ข่าวประชาสัมพันธ์

มาร่วมเป็นกำลังใจให้เว็บด้วยการสมัครสมาชิกวีไอพี ~~ เลือกปีที่ท่านต้องการได้โดยไม่ต้องเรียงปี ~~ ปีละ 350 บาท สมัคร 2 ปีลดเหลือ 600 บาท ~~ มีไลน์กลุ่ม VIP จำนวนหลายร้อยท่าน เอาไว้ปรึกษางานซ่อม ~~ เข้าถึงข้อมูลด้านเทคนิค ข้อมูลเชิงลึกมากมาย.....


ผู้เขียน หัวข้อ: อากาศยานไร้คนขับทั้ง 6 รุ่น “DP-6, DP-16, DP-18A, DP-20, DP-20A และ DP-26”  (อ่าน 65 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Prog Man

  • Administrator
  • วิศวกรรมเครื่องกล
  • *
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.พ. 2567
  • กระทู้: 323
  • สมาชิกลำดับที่ : 25791
    • อีเมล์
อ้างถึง
   อากาศยานไร้คนขับทั้ง 6 รุ่น “DP-6, DP-16, DP-18A, DP-20, DP-20A และ DP-26”
โดย Aero Technology Industry Company Limited: ATIL บริษัทร่วมทุนของไทย เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรม
อากาศยานไร้คนขับภายในประเทศ และสามารถนำไปปฏิบัติภารกิจ/ ใช้งานได้จริงในกองทัพไทย
(Royal Thai Armed Forces: RTARF) รวมทั้งการส่งออกไปต่างประเทศด้วย

   ในงาน Defense and Security 2022 ที่จัดขึ้นที่เมืองทองธานี ประเทศไทยนั้น บริษัท Aero Technology Industry
Company Limited (ATIL) ซึ่งเป็นกลุ่มร่วมทุนระหว่างบริษัท Beihang UAS Technology ของจีนกับสถาบันเทคโนโลยี
ป้องกันประเทศ หรือ DTI ของไทย และบริษัท PYN INTERNATIONAL ของไทย ซึ่งมีการจัดตั้งโรงงานใหม่ในจังหวัดปทุมธานี
ได้เปิดตัวอากาศยานไร้คนขับแบบทั้ง 3 รุ่น แบบ DP-16, DP-20 และ DP-20A นอกจาหนี้ยังมีรุ่นลำเลียงแบบ DP-26 ด้วย
โดยตั้งเป้าหมายที่จะทำการผลิตชิ้นส่วนอากาศยานในประเทศไทย และเป็นฐานการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของกองทัพไทย
และตลาดส่งออกทั่วโลก

ข้อมูล และสเปคของอากาศยานไร้คนขับทั้ง 6 รุ่น ดังนี้
1. DP-6 Small VTOL UAV (Version II) เป็นอากาศยานไร้คนขับขึ้นลงทางดิ่งขนาดเล็ก แบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
   (Fully Autonomous Take Off and Landing) โดยไม่จำเป็นที่จะต้องใช้สนามบินในการบินขึ้นและบินลง ปฏิบัติภารกิจ
   ได้ทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน มีความกว้างของปีก 4.75 เมตร เพดานบินสูงสุด 15,000 ฟุต รัศมีปฏิบัติการไกลถึง
   100 กิโลเมตร บินได้นาน 6 ชั่วโมง ควบคุมความแม่นยำในการบินด้วย INS/GPS ปฏิบัติการบินได้ในสภาพความเร็วลม
   ระดับ 5 (ไม่เกิน 21 นอต) มีจุดติดตั้งอุปกรณ์สำหรับปฏิบัติภารกิจได้ 4 ตำแหน่ง สามารถติดตั้งอุปกรณ์ได้หลากหลาย
   อาทิ กล้องเฝ้าระวังระยะไกล และกล้องถ่ายภาพความร้อนหลายเซ็นเซอร์ (Electro-Optical/Infra-Red: EO/IR ),
   เรดาร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว และระบุตัวตน (Synthetic Aperture Radar: SAR), การรวบรวมข่าวกรองโดยใช้สัญญาณ
   SIGINT, การถ่ายทอดสัญญาณ Comm. Relay เป็นต้น โดยกล้อง EO/IR บนอากาศยานไร้คนขับ DP-6 สามารถถ่ายภาพ
   ได้จากระยะไกล และให้ภาพสีความละเอียดสูง  มีพื้นที่การมองเห็นหลายขนาด ใช้เซ็นเซอร์ CCD หรือเซ็นเซอร์แสงที่พัฒนา
   มาจากเทคโนโลยีวงจรรวม (Integrated Circuit: IC) สำหรับรับภาพในความมืด และภาพระยะใกล้ย่านอินฟาเรด สามารถติดตาม
   เป้าหมายได้อัตโนมัติ และทำงานร่วมกับเรดาร์ตรวจการณ์ มีจุดเด่นของระบบสื่อสารในการบินของอากาศยานไร้คนขับ DP-6 คือ
   สามารถส่งต่อการควบคุมระหว่างสถานีควบคุมภาคพื้นระบบที่ 1 และระบบที่ 2 ภายในรัศมี 100 กิโลเมตร ได้ ทำให้สามารถครอบคลุม
   รัศมีการปฏิบัติภารกิจได้ถึง 200 กิโลเมตร สามารถปฏิบัติภารกิจได้หลากหลายทั้งทางทหาร และพลเรือน อาทิ ด้านการข่าว ลาดตระเวน
   เฝ้าตรวจทางอากาศ (Intelligence Surveillance and Reconnaissance: ISR) การค้นหาเป้าหมาย การกำหนดเป้าหมาย
   การปรับเป้าหมายการยิง รวมทั้งการประเมินความเสียหายจากการรบ ซึ่งเป็นภารกิจทางทหาร ส่วนทางด้านพลเรือน สามารถสนับสนุน
   การทำแผนที่ การตรวจการลาดตระเวน การตรวจสอบความเสียหาย การสนับสนุนการป้องกันภัยพิบัติต่าง ๆ เป็นต้น

2. DP-16 มีขนาดเล็กกว่า DP-20 แต่สามารถทำการติดอาวุธได้ มีความสามารถที่ใกล้เคียงกับ DP-20 และ DP-20A
   แต่มีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานที่ถูกกว่า โดย DP-16 มีความยาว 6 เมตร สูง 1.2 เมตร ปีกกว้าง 10 เมตร มีพิสัยปฏิบัติการ
   1,200 กิโลเมตร บินด้วยความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะบินเดินทาง DP-16 สามารถทำการบินที่ความเร็ว 120-150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ความสูง 3,000 เมตร สามารถบรรทุกน้ำหนักได้ 80 กิโลกรัม เพดานบิน 4,000 ฟุต ระยพเวบาปฏิบัติการนาน 6 ชั่วโมง น้ำหนักบินขึ้นสูงสุด 360 กิโลกรัม พร้อมทางเลือกในการติดตั้งจรวดอากาศสู่พื้นได้ โดยอากาศยานรบไร้คนขับแบบ DP-16 สามารถติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีได้ 3 นัด และได้ทดสอบยิงระเบิดนำวิถีด้วยเลอซอร์ (Laser-Guided Bomb: LGB) ไปแล้ว ในเดือนกรกฎาคม ปีพ.ศ. 2566 สามารถติดตั้งระบบตรวจจับ เช่น กล้อง EO/IR (Electro-Optical/Infrared) ได้ โดยปัจจุบันรองรับการติดตั้งอาวุธนำวิถี 2 นัด ที่ตำบลอาวุธจุดแข็งที่โคนปีกทั้งสองข้าง ในอนาคตอาจจะเพิ่มตำบลอาวุธที่จุดแข็ง 3 จุดใต้เครื่อง รวมเป็น 5 นัด

3. DP-18A เป็นอากาศยานไร้คนขับโจมตีทางยุทธวิธีสำหรับการลาดตระเวน,  ตรวจการณ์ และรวบรวมข่าวกรอง ที่ยังสามารถมอบ "การโจมตีในเวลาจริงต่อเป้าหมายข้าศึก" โดยอากาศยานรบไร้คนขับ DP-18A UCAV สามารถติดตั้งอาวุธยิงจากทางอากาศได้สูงสุดถึง 6 นัด มีปีกกว้าง 9 เมตร ยาว 4 เมตร สูง 1.75 เมตร มีน้ำหนักบินขึ้นสูงสุด (Maximum Take-Off Weight: MTOW) ที่ 300 กิโลกรัม น้ำหนักบรรทุกสูงสุดที่ 80 กิโลกรัม ทำความเร็วได้สูงสุดที่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีเพดานบินสูงสุด 5,000 เมตร (16,500 ฟุต) ระยะเวลาปฏิบัตินาน 12 ชั่วโมง รัศมีปฏิบัติการ 150 กิโลเมตร และใช้ระยะทางวิ่งเพื่อบินขึ้นที่ 250 เมตร โดยอาวุธที่ติดตั้งมีชื่อว่า อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น AG-001 "ÇELİK BIÇAĞI" ภาษาตุรกีแปลว่า "มีดเหล็กกล้า: Steel Blade) ที่เปิดตัวในงานเป็นครั้งแรก โดยไม่เปิดเผยแหล่งที่มาของระบบ แต่ระบุว่าไม่ได้มาจากตุรกี ที่ใช้ชื่อนี้เพื่อมองจะเปิดตลาดในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ โดย AG-001 เป็นระเบิดนำวิถีด้วย Semi Active Laser (SAL) และ Inertial Navigation System (INS) มีความยาว 1100 มม. เส้นผ่าศูนย์กลาง 130 มม. หนัก 15 กิโลกรัม ติดหัวรบหนัก 9 กิโลกรัม มีระยะยิงไกลสุด 8 กิโลเมตร สามารถทำลายรถยานเกราะเบา ยานพาหนะผิวบาง และบุคคลในรัศมีทำลายที่ 15 เมตร

4. DP-20 (D-eyes 04) เป็นอากาศยานไร้คนขับขนาดกลาง มีความยาว 5.75 เมตร สูง 2.75 เมตร ปีกกว้าง 13.4 เมตร สามารถบินปฏิบัติการได้นาน 20 ชั่วโมง ระยะปฏิบัติการ 200 กิโลเมตร เมื่อใช้สถานีควบคุมภาคพื้นดิน และระยะปฏิบัติการไกลสุด 2,000 กิโลเมตร เมื่อควบคุมผ่านดาวเทียม (SAT Communication) มีน้ำหนักบินขึ้นสูงสุดที่ 750 กิโลกรัม ซึ่งรวมถึงน้ำหนักบรรทุกที่ 150 กิโลกรัม ความเร็วในการบินเดินทางที่ 140-180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ติดตั้งกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูง ที่สามารถทำการชี้เป้าและระบุตำแหน่งในการใช้อาวุธต่าง ๆ ได้ โดยในการออกแบบ วิศวกรของไทยได้ออกแบบต่อยอดจากวิศวกรจีน และทำโครงสร้างให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการออกแบบแพนพางระดับใหม่ให้เป็นรูปตัววี

5. DP-20A เป็าอากาศยานไร้คนขับเพดานบินปานกลาง ระยะทำการนาน ขนาดใหญ่  (Medium-Altitude and Long-Endurance Unmanned Aerial Vehicle: MALE UAV) สามารถบินปฏิบัติการได้นาน 36 ชั่วโมง แต่เพิ่มขีดความสามารถจาก DP-20 คือ สามารถติดตั้งจรวดขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพสูงได้ถึง 16 นัด น้ำหนัหรวม 370 กิโลกรัม จึงทำให้ DP-20A เป็นอากาศยานไร้คนขับ ที่มีความสามารถในการบินนาน ใช้ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน และโจมตีได้ในคราวเดียวกัน มีความเหมาะสมสำหรับภารกิจข่าวกรอง, ตรวจการณ์ และลาดตระเวน (Intelligence, Surveillance and Reconnaissance: ISR) รวมไปถึงภารกิจปรับการยิง, ตรวจตราชายแดน, ประเมินสนามรบ, การชี้เป้าหมาย และการะบุตำแหน่ง นอกจาการติดตั้งระบบตรวจจับด้วยกล้องแบบ EO/IR (Electro-Optical/Infrared) แล้ว อากาศยานไร้คนขับแบบ DP-20A ยังมีขีดความสามารถในการบรรทุกอุปกรณ์อื่น ๆ ในการเลือกติดตั้ง ได้แก่เรดาร์สร้างภาพแผนที่ภูมิประเทศ (Synthetic Aperture Radar: SAR), ระบบรวบรวมข่าวกรองทางสัญญาณ (Signals Intelligence: SIGNT) รวมไปถึงการทวนสัญญาณสื่อสาร โดยภาคอุตสาหกรรมการบินภายในไทย ได้ทำการผลิตตัวอากาศยาน และระบบของอากาศยานไร้คนขับ DP-20A ถึงร้อยละ 80 ซึ่ง DP-20A มีความยาว 10.63 เมตร สูง 2.28 เมตร และมีปีกกว้าง 18 เมตร มีความจุเชื้อเพลิงสูงสุดที่ 430 กิโลกรัม ติดตั้งเครื่องยนต์ขับเคลื่อนแบบ Rotax 914 Turbo-Charged  4 จังหวะ, 4 ลูกสูบ จำนวน 1 เครื่อง ทำความเร็วสูงสุดที่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีระยะเวลาปฏิบัติการบินได้นาน 36 ชั่วโมง มีเพดานบินปฏิบัติการที่ 7,500 เมตร (24,606 ฟุต) ด้วยน้ำหนักบินขึ้นสูงสุด 1,500 กิโลกรัม อากาศยานไร้คนขับแบบ DP-20A มีโครงสร้างลำตัว ที่ทำมาจากคอร์บอนไฟเบอร์ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรง, คู่ปีกลู่หลังส่วนกลางปีก, ฐานล้อลงจอดสามฐานแบบพับเก็บได้, แท่นติดตั้งกล้องตรวจจับ EO/IR แบบรักษาการทรงตัวใต้ส่วนท้องของโครงสร้างลำตัว และแพนหางแนวตั้งคู่โดยมีส่วน tail booms เดิมจากกระเปาะส่วนโครงสร้างบนส่วนพื้นที่ปีกล่าง

6. DP-26 “LUCA” เป็นโดรนลำเลียง สำหรับการใช้งานในภาคพลเรือนธุรกิจโลจิสติกส์ ด้วยพิสัยบินไกล 600 กิโลเมตร และมีความสามารถในการบรรทุกน้ำหนักได้สูงสุด 2,700 กิโลกรัม ทำให้ DP-26 LUCA หรือ Logistics Unmanned Cargo Aircraft จะเป็นหนึ่งในยูเอวีขนส่งที่พร้อมใช้งานจริงแบบแรกของโลก ณ ปัจจุบัน โดยต้นแบบของ DP-26 อยู่ในระหว่างการทดสอบ และรอการรับรองและใบอนุญาตจากหน่วยงานการบินของประเทศลูกค้า ก่อนที่ DP-26 จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจการขนส่งทางอากาศและโลจิสติกส์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก
บริษัท ATIL มีทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท จดทะเบียในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2564 มูลค่าบริษัท 58 ล้านบาท มีการจัดตั้งสายการผลิต และโครงสร้างพื้นฐานด้านการทดสอบในจังหวัดปทุมธานี โดยทั้งนักวิจัยไทย และจีน ต่างทำงานร่วมกัน เพื่อพัฒนา UAV ในทุกมิติ และได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เนื่องจากชิ้นส่วน ๆ ใหญ่ของ UAV นั้น ผลิตในประเทศไทยโดย ATIL และบริษัทไทยหลายบริษัท โดยในปัจจุบัน มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเข้ามาแล้วจากตะวันออกกลาง สำหรับ DP-26 ซึ่งเป็นอากาศยานไร้คนขับ สำหรับธุรกิจขนส่ง และลำเลียง ซึ่งมีคำสั่งซื้อเพียงพอที่จะเปิดสายการผลิตไปอีกหลายปี
- ในปีพ.ศ. 2565 ATIL ได้ทำการส่งต้นแบบระบบอากาศยานไร้คนขับขนาดกลาง DP-20 จำนวน 2 เครื่อง ให้กองร้อยบินอากาศยานไร้คนขับ กองพันบินที่ ๒๑ กรมบิน ศูนย์การบินทหารบก กองทัพบกไทย ทำการทดสอบ และประเมิน ซึ่งเป็นหน่วยผู้ใช้งานระบบอากาศยานไร้คนขับหลักของกองทัพบกไทย รวมถึงอากาศยานไร้คนขับ Hermes 450 UAV ของ Elbit Systems รัฐอิสราเอล และในปีพ.ศ. 2566 ATIL จะส่งรุ่น DP-20A ซึ่งเป็นรุ่นที่ติดอาวุธได้ ให้กองทัพบกทดสอบ และประเมินค่าเช่นกัน
- ต้นปีพ.ศ. 2566 ในงาน Thailand Defense Industry and Security Technology Exhibition 2023 ผู้บริหารของ ATIL ได้กล่าวว่า DP-20 ได้ทำการทดสอบการบินแล้ว โดยผ่านการทดสอบในกิจเฉพาะทั้งหมดที่ได้กำหนดไว้ ตัวอย่างเช่น สามารถบินได้ 12 ชั่วโมงที่สนามบินของศูนย์การบินทหารบกไปที่จังหวัดเพชรบูรณ์ แบบไปกลับรวม 400 กิโลเมตร ส่วน DP-20A ที่เป็นอากาศยานติดอาวุธ ทาง ATIL ก็ได้เตรียมนักวิจัยไปอบรมหลักสูตรพัฒนาออกแบบอากาศยานไร้คนขับที่มีขนาดใหญ่ขึ้น คือปีกกว้าง 18 เมตร รวมถึงการติดตั้งระบบอาวุธ รวมถึงได้อัพเดทว่า โรงงานที่ปทุมธานีค่อนข้างจะสมบูรณ์แล้ว พร้อมที่จะทำการผลิตและประกอบรวมอากาศยานไร้คนขับต่าง ๆ ที่ ATIL จะนำเข้ามาทำตลาดตั้งแต่ DP-16, DP-20, และ DP-6
- เดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม ปีพ.ศ. 2566 บริษัท ATIL ได้นำอากาศยานไร้คนขับ DP-6 ทำการปฏิบัติการบินทดสอบสมรรถนะในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เหนือน่านฟ้าสนามบิน เดอะ สกาย แอร์ฟิลด์ (The Sky Airfield) ตั้งอยู่บริเวณใกล้กับเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี โดยได้ทำการบินไต่ระดับขึ้นไปที่ความสูง 13,000 ฟุต (3,964 เมตร) ซึ่งนับว่าบินได้สูงมาก และเครื่องมือตรวจจับเครื่องบิน (Flight Radar) สามารถตรวจจับได้เหมือนเครื่องบินทั่วไป โดยเว็บไซต์ flightradar24.com ได้แสดงข้อมูลเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ถึงอากาศยานนามเรียกขาน callsign "ATIL01" นอกจากนี้ยังได้ทดสอบการส่งต่อการควบคุมการบินระหว่างสถานีควบคุมภาคพื้นระบบที่ 1 ซึ่งอยู่ที่สนามบิน เดอะ สกาย แอร์ฟิลด์ (The Sky Airfield) และระบบที่ 2 อยู่ที่สนามบินโพธาราม (Photharam Airport) จังหวัดราชบุรี โดยมีระยะทางห่างกันประมาณกว่า 90 กิโลเมตร สามารถควบคุมอากาศยานไร้คนขับ DP-6 ที่ทำการบินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอากาศยานไร้คนขับ DP-6 ยังได้ทดสอบการถูกกวนสัญญาณการสื่อสารการบินระหว่างสถานีควบคุมภาคพื้นและตัวอากาศยาน ซึ่งระบบได้ทำการเปลี่ยนคลื่นความถี่แบบอัตโนมัติ เพื่อดำรงการปฏิบัติการบินต่อไปได้ และได้ทำการทดสอบการตัดสัญญาณระหว่างสถานีควบคุมภาคพื้นกับ DP-6 (Communication Link fail) ซึ่ง DP-6 ได้ทำการบินกลับมาที่จุดเริ่มต้น (Home) เพื่อทำการลงจอดแบบอัตโนมัติได้ด้วยความแม่นยำ ซึ่งจะเห็นได้ว่า การปฏิบัติการบินทดสอบสมรรถนะของอากาศยานไร้คนขับ DP-6 รวมถึงระบบต่าง ๆ ที่ใช้ควบคุมการบิน มีประสิทธิภาพและมาตรฐานความปลอดภัยการบินที่สูงมาก สามารถรองรับการปฏิบัติภารกิจที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี อากาศยานไร้คนขับรุ่น DP-6 เป็น Dual use คือสามารถใช้ปฏิบัติภารกิจได้ทั้งทางทหาร และพลเรือน ทำการบินขึ้นและบินลงโดยไม่จำเป็นต้องใช้สนามบินโดยระบบควบคุมแบบอัตโนมัติ จะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัท ATIL ที่ดำเนินการผลิต ประกอบ ซ่อมบำรุง ฝึกอบรม และทดสอบ ได้เองภายในประเทศในอนาคตอันใกล้นี้ เป็นการประหยัดงบประมาณจากการนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศ  สามารถสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าตามนโยบายของรัฐบาล บนพื้นฐานการพึ่งพาตนเอง เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ สนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยก้าวไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป
- เดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2566 สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ: สทป. (Defence Technology Institute: DTI) มีความคืบหน้าในการวิจัย และพัฒนาร่วมระบบอากาศยานไร้คนขับขนาดกลาง DP-20 UAS สำหรับกองทัพบกไทย โดย DTI ได้เผยแพร่ภาพ และข้อมูลการตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้าของโครงการ ณ ศูนย์การบินทหารบก ในจังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2566 โดยได้แสดงถึงเครื่องต้นแบบของอากาศยานไร้คนขับ DP-20 จำนวน 1 เครื่อง ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมทำการบินได้แล้ว และภาพภายในสถานีควบคุมภาคพื้นดิน (Ground Control Station: GCS) ที่มีความทันสมัย
- เดือนกรกฎาคม ปีพ.ศ. 2566 อากาศยานไร้คนขับแบบ DP-16 ประสบความสำเร็จ ในการปล่อยระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ แบบไม่ติดตั้งหัวรบ จำนวน 2 ลูก โจมตีเป้าหมายที่ห่างออกไป 2 กิโลเมตร ขณะทำการบินที่ความเร็ว 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความสูง 6,000 ฟุต โดยระเบิดนำวิถีทั้งสองลูก ใช้เวลาโคจรเข้าสู่เป้าหมายภายใน 25 วินาที และประสบความสำเร็จในการพุ่งชนทั้ง 2 เป้าหมาย โดยเป็นระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ขนาดเล็กที่ไม่มีระบบขับเคลื่อนในตัว เป็นระบบที่จีนพัฒนาโดยถ่ายทอดวิทยาการให้กับไทย
- ปลายปีพ.ศ. 2566 ในงาน Defense and Security 2023 บริษัท ATIL ได้เปิดตัวอากาศยานไร้คนขับแบบใหม่ ในชื่อ DP-18A ซึ่งสามารถติดอาวุธได้ ซึ่งเป็นการออกแบบใหม่ เพื่อทำตลาดทดแทน DP-16 โดย DP-18A นั้น นักวิจัยไทยได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศ และนำมาพัฒนาต่อ และทดสอบการบิน/ การใช้อาวุธแล้ว ซึ่ง DP-18A มีคุณลักษณะพิเศษคือมีหางรูปตัว X ที่มีประสิทธิภาพในการบินได้ดีขึ้นยิ่ง การซ่อมบำรุงง่ายขึ้น นอกจากนั้น ผู้บริหาร ATIL ยังกล่าวว่า บริษัทยังทำตลาดจรวดที่ติดกับอากาศยานไร้คนขับ ซึ่งจะใช้สายการผลิตจรวดในประเทศ และใช้วัสดุในประเทศ เช่น โลหะ ดินขับ และดินระเบิด ในการผลิต โดยได้รับคำสั่งซื้อแรกจากต่างประเทศแล้ว โดย ATIL ได้ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ในการผลิต และประกอบรวมจรวดที่ใช้งานกับอากาศยานไร้คนขับ โดยใช้วัสดุที่ผลิตได้ในประเทศ ซึ่งในปัจจุบัน มีคำสั่งซื้อเข้ามาแล้วจำนวนหนึ่งจากต่างประเทศ โดยใช้สายการผลิตจรวดของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศเอง ซึ่งทำให้สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศสามารถหารายได้เข้ารัฐได้ รวมถึงนักวิจัยก็สามารถได้รับเทคโนโลยี และทักษะในการผลิตจรวดอีกด้วย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ATIL ก็ได้ร่วมเข้าคัดเลือกแบบในโครงการจัดหาอากาศยานไร้คนขับของหน่วยทหารปืนใหญ่ แม้ว่าจะผ่านคุณลักษณ์ทั่วไปในการแข่งขัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จในการได้รับสัญญา ซึ่งหน่วยทหารปืนใหญ่ได้เลือกอากาศยานไร้คนขับจาก Norinco ซึ่งเป็นการนำเข้าจากจีน โดยผู้บริหารกล่าวว่า ถือเป็นบทเรียน และคำแนะนำของกองทัพบกที่ได้รับก็เป็นส่วนหนึ่งในการนำไปพัฒนาอากาศยานไร้คนขับแบบใหม่เพิ่มเติม โดย ATIL ได้เสร็จสิ้นการพัฒนาอากาศยานรบไร้คนขับแบบ DP-18A UCAV แล้ว และบริษัทกำลังหารือกับกองทัพไทย เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดซื้อจัดจ้าง โดยโครงการดังกล่าว คาดว่าจะได้รับการสนับสนุนผ่านการทดสอบเพิ่มเติมโดยกองทัพไทย ในขั้นต้นจะครอบคลุมเริ่มต้นด้วยระบบ DP-18A UCAV จำนวน 1 ระบบ ซึ่งจะประกอบด้วยอากาศยานรบไร้คนขับแบบ DP-18A จำนวน 4 เครื่อง และสถานีควบคุมภาคพื้นดิน (Ground Control System: GCS) โดยการออกแบบแพนหางทรงตัว X ของ DP-18A ทำให้ตัวอากาศยานได้เพิ่มขยายความสามารถ มีเสถียรภาพ, ความยืดหยุ่น และความคล่องแคล่วการเคลื่อนที่ เปรียบเทียบกับ DP-16 ซึ่งใช้แพนหางแนวตั้งคู่ โดย ATIL ยังได้กล่าวถึงการประสบความสำเร็จในการเสร็จสิ้นการส่งมอบต้นแบบอากาศยานไร้คนขับขนาดกลาง DP-20 จำนวน  2 เครื่องแก่กองทัพบกไทย และบริษัท ยังมองที่จะนำเสนออากาศยานรบไร้คนขับ DP-20A ซึ่งเป็นรุ่นติดอาวุธแก่กองทัพไทย และส่งออกต่างประเทศ
#ทบ
#กองทัพบก
#กองทัพบกไทย
#RTA
#Army
#RoyalThaiArmy
#อากาศยานไร้คนขับ
#อากาศยานไร้นักบิน
#UAV
#UCAV
#UAS
#สปท
#สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ
#DTI
#DefenceTechnologyInstitute
#ATIL
#AeroTechnologyIndustryCompanyLimited
#DP6
#DP16
#DP18A
#DP20
#DP20A
#DP26
#กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
#ไทยปะทะกัมพูชา
#กัมพูชายิงก่อน
#cambodiaopenfire
#cambodiaopenwar
#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
#TruthFromThailand