อาการเกียร์ค้างที่ P มีสาเหตุ และวิธีแก้ไขอย่างไรมาดูกันครับสาเหตุ1. จอดบนทางลาด เข้าเกียร์ P ไว้ โดยไม่ได้ดึงเบรคมือขึ้น และตั้งพวงมาลัยไม่ตรง
2. ฟิวส์/ไฟเบรคหลังรถขาด/ไม่ติด/ไฟไม่เข้ากล่อง
3. สวิท/ปลั๊กไฟตรงหลังคันเบรคเสีย ขั้วสกปรก ไฟเดินไม่สะดวก / คันหลังแป้นกับสวิทไม่ชน/เหลื่อมกัน
4. โซลินอยด์ล็อคคันเกียร์ขายึดหัก/เสีย/ไม่ทำงาน
5. กล่องวงจรควบคุมการเลื่อนเกียร์ (ใต้แป้นเกียร์) สายไฟ ตัว C (บวม แตก เยิ้ม ละลาย) เส้นทองแดงบนแผงวงจรชำรุด/ขาด
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบการแก้ไข1. ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องจอดบนทางลาด/ชัน หน้าขึ้น/ลง
ก่อนดับเครื่องให้เหยียบเบรค ---> ดึงเบรคมือขึ้นให้สุดทุกครั้ง ---> เข้า P และตั้งพวงมาลัยให้ตรงกันคอล็อค
ก็จะแก้ปัญหาอาการเกียร์ล็อค/ค้างได้
2. เช็คฟิวส์/ไฟเบรค/หลอดไฟ หลังรถว่าเหยียบติดไหม
3. เมื่อสตาร์ทรถ เหยียบเบรคย้ำๆ จะได้ยินเสียงดังแต๊กๆๆๆ (โซลินอยด์ทำงาน) บริเวณคันเกียร์
ถ้าไม่ได้ยินให้เช็คสวิท/ปลั๊กไฟตรงหลังแป้นเบรคก่อน สาเหตุหลักมาจากจุดนี้ ให้ทำความสะอาด
จุดปลั๊กเสียบหางปลา ใช้กระดาษทรายขัดล้างด้วยโซแนค (Sonax)/เปลี่ยนสวิทช์
4. เช็คโซลินอยด์โดยการจ่ายไฟว่าแกนดึงเข้า-ออกปกติไหม และเช็คระยะห่างของแกนว่าเข้าสุด
ออกสุดตรงตามตำแหน่งเดิม หรือไม่
5. กล่องวงจรควบคุมการเลื่อนเกียร์ ให้สังเกตุอย่างละเอียดทั้ง สายไฟ ตัว C
(ใช้หัวแร้งจี้ที่ขาออกจากแผงวงจร ด้วยความระมัดระวัง เอาตัวอย่างหาซื้อได้ตามร้านอิเล็คทรอนิกส์ทั่วไป)
และเส้นทองแดงบนแผงวงจร (หากเส้นขาดใช้สายไฟเชื่อมบัดกรีที่หัวท้าย)
แนะนำ- รถยนต์บางรุ่นเมื่อเข้าเกียร์ N ดับเครื่องแล้ว ไม่สามารถดึงกุญแจออกได้ ต้องเข้า P เท่านั้น
จึงจะสามารถดึงกุญแจออกได้ (เป็นระบบเซฟตี้) จากนั้นจึงเสียบกุญแจ/กดที่ชิพล็อค (Shift Lock)
แล้วเลื่อนมายัง N บางเคสก็ใช้วิธีการปลดล็อคโดยการถอดฝาครอบรูเสียบกุญแจออก สังเกตุปลั๊กสายไฟ
จะเสียบที่ท้ายรูกุญแจด้านนอก เมื่อดึงออกแล้วก็จะสามารถจอดรถที่ตำแหน่ง N และดึงกุญแจออกได้ตามปกติ
แต่ก่อนสตาร์ทให้เช็คตำแหน่งเกียร์ทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย
- สำหรับบางเคสไม่สามารถสตาร์ทรถที่ตำแหน่ง N/P ได้ ให้กดชิพล็อคสลับไปยัง N/P ใหม่อีกครั้ง
***หน้าคอนแท็คไม่สัมผัส/ไม่เข้าล็อค, รถจะไม่สามารถสตาร์ทที่ตำแหน่งเกียร์ R N
(บางรุ่นต้องเหยียบเบรค จึงจะสามารถสตาร์ทได้ตามปกติ) D 2 1 L***
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบ เคสนี้เป็นวอลโว่ 240 วาง 1j ge ฝาขาว : เริ่มจากสตาร์ทรถ เหยียบเบรคย้ำๆ (ไม่มีเสียงดังแต๊กๆ ที่เกียร์)
---> เหยียบเบรคเช็คไฟเบรคท้ายติดไหม (เคสนี้ทำคนเดียวเลยใช้ดัมเบลช่วยครับ แต่ไฟไม่ติด)
---> เปิดฝาใต้คอพวงมาลัย จะเห็นสวิทคันเบรค ดึงสายไฟทั้ง 2 เส้นออก เอามาแตะกัน (เป็นการเช็คสวิท)
---> ฟังเสียงที่เกียร์อีกครั้ง (เงียบเหมือนเดิม) เช็คไฟเบรคหลังรถอีกครั้ง (ไม่ติดเหมือนเดิม) ดังนั้นหลอดไฟเบรค กับสวิทคันเบรคไม่ได้เสีย
---> ต่อไปเช็คโซลินอยด์กับกล่องควบคุมเกียร์ ---> ขายึดโซลินอยด์ปกติไม่ได้หัก จ่ายไฟเข้าโดยตรงก็ชักเข้า-ออกสุดปกติเช่นกัน
ส่วนแผงวงจรหน้า+หลังเช็คอย่างละเอียดไม่พบร่องรอยตัว C เสียหาย / ลายทองแดงบนแผงวงจรไม่ชำรุดแต่อย่างใด ตัดประเด็นนี้ออกไปได้เลย
---> ต่อไปเช็คกล่องฟิวส์ควบคุมระบบไฟในรถ ไล่ถอดออกมาทำความสะอาดทีละตัว ทั้งหมด 16 ตัว พบไม่ปกติ 2 ตัว
---> ตัวแรกที่เห็นชัดเจนคือฟิวส์ขาดได้มีการนำทองแดงมาพันไว้ (ตัวนี้ควบคุมไฟเพดาน) ยังใช้งานได้ปกติ
แต่ได้นำมาบัดกรีให้ไฟเดินสะดวกมากขึ้น ส่วนอีกตัว หรือตัวปัญหา เมื่อมองตาเปล่าจะพบว่าปกติ
แต่เมื่อแกะออกมาจะพบว่าขั้วหัว-ท้ายที่ฟิวส์ กร่อน ขึ้นคราบขาวๆ ลักษณะเหมือนหินปูน ตามภาพ จึงได้เปลี่ยนใช้ฟิวส์สำรอง
---> ทดสอบใช้งานอีกครั้งพบว่าเมื่อเหยียบเบรคย้ำๆ เสียงแต๊กๆ ดังที่เกียร์เหมือนเดิมแล้ว ไฟเบรคกลับมาติดเหมือนเดิม
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบ สรุปงานนี้แก้ไขไปได้อีก 1 เคส ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ครับ กลับมาใช้งานได้ตามปกติ ดังเดิม
แหล่งที่มาของข้อมูล