในขณะออกตัว ในประเทศไทยมีเครื่องยนต์ใหม่ให้เลือกคือ เครื่องยนต์เบนซิน Ecotec 4 สูบ 2.4 ลิตร E85 พร้อมเพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ (DOHC) 16 วาล์ว และระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง (Double CVC) ให้พละกำลังสูงสุด 168 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 229 นิวตันเมตร และ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร DOHC 16 วาล์ว มาพร้อมระบบจ่ายเชื้อเพลิงคอมมอนเรลแรงดันสูง ให้แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร พละกำลังสูงสุด 163 แรงม้า โดยมีการปรับตามรุ่นปีดังนี้

- พ.ศ. 2554 เปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์พร้อมจำหน่ายเครื่องเบนซินอย่างเดียว มีการออกรุ่นพิเศษ Centennial Edition

- พ.ศ. 2555 มีการเพิ่มรุ่นเครื่องดีเซลตามมา

- พ.ศ. 2556 มีการออกรุ่นพิเศษ Limited Edition จำกัดจำนวนเพียง 600 คัน

- พ.ศ. 2557 มีการปรับเปลี่ยนไฟท้ายใหม่แบบ LED กันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ ฝาครอบไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่ และเพิ่มติดตั้งบันไดข้างสแตนเลสในรุ่น LTZ และล้ออัลลอยลายใหม่ 18 นิ้วในรุ่น LSX ส่วนเครื่องยนต์จะมี 2 แบบเหมือนเดิม คือ เบนซินและดีเซล แต่มีการปรับปรุงเกียร์อัตโนมัติให้ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการตัดรุ่น LS และ LT ออกไป

- พ.ศ. 2558 มีการเปลี่ยนวิทยุใหม่ให้เหมือนสเปคยุโรป

รุ่นปรับโฉมปี 2559
    - เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉม ด้านหน้า

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62782811)

    - เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉม ด้านหลัง

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62782812)

     เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉมปี 2559 ได้เปิดตัวครั้งแรกที่ Dubai International Motor Show 2015 ในวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 สำหรับประเทศไทย GM Thailand ได้เปิดตัวเชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉมด้วย ที่งานอินเตอร์เนชัลนอล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 ในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ต่อมาอีกไม่กี่วัน โฮลเด้น แคปติวาก็ได้เปิดตัวในประเทศออสเตรเลีย โดยมีการปรับเปลี่ยนกระจังหน้าแบบดูอัลพอร์ทใหม่ที่ปรับให้ช่องด้านบนมีขนาดเล็กลงและติดตราโบว์ไทคั่นตรงกลาง ส่วนช่องดักอากาศด้านล่างเปลี่ยนมาเป็นแบบหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ขึ้นรวมถึงรายละเอียดของกันชนหน้าและกรอบไฟตัดหมอกออกแบบใหม่ให้ดูมีมิติมากขึ้น ไฟหน้าทรงใหม่ใกล้เคียงของเดิมและติดตั้งไฟสำหรับวิ่งในเวลากลางวัน (DRL) มาให้ โดยในรุ่น LTZ จะได้ล้อขนาด 19 นิ้วลาย 5 ก้านเดิมแต่เปลี่ยนมาใช้สีเทา-เงินแบบทูโทน ส่วนไฟท้ายเปลี่ยนเป็นแบบ LED

     ส่วนภายในห้องโดยสารภายในเปลี่ยนมาใช้พวงมาลัยทรงสปอร์ตแบบ 3 ก้าน พร้อมกับเปลี่ยนคอนโซลกลางใหม่ย้ายปุ่มควบคุมอุปกรณ์ให้อยู่สูงใกล้มือผู้ขับขี่มากขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มเครื่องเสียงที่มีระบบ MyLink ที่รองรับการใช้งานแอปพลิเคชันทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ผ่านสาย USB

     โดยในรุ่น LTZ ยังเพิ่มความปลอดภัยอย่างระบบแจ้งเตือนสิ่งกีดขวางด้านหน้า, ระบบตรวจจับยานพาหนะในมุมอับสายตาของกระจกมองข้าง (Side Blind Zone Alert ) และระบบ Rear Cross-Traffic ซึ่งสามารถตรวจจับยานพาหนะที่วิ่งผ่านด้านหลังขณะถอยออกจากมุมอับได้ โดยมีการปรับรุ่นปีดังนี้

- พ.ศ. 2559 มีการเปิดตัวพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการ มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ 2.0 LTZ VCDi ขับเคลื่อนล้อหน้า

- พ.ศ. 2560 มีการเพิ่มสีใหม่ สีขาวมุก Abalone White และ สีดำเมทัลลิก Black Meet Kettle Metallic
หัวข้อ: ประวัติรถ Chevrolet Captiva
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 20 ธันวาคม 2563, 08:23:51
   รุ่นที่ 2 (พ.ศ. 2562 - ปัจจุบัน )   
2019 Chevrolet Captiva 1.5T LT (รุ่นที่ 2; South American market spec)
Chevrolet Captiva 1.5T LT
Chevrolet Captiva 1.5T LT (รุ่นที่ 2; Thailand market spec)
All NEW Captiva : 2nd Generation เปิดตัวครั้งแรกในโลกในชื่อ Baojun 530 เมื่อปลายปี 2017 ที่ประเทศจีน จากนั้นเข้าไปโชว์ตัวที่อินโดนีเซีย ในชื่อ Wuling SUV เมื่อเดือน สิงหาคม 2018 จากนั้นเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศโคลัมเบีย ในเดือน พฤศจิกายน 2018 โดยรถคันนี้เป็นพัฒนาร่วมกัน และ ลงทุน ระหว่าง GM – General Motors / Wuling และ SAIC Motors รวมกันเป็น SGWM (SAIC – General Motors – Wuling Motor). All NEW Captiva ได้เผยโฉมอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ในงาน Thailand International Motor Show 2019 และหลังจากนั้นก็เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2019 ที่ผ่านมา และได้ส่งมอบในเดือนต่อมา มี 3 รุ่นย่อยคือ LS, LT และ Premier มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Daewoo S-TEC III เทอร์โบ 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตรที่ 2,400 รอบต่อนาที

- พ.ศ. 2563 เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ข่าวด่วน General Motors (GM) ประกาศยุติการทำตลาด และ ยกเลิกการขายรถยนต์ Chevrolet ในประเทศไทย ภายในปี 2563 นี้ แถมยังจัดโปรส่วนลด 500,000 บาท จนกว่ารถในสต๊อกจะหมด ครบ 2,000 คัน

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62782808)

   
 

ประวัติรถ Chevrolet Captiva -วิกิพีเดีย (https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%9F%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%95_%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%9B%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B2)

 
หัวข้อ: ประวัติรถ Chevrolet Captiva
เริ่มหัวข้อโดย: Auto Man ที่ 20 ธันวาคม 2563, 08:55:59
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62782817)

     ทั้งเครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2,405 ซีซี
กระบอกสูบ x ช่วงชัก 87.5 x 100 มม.
อัตราส่วนกำลังอัด 9.6 : 1

136 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 22.4 กก.-ม.ที่ 2,200 รอบ/นาที

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62782815)

   เครื่องยนต์ ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,991 ซีซี
คอมมอนเรล ไดเร็กต์อินเจ็กชัน VCDi เทอร์โบ แปรผัน
ใช้หัวฉีดแรงดันสูง ควบคุมด้วยอีเล็กโทรนิกส์
กระบอกสูบ x ช่วงชัก 83 x 92 มม.
อัตราส่วนกำลังอัด 17.5 : 1

150 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม.ที่ 2,000 รอบ/นาที

ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง  สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
 (http://upic.me/show/62782816)