หลังจากแก้ไขเรื่องวาล์วยันได้แล้ว
แต่ปัญหาเรื่องร้อนแล้วติดยากยังไม่หมดไป ยังมีอาการดูจะเหมือนเดิม 5 5 5
แล้วมันจะเป็นที่อะไรอีก
เลยวัดกำลังอัดดู กำลังอัดวัดได้ 150 PSI ขณะเครื่องร้อน
ถือว่ากำลังอัดใช้ได้ ตัดปัญหากำลังอัดน้อยออกไปได้
แล้วมันเป็นที่อะไรได้บ้างล่ะ บางท่านอาจจะเพ่งเล็งไปที่พัลเซอร์คอล์ย หรือว่า CKP Sensor
แล้วเราจะวิเคราะห์หาสาเหตุได้ยังไง
เครื่องมือวิเคราะห์ปัญหารถคาวาซากิ ก็ไม่มี มีแต่สองดอกเตอร์ครับ คือ
- Doctor API for Honda กับ
- Doctor API for Yamaha 5 5 5
เอามาใช้กับคาวาซากิไม่ได้สักตัว จะซื้อใหม่อีกตัวรึ อยู่ในช่วงโควิดระบาด เงินทองก็หาไม่ค่อยได้
แต่ก็ยังไม่วายลองไปหาข้อมูล ดูการรีวิวการใช้เครื่องวิเคราะห์ปัญหา Smart Garage ในรถคาวา
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/62796796)
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/62796797)
แต่เท่าที่ดู ทำไม ? ไม่มีรายการแสดง
- ระยะเวลาการฉีดของหัวฉีด กับ
- ตำแหน่งองศาการจุดระเบิด 5 5 5
เลยลองสตาร์ทในขณะที่เครื่องร้อน แล้วเปิดกรองอากาศออก
ฉีดน้ำมันเบนซินเพิ่มเข้าไปเอง
ปรากฏว่ารถติดง่าย.........
มันก็แปลกอยู่ว่า ทำไมตอนร้อนเครื่องยนต์ยังต้องการน้ำมันเพิ่มอีกรึ มันตรงข้าม
กับหลักการนะ
เลยต้องหาเพรชเชอร์เกจมาวัดแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าแรงดันอยู่ที่ 40 PSI
ซึ่งถือว่าปกติ
ไหนก็ไหนๆ แล้ว ทำอะไรให้มันสุดกันไปเลย จะได้รู้สาเหตุที่แท้จริง
ต้องบอกก่อนว่าระบบหัวฉีด DFI ของคาวาซากิ เป็นอะไรที่เราต้องเรียนรู้กับมันอีก
จะไม่เหมือนกับ PGM-Fi ของ Honda ที่แตกต่างกันคือตรงเรือนลิ้นเร่ง DFI จะมี
ลิ้นเร่งเสริม ติดตั้งอยู่ก่อนที่จะเป็นลิ้นเร่งปกติของมัน ซึ่งลิ้นตัวนี้การปิดเปิดจะมีมอเตอร์ควบคุม
ที่แกนของลิ้นเร่งเสริมและยังมี TPS ของมันเองอีกตัวหนึ่ง ซึ่งสามารถอ่านได้จากเครื่องสแกน
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/62796820)
- แรงดันไฟฟ้าลิ้นเร่งเสิรม : 1.933 V
แต่ว่ารถคันนี้ได้ถอดแผ่นลิ้นเร่งเสริมตัวนี้ออกไปตอนที่อยู่กับเจ้าของรถคนเดิมแล้ว
มาถึงเจ้าของปัจจุบัน เหลือแต่แกนลิ้นเร่งกับอุปกรณ์อื่นๆ ของมัน และรถคันนี้ติดโค๊ด 32
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/62796821)
ก็ไม่รู้ว่ามันทำงานยังไง ก็น่าจะเป็นการทำงานเปิดสุดกับปิดสุดเท่านั้นละมั๊ง เพราะทุกครั้งที่เรา
เปิดสวิทช์กุญแจ จะได้ยินเสียงการทำงานของมันดังแต็กๆๆๆๆ ประมาณนั้น
ตอนแรกนึกว่าเป็นเสียงปั๊มติ๊กไฟฟ้า สมัยเครื่องยนต์คาร์บู เสียงดังคล้ายๆกัน ดังสักหน่อยก็เงียบเสียงลง
เราก็เลยพาลว่ามันจะมาจากสาเหตุตัวนี้หรือเปล่า
แต่เราก็ทำตัวจำลองให้เหมือนกับลิ้นเร่งเสริมตัวนี้ ด้วยการใช้มืออุดปากเรือนลิ้นเร่งในขณะสตาร์ท
เพื่อจะเป็นการบังคับให้อากาศเข้าน้อย ซึ่งจะทำให้ส่วนผสมหนาขึ้น
ผลปรากฏว่า เครื่องยังคงติดยาก แต่ถ้าเราฉีดน้ำมันเข้าไปที่ปากลิ้นเร่ง แล้วสตาร์ท
เครื่องจะติดง่าย
ก็พอเริ่มจับทางได้แล้วว่า ปัญหาที่ติดยาก น่าจะมาจากน้ำมันที่ฉีดบาง แล้วมันจะมาจาก
สาเหตุใดได้บ้าง
- มาจากตำแหน่ง TPS ผิดเพี้ยนไปก็เป็นไปได้
- มาจากตำแหน่ง TPS เสริม ก็เป็นไปได้เช่นกัน
- รึจะมาจากเซนเซอร์อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นเพี้ยน ก็เป็นได้อีก
งานนี้มีการระดมสมองกับเพื่อนครูในแผนก รวมแล้ว 3 คนว่าจะทำยังไงกันต่อไปให้จบงาน
นี้ให้ได้ เพราะว่าไปกินลาบต้มของเจ้าของรถแล้ว 5 5 5
ระหว่างที่ไม่รู้จะทำอะไรดี เลยปลดสายมอเตอร์สตาร์ทออก จี้สตาร์ทโดยตรงเลย
ไม่ต้องไปต่อผ่านรีเลย์สตาร์ท
ผลปรากฏว่า
- ไม่น่าเชื่อเลยว่า สเปร์การฉีดน้ำมันมองเห็นได้อย่างชัดเจน
สร้างความงวยงงให้กับคณะเป็นอย่างมาก จะว่าแบตเตอรี่อ่อน ก็ไม่ใช่เพราะใช้แบต
ของรถยนต์ที่ใช้งานอยู่มาแทนแบตติดรถ แต่พอจั้มสายสตาร์ทเข้าระบบเหมือนเดิม
อาการเดิมก็กลับมาอีก
เลยต้องหาวงจรสตาร์ท มาดูกันว่าเป็นที่อะไร ตรงไหน
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/62796822)
เมื่อไล่วงจรสตาร์ทจะเห็นว่ามีวงจรที่น่าจะไล่ทำความเข้าใจสำหรับช่างทั้งช่างมือใหม่
และช่างมือเก่า เพราะจะเห็นว่ามีการใช้รีเลย์ในวงจรสตาร์ทถึง 2 ตัวด้วยกัน มีการตรวจสอบ
ก่อนการสตาร์ทว่า เครื่องยนต์อยู่ตำแหน่งเกียร์ว่างหรือไม่ ถ้าเป็นเกียร์ว่างจึงจะสตาร์ทได้
และถ้าไม่ว่างล่ะ หมายถึงรถคาเกียร์อยู่ ก็สตาร์ทได้เหมือนกันด้วยการบีบคลัทช์ และต้อง
เอาขาตั้งข้างขึ้น
แต่ว่ารถคันนี้ถอดสวิทช์ขาตั้งข้างออกไปแล้ว เป็นการต่อตรงไว้ จะเห็นว่าจากวงจร
ด้านบนจะมีตัวไดโอดต่ออยู่ในวงจรด้วย ถามว่าไดโอดเหล่านี้จะมีผลต่อทำให้หัวฉีดฉีดบางลง
หรือไม่
เลยตัดสายที่เป็นเส้นคุมสตาร์ทของรีเลย์หลัก จี้ไฟโดยตรงเลย
มาดูผลกัน
- ปรากฏว่า น้ำมันฉีดดีขึ้นมาก แต่พอสตาร์ทหลายครั้ง
ก็จะกลับมาคล้ายเดิมอีก คือฉีดบางลง
ก็เป็นอย่างที่เราเข้าใจคือ วงจรสตาร์ทไม่น่าใช่สาเหตุที่ทำให้หัวฉีดฉีดน้อยลง เราต้อง
หาสาเหตุที่แท้จริงให้ได้
เวลาก็ล่วงเลยไปพอสมควร แต่ก็ยังสุมหัวกันเพื่อหาสาเหตุต้นตอที่แท้จริง
ระหว่างที่เครื่องยนต์ทำงาน เราได้มีการขยับเส้นมัดไฟต่างๆ ดู มีบางครั้งเครื่องดับไปเลย
เลยไล่เช็คกัน ไล่ไปไล่มาเป็นสายที่มาเข้าสวิทช์กุญแจดูเหมือนว่าสายจะไม่แน่น เลยเปิดผ้าเทป
ที่พันไว้ออกมาดู พบว่าสายมีการบัดกรีมาทั้งสองเส้น เลยตัดสินใจตัดออกแล้วต่อใหม่ดู
อาการที่ขยับสายไฟแล้วดับ หายไปแล้ว
แต่น้ำมันฉีดบางในขณะสตาร์ท ยังมีอยู่ หลังจากที่เราต่อสายไฟที่สวิทช์กุญแจให้แน่น
เลยมีความคิดว่าเอาไฟ 12 โวลท์มาเข้าตรงสวิทช์เลย จะเป็นยังไง
ผลปรากฏว่า
- อีกล่ะ ไม่น่าเชื่อว่า การฉีดน้ำมัน ฉีดได้ประมาณว่าฉีดได้ตามที่ควรจะเป็น
เลยต่อระบบสตาร์ทเป็นดังเดิม ไม่ต้องจั๊มตรง ทดลองสตาร์ทดูการฉีด ถือว่า
ผ่านครับ
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/62796823)
สรุปปัญหานี้ มาจากวงจรไฟของฟิวส์หลักขนาด 20A ที่ติดตั้งรวมกันอยู่ที่รีเลย์สตาร์ทหลัก น่าจะมีปัญหาขี้เกลือหรือ
คาบสนิมต่างๆ ทำให้เกิดมีความต้านทานภายในสายสีขาวเส้นนี้ที่ไปเข้าสวิทช์กุญแจ การแก้ไขคงจะหา
กล่องฟิวส์เมนมาใส่แทนตัวเดิม ก็น่าจะจบหรือปิดงานนี้ได้
บทสรุปของงานนี้
ไม่น่าเชื่อเลยว่า ไฟ 12 โวลท์จะทำให้เกิดปัญหาวุ่นวายได้ถึงเพียงนี้ เราคิดว่าแบตที่เรา
นำมาใช้จะดีเพียงใด แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ไฟที่เราไปเลี้ยงวงจรได้ไฟเต็มเหมือนไฟ
ที่แบตเตอรี่
ตอนแรกของการไล่วงจรไฟ ก็มุ่งไปที่สายกราวด์ของวงจร ว่าจะไม่ลงกราวด์ได้ไม่ดี เพราะว่า
รถคันนี้เพิ่งไปทำสีมาใหม่ จนไปเจอจุดลงกราวด์ที่บริเวณใต้ถังน้ำมัน ตรงกราวด์ของคอล์ยจุดระเบิด
ที่เป็นน๊อตยึดคอล์ยนั่นเอง แต่การไล่ตรงนี้ ทำให้ได้รู้ว่า ไฟที่มาเลี้ยงคอล์ยทำไมคันนี้มีเส้นเดียว
ปกติของรถหัวฉีดจะเห็นว่ามีสายไฟมาที่คอล์ยสองเส้น ลองไปไล่กันดูครับ
โดยเราละเลยการตรวจวัดไฟเส้นที่ออกจากสวิทช์กุญแจ วัดที่ฟิวส์ Ig ก็ได้ว่าวัดไฟได้ 12 โวลท์ไหม
ถ้าเรามีการตรวจพบเร็ว ก็จะลดการเสียเวลาที่ไปลองผิดลองถูก
ถ้ามีเครื่องสแกน เราก็อาจวิเคราะห์ปัญหานี้ได้ เร็วขึ้น เครื่องสแกนมีไว้ก็ดีเหมือนกัน
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ ลงชื่อเข้าระบบ
(http://upic.me/show/62796824)