ห้องข่าวทั่วๆไป => วิทยาลัยการบินนานาชาติ => ข่าวท้องถิ่นนครพนม => ยานบินไร้คนขับ (UAV) => ข้อความที่เริ่มโดย: Prog Man ที่ 05 สิงหาคม 2568, 15:55:14

หัวข้อ: นี่เป็นโอกาสดีที่ไทยจะเปิดเกมเดินหน้าเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกเทคโนโลยี
เริ่มหัวข้อโดย: Prog Man ที่ 05 สิงหาคม 2568, 15:55:14
อ้างถึง
หลังหยุดยิงก็ยิ่งมีเสียงชื่นชมกองทัพไทยจากสื่อต่างชาติมากขึ้นเรื่อย ๆ ผมคิดว่านี่เป็นโอกาสดี
ของไทยที่จะเปิดเกมเดินหน้าสู่การเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกเทคโนโลยีป้องกันประเทศ จากกระแสข่าวเชิงบวกที่เกิดขึ้นในเวลานี้

   The Telegraph รายงานว่า กองทัพไทยนำระบบโดรนที่พัฒนาภายในประเทศมาใช้ในการปฏิบัติการทางอากาศ โดยปล่อย
ระเบิดจากโดรนต่อเป้าหมายยุทธภัณฑ์และตำแหน่งของกองกำลังกัมพูชา นับเป็นยุทธศาสตร์ที่ใช้งานได้แม่นยำและทันสมัย

Defence Security Asia เผยคลิปการปฏิบัติจริงของโดรนไทย ซึ่งปล่อยระเบิด M261 และ M472 ทิ้งใส่ตำแหน่งกองกำลัง
และคลังอาวุธของกัมพูชา ส่งผลให้ระบบอาวุธศัตรู เช่น ระบบ RM 70 GRAD ถูกทำลายอย่างมีประสิทธิภาพ

Jerusalem Post ระบุว่า ไทยได้นำเทคโนโลยีจากอิสราเอลเข้ามาช่วยเสริมความสามารถทั้งโดรนและระบบมิสไซล์ ทำให้เกิดการปฏิรูปยุทธศาสตร์ ซึ่งสะท้อนการพัฒนาขีดความสามารถด้านกลาโหมอย่างชัดเจน

Reuters รายงานความไม่สมดุลในกำลังทางทหาร ระบุว่าไทยมีความเหนือชั้นด้านอากาศยาน (F 16) และความสามารถทางทะเลที่สูงกว่ากัมพูชา ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่รักษาเสถียรภาพไว้ได้ Reuters ระบุอีกว่า ไทยมีงบประมาณความมั่นคงกว่า 5.7 พันล้านดอลลาร์
ประเทศไทยมีความสามารถด้านการผลิตอาวุธและยุทโธปกรณ์ภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา เพื่อทดแทนการนำเข้าและขยายสู่ตลาดส่งออกในภูมิภาค ASEAN และบางประเทศในตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียใต้
อาวุธและยุทโธปกรณ์ที่ไทยผลิตและส่งออกแล้ว (บางส่วน)
1. ปืนเล็กยาวและปืนสั้น (Firearms)
- ปืนเล็กยาว Tavor (รุ่นลิขสิทธิ์ร่วม) และปืนเล็กยาว Type 11
- ปืนสั้น 11 มม. และ 9 มม. ที่ผลิตโดยโรงงานอาวุธของกองทัพบก
- มีการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา ลาว และฟิลิปปินส์

2. รถเกราะล้อยาง 8x8 First Win (Chaiseri)
- ใช้ในกองทัพไทย และ ส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, บาห์เรน
- รถรุ่นนี้ถูกยกย่องว่ามีคุณภาพเทียบเท่ารถเกราะตะวันตก แต่ราคาถูกกว่า

3. ยานเกราะล้อยาง 4x4 “AV4” และรุ่นพัฒนาอื่น ๆ พัฒนาร่วมกับ Deftech (มาเลเซีย) และมีการส่งออกบางส่วน

4. เรือรบและเรือตรวจการณ์ (OPV) อู่ราชนาวี และบริษัทเอกชนไทย เช่น Italthai Marine ผลิตเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง
ให้กองทัพเรือและขายให้ประเทศเพื่อนบ้าน

5. โดรน UAV ไทยพัฒนาเอง
- โครงการ “D-Eyes” และ “Sky Scout” สำหรับภารกิจสอดแนม
- ส่งออกหรือร่วมพัฒนากับประเทศเพื่อนบ้าน

หลังจากศึกครั้งนี้ ผมคิดว่าเราน่าจะเติบโตในอุตสาหกรรมด้าน “เทคโนโลยีป้องกันประเทศได้”
ด้วยการส่งออกสินค้าเหล่านี้เพิ่มเติม
1. โดรนติดอาวุธ (Armed UAV) หลังจากประสบความสำเร็จในการใช้โดรนติดระเบิดแบบ “Precision Strike”
     ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา (คล้ายยุทธวิธีในยูเครน) มีแนวโน้มจะต่อยอดส่งออกให้ประเทศที่ต้องการระบบราคาย่อมเยา
2. จรวดหลายลำกล้อง (MRLS) ไทยมีความร่วมมือกับจีนและอิสราเอลในการพัฒนา และอาจต่อยอดไปสู่การผลิตในประเทศ
     เพื่อขายในตลาดอาเซียน
3. กระสุนปืนและกระสุนใหญ่ (Ammunitions) ไทยมีโรงงานผลิตกระสุนมาตรฐาน NATO ซึ่งสามารถส่งออกได้ เนื่องจากตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความต้องการสูง
4. ยานเกราะขนาดเล็ก 4x4 รุ่นใหม่ Chaiseri และ Panus Assembly กำลังพัฒนารุ่นใหม่ที่มีระบบป้องกัน IED
    และเหมาะกับการรบในเมือง
5. ระบบอาวุธทางทะเล (Fast Attack Craft และ OPV รุ่นใหม่) อู่ราชนาวีและภาคเอกชนไทยกำลังพัฒนาเรือรบรุ่นใหม่
    ที่มีระบบตรวจจับเรดาร์สมัยใหม่และระบบอาวุธนำวิถี
ข้อได้เปรียบของไทย
- ต้นทุนต่ำแต่คุณภาพสูง เมื่อเทียบกับอาวุธตะวันตก
- ทำเลภูมิศาสตร์ที่ดี ส่งออกไป ASEAN, เอเชียใต้ และตะวันออกกลางได้ง่าย
- การพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับประเทศพันธมิตร เช่น อิสราเอล จีน และเกาหลีใต้
**** ความสูญเสียของพี่น้องทหารไทยครั้งนี้จะไม่สูญเปล่าแน่นอนครับ ****