ข่าวประชาสัมพันธ์

มาร่วมเป็นกำลังใจให้เว็บด้วยการสมัครสมาชิกวีไอพี ~~ เลือกปีที่ท่านต้องการได้โดยไม่ต้องเรียงปี ~~ ปีละ 350 บาท สมัคร 2 ปีลดเหลือ 600 บาท ~~ มีไลน์กลุ่ม VIP จำนวนหลายร้อยท่าน เอาไว้ปรึกษางานซ่อม ~~ เข้าถึงข้อมูลด้านเทคนิค ข้อมูลเชิงลึกมากมาย.....


ผู้เขียน หัวข้อ: มันควรเป็นไฟลท์ที่ถูกยกเลิก… แต่กลับกลายเป็นไฟลท์ที่ผมจะไม่มีวันลืม  (อ่าน 10 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออนไลน์ Auto Man

  • Administrator
  • หัวหน้าศูนย์ซ่อมสร้าง
  • *****
  • เจ้าของกระทู้
  • Joined: ก.ย. 2558
  • กระทู้: 43472
  • สมาชิกลำดับที่ : 1
  • เพศ: ชาย
  • มือผู้ให้ย่อมสูงกว่ามือผู้รับ
    • เว็บชุมชนคนรักช่างยนต์
    • อีเมล์
อ้างถึง

มันควรเป็นไฟลท์ที่ถูกยกเลิก… แต่กลับกลายเป็นไฟลท์ที่ผมจะไม่มีวันลืม
เที่ยวบินพิเศษที่ไม่มีอยู่ในตาราง
เครื่องลำใหญ่ที่บรรทุกอาหารและยาเต็มลำ
พายุที่ปิดเส้นทางเกือบทั้งภาคใต้…
และทั้งเมืองรอความช่วยเหลือด้วยความหวังเพียงหนึ่งเดียว
บันทึกต่อไปนี้ถ่ายทอดจากมุมมองของผู้ปฏิบัติการบิน
เพื่อยกย่องความทุ่มเทของทุกฝ่ายที่ร่วมภารกิจ
รายละเอียดบางส่วนถูกปรับเพื่อความปลอดภัย
และเป็นไปตามนโยบายด้านการสื่อสารของสายการบิน
I. จุดเริ่มต้นที่ไม่มีใครคาดคิด
ค่ำวันนั้น ผมยืนหน้าเตาครัวเล็ก ๆ
ชิ้น Iwate A3 ขึ้นสีน้ำตาลบนตะแกรง
ควันบาง ๆ ลอยสูงในแสงไฟ—ภาพประจำก่อนร้านเปิด
จนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
กลบเสียงฉ่าของไขมันที่โดนเปลวไฟ
ผมรับสายทั้งที่ยังใส่ถุงมือกันไฟอยู่
เสียงปลายสายสั้น ชัด และจริงจัง:
“กัปตันครับ… เรามีภารกิจพิเศษ ขอให้ช่วยบินไปหาดใหญ่ ขนอาหารและยาให้ผู้ประสบภัยครับ”
ผมละมือจากเตา
ถอดถุงมือ
และรู้ทันทีว่าคืนนี้จะเปลี่ยนไปทั้งคืน
มันไม่ใช่ไฟลท์ของผม
ไม่อยู่ในตารางบิน
แต่บางภารกิจ… ไม่ต้องถามเหตุผล
แค่ต้องออกเดินทาง
ผมหยิบปีกกัปตันจากกล่องหลังร้าน
ก้าวออกจากประตู BWR
และไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อมา
ผมก็มุ่งหน้าไปสนามบิน
ใต้แสงไฟของเมืองใหญ่ที่กำลังมืดลงช้า ๆ
II. ลานจอดที่บอกทุกอย่างตั้งแต่วินาทีแรก
ใต้ไฟสีส้ม ลำตัวของ Boeing 777 จอดนิ่ง
เหมือนสัตว์ใหญ่กำลังรอให้ปลุก
รอบเครื่องคือกองลังพัสดุห่อพลาสติกสีม่วง
มีลายมือเขียนว่า
“ของช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม”
“From People of Japan”
และชื่ออีกนับไม่ถ้วนจากคนที่อยากส่งความช่วยเหลือไปถึงภาคใต้
คืนนั้นทุกคนทำงานเร็วกว่าปกติ
ไม่มีเสียงบ่น ไม่มีคำสั่งซ้ำ
มีแต่เสียงล้อรถเข็น เสียงเทปดึง
และฝีเท้าที่วิ่งบนพื้นเปียก
เมื่อเห็นแผนการบิน
ผมรู้ทันทีว่านี่จะเป็นไฟลท์ที่ไม่ง่ายเลย:
– รันเวย์เดียว
– แท็กซี่เวย์แคบ
– อุปกรณ์ภาคพื้นจำกัด
– ต้องพาช่างไปด้วย
– และสำคัญที่สุด… ด้วยเหตุผลทางเทคนิคบางอย่าง
 เราจะไม่สามารถเติมน้ำมันกลับ
เราต้องบินแบบ Thru-Tank – น้ำมันถูกเติมสำหรับทั้งไป–กลับ
ท่ามกลางรายงานพายุ TSRA และเมฆ Cb เต็มเส้นทาง
ทุกอย่างบอกว่า “คืนนี้จะหนัก”
แต่เมื่อปลายทางคือเมืองที่รออยู่
เรามีคำตอบเดียว—ไปให้ถึง
III. ท้องฟ้าที่ไม่รับรองใครคืนไหนทั้งนั้น
หลังทะยานขึ้นสู่ความมืด
เรดาร์เริ่มเปลี่ยนสีเร็วกว่าสิ่งใดในห้องนักบิน
เขียว → เหลือง → ส้ม → แดงเต็มจอ
ก้อน Cb ตั้งตระหง่านเหมือนกำแพงหิน
ลมแรงพอให้เครื่องหนักกว่า 200 ตันสั่นสะเทือน
เสียงเตือนดังเป็นจังหวะสั้น ๆ
FO เงยหน้าถามเบา ๆ:
“พี่ครับ… จะอ้อมซ้ายไหม?”
ผมมองกำแพงเมฆ
มองฟ้าแลบที่กระพริบอยู่ลึก ๆ
ก่อนตอบสั้น ๆ:
“หลบให้พ้นไปเลย ไม่ต้องห่วงน้ำมัน—คืนนี้เราจะไม่เสี่ยง”
777 เลี้ยวผ่านร่องเมฆแคบ ๆ
ฟ้าผ่าคอยเตือนอยู่ไกล ๆ เหมือนบอกว่า
เส้นทางนี้… ไม่ได้เปิดให้ใครง่าย ๆ
IV. เข้าใกล้สนาม—วินาทีที่ไม่มีที่ว่างให้ผิดพลาด
เมื่อเริ่มเข้าแนวลงจอดที่หาดใหญ่
ค่าลมแกว่งจนเกือบแตะลิมิตของเครื่อง
แรงพอให้คนทั่วไปคิดว่าเครื่องกำลังถูกโยกอย่างอันตราย
แต่ใน cockpit เงียบ
มีเพียงเสียงรายงานค่า และสมาธิที่แน่นิ่ง
ผมบอก FO ช้า ๆ แต่ชัด:
“พี่รู้ ตอนนี้เกินลิมิต… เราลองลงไปดูก่อน ถ้าใกล้ถึงพื้นแล้วยังเกิน—Go-Around”
นั่นคือการเตรียมพร้อมทุกอย่าง โดยไม่ลังเลแม้วินาทีเดียว
แต่ก่อนถึงหัวรันเวย์ไม่กี่วินาที
ลม—ลดลง
กลับเข้ากรอบพอดี
เหมือนธรรมชาติเปิด “หน้าต่างแคบ ๆ ครั้งเดียวเท่านั้น” ให้เรา
777 ลงแตะพื้น
บนรันเวย์ที่แคบและมืดกว่าสนามที่เราคุ้นเคย
ทุกอย่างนิ่งจนผิดปกติ
เหมือนฟ้ายอมให้เฉพาะภารกิจนี้ผ่านไปได้
V. ฟ้าหยุดให้เราทำงาน—และปิดทันทีเมื่อเสร็จ
ทันทีที่ล้อหยุดหมุน
ฝนก็หยุด
ลมหายไป
อากาศนิ่งเหมือนมีใครกดปุ่ม “พัก”
แม้อุปกรณ์ภาคพื้นไม่พร้อมสำหรับเครื่องใหญ่
แต่ไม่มีใครยืนรอคำสั่ง
ทีมช่าง
ลูกเรือ
ภาคพื้น
เจ้าหน้าที่สนาม
และอาสาสมัครที่มาด้วยกัน
ทุกคนยกของเหมือนซ้อมกันมาเป็นเดือน
ทั้งที่จริงแล้ว… ไม่ได้ซ้อมเลย
ลังอาหารและยาไหลลงอย่างต่อเนื่อง
จนถึงลังสุดท้าย
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเดินมาบอกผมด้วยเสียงตื้นตัน:
“ขอบคุณมากนะครับ… คืนนี้คนต้องใช้ของพวกนี้จริง ๆ”
ผมกำลังจะตอบ
แต่ทันทีที่ประตูท้ายปิด
ฝนก็เทลงมาเหมือนฟ้าสั่งปิดฉากทันที
VI. เหตุผลที่ค่ำคืนนี้อยู่กับผมจนวันนี้
ไม่มีสื่อ
ไม่มีเสียงปรบมือ
ไม่มีคลิปไวรัล
มีเพียงทีมงานที่ยืนเปียกฝน
ยิ้มให้กันด้วยความเหนื่อยล้าที่มีความหมายที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตการบินของผม
คืนนี้คือบทเรียนหนึ่ง:
บางเที่ยวบินไม่ได้ถูกเขียนไว้ในตารางบิน
แต่ถูกเขียนไว้ในใจของคนที่รออยู่ปลายทาง
มันควรเป็นเที่ยวบินที่ “ไปไม่ได้”
แต่มัน “ไปถึง”
เพราะทีมทุกคนทำให้เป็นไปได้
777 คืนนั้นไม่ได้บินด้วยแค่แรงขับของเครื่อง
แต่มันบินด้วยแรงของคนทั้งทีม
ที่ลุกขึ้นมากลางค่ำกลางคืน
เพื่อส่งอาหารและยาให้ผู้ที่ต้องการจริง ๆ
และผมภูมิใจที่สุดที่คืนนั้น
ผมได้อยู่บนลำเครื่องนั้น
ร่วมกับทีมที่ทำให้ภารกิจนี้สำเร็จ
Fact Sheet
-การบินไทยเปิดรับบริจาคเวชภัณฑ์ อาหารแห้ง และของใช้จำเป็น
ระหว่าง 26 พ.ย. – 4 ธ.ค. 2568
-ในช่วงดังกล่าว การบินไทยได้เปลี่ยนจากเครื่องลำเล็กเป็นเครื่องแบบลำตัวกว้าง
เพื่อขนสิ่งของช่วยผู้ประสบภัยเป็นการเฉพาะกิจ
-แม้อุปกรณ์ภาคพื้นที่หาดใหญ่ไม่พร้อม
เจ้าหน้าที่การบินไทยร่วมกับทหารจาก มณฑลทหารบกที่ 42
ค่ายเสนาณรงค์ จังหวัดสงขลา ช่วยกันคัดแยกและส่งของถึงมือผู้ประสบภัย
-ปริมาณสิ่งของทั้งอาหาร ของใช้จำเป็น ยาและเวชภัณฑ์ รวมกว่า 57.95 ตัน
📣 ส่งต่อความภาคภูมิใจ
บางครั้ง... ความหวังก็ถูกส่งไปถึงปลายทางด้วยเที่ยวบินที่ไม่เคยมีใครเห็น
หากบันทึกนี้ทำให้คุณรู้สึกถึงพลังใจ... ขอเชิญชวนให้ร่วมส่งต่อเรื่องราวดี ๆ ของทีมนี้ด้วยการกดแชร์ครับ
#การบินไทย #thaiairways #น้ำท่วม #น้ำท่วมหาดใหญ่ #คนไทยไม่ทิ้งกัน

   
 

Napasoon N-flight

 
สวัสดีคุณ...ผู้เยี่ยมชม  กด ❤ ถูกใจโพสท์นี้ หรือยัง...
ต้องการสมัครสมาชิก VIP สมัครได้ที่นี่...   หรือทาง Line ID: k.sonchai