รุ่นที่ 1 (พ.ศ. 2549 - 2561) เชฟโรเลต แคปติวา ได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 28 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2550 เชฟโรเลต แคปติวา เป็นรถเอสยูวี อเนกประสงค์ ภายในมีทั้งหมด 7 ที่นั่ง เบาะแถว 2 และ 3 สามารถพับเก็บได้ ในเมืองไทยมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ในรุ่นเครื่อง 2.0 ลิตร จะเป็นเครื่องยนต์แบบดีเซล มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาจะอยู่ที่ 1,279,000 และ 1,560,000 บาท ตามลำดับ
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบ ส่วนในรุ่น 2.4 ลิตร จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ เช่นกัน ราคาจะอยู่ที่ 1,189,000 และ 1,460,000 บาท ตามลำดับ โดยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ของแคปติวาเป็นแบบ AWD (All Wheel Drive) เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด แบบ Tiptronic ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างเร้าใจยิ่งขึ้น อีกทั้งมาพร้อมกับความจุที่มาก เมื่อพับเบาะแถวที่ 3 ลงจะมีปริมาตรในการขนสัมภาระอยู่ที่ 465 ลิตร แต่ถ้าพับเบาะแถวที่ 2 ลงอีก ความจุก็จะเพิ่มเป็น 930 ลิตร
ภายในใช้วัสดุหรูหรา เครื่องเสียงแบบบิวด์อินที่รองรับการใช้งานวิทยุ, ซีดี และ MP3 ที่สามารถใส่ได้มากที่สุด 6 แผ่น มีพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมทั้งจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ DIC (Driver Information Center) ที่แสดงอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง, ระยะทาง และปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลืออยู่ ในแคปติวายังมีแอร์สำหรับผู้โดยสารในแถวที่ 3 อีกด้วย โดยทั้งหมดที่กล่าวมาอาจจะแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่น
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบ ส่วนทางด้านความปลอดภัยนั้น แคปติวามีค่ามาตรฐานด้านความปลอดภัย 4 ดาว จากการทดสอบการชนของ Euro NCAP ซึ่งเป็นมาตรฐานความแข็งแรงของรถยนต์ที่หลายประเทศในยุโรปใช้กัน
รุ่นย่อยของแคปติวามีตามรุ่นปีดังนี้- พ.ศ. 2550 เปิดตัวครั้งแรกพร้อม 2 รุ่นย่อย LS และ LT ทั้งเบนซินและดีเซล
- พ.ศ. 2552 มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ LSX และ LTZ พร้อม 2 สีใหม่ สีขาว Summit White และสีฟ้า Light Blue
- พ.ศ. 2553 เพิ่มรุ่นพิเศษด้วยติดตั้งชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ในรุ่นเบนซิน เป็นเครื่องยนต์เบนซิน Ecotec 4 สูบ 2.4 ลิตร E20 พร้อมเพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ (DOHC) 16 วาล์ว และระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง (Double CVC) ให้พละกำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ 6 สปีด พร้อม DSC (Driver Shift Control)
ปรับโฉมปี 2554 เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉมปี 2554 เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉม ได้ถูกเผยโฉมเมื่อไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 โดนมาการออกแบบกระจังหน้าใหม่ ไฟเลี้ยวตรงกระจกข้างแบบ LED ล้อออกแบบใหม่ ช่องรับอากาศและไฟตัดหมอกทรงใหม่ ฝังตัวอยู่บริเวณด้านข้างของกันชนหน้า แผ่นกันกระแทกสีบรอนซ์ใต้กันชนหน้าซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในแคปติวา ส่วนอ็อปชั่นใหม่ คือ ระบบควบคุมป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางลาดชัน (Hill Start Assist) ช่วยป้องกันรถไหลลงทางลาดชันในขณะออกตัว ในประเทศไทยมีเครื่องยนต์ใหม่ให้เลือกคือ เครื่องยนต์เบนซิน Ecotec 4 สูบ 2.4 ลิตร E85 พร้อมเพลาราวลิ้นคู่เหนือฝาสูบ (DOHC) 16 วาล์ว และระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง (Double CVC) ให้พละกำลังสูงสุด 168 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 229 นิวตันเมตร และ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร DOHC 16 วาล์ว มาพร้อมระบบจ่ายเชื้อเพลิงคอมมอนเรลแรงดันสูง ให้แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร พละกำลังสูงสุด 163 แรงม้า โดยมีการปรับตามรุ่นปีดังนี้
- พ.ศ. 2554 เปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์พร้อมจำหน่ายเครื่องเบนซินอย่างเดียว มีการออกรุ่นพิเศษ Centennial Edition
- พ.ศ. 2555 มีการเพิ่มรุ่นเครื่องดีเซลตามมา
- พ.ศ. 2556 มีการออกรุ่นพิเศษ Limited Edition จำกัดจำนวนเพียง 600 คัน
- พ.ศ. 2557 มีการปรับเปลี่ยนไฟท้ายใหม่แบบ LED กันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ ฝาครอบไฟตัดหมอกดีไซน์ใหม่ และเพิ่มติดตั้งบันไดข้างสแตนเลสในรุ่น LTZ และล้ออัลลอยลายใหม่ 18 นิ้วในรุ่น LSX ส่วนเครื่องยนต์จะมี 2 แบบเหมือนเดิม คือ เบนซินและดีเซล แต่มีการปรับปรุงเกียร์อัตโนมัติให้ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการตัดรุ่น LS และ LT ออกไป
- พ.ศ. 2558 มีการเปลี่ยนวิทยุใหม่ให้เหมือนสเปคยุโรป
รุ่นปรับโฉมปี 2559 - เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉม ด้านหน้า
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบ - เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉม ด้านหลัง
ตรงนี้มีภาพ! แต่ท่านจะมองไม่เห็น , ท่านต้อง สมัครสมาชิก หรือ
ลงชื่อเข้าระบบ เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉมปี 2559 ได้เปิดตัวครั้งแรกที่ Dubai International Motor Show 2015 ในวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 สำหรับประเทศไทย GM Thailand ได้เปิดตัวเชฟโรเลต แคปติวา รุ่นปรับโฉมด้วย ที่งานอินเตอร์เนชัลนอล มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 32 ในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ต่อมาอีกไม่กี่วัน โฮลเด้น แคปติวาก็ได้เปิดตัวในประเทศออสเตรเลีย โดยมีการปรับเปลี่ยนกระจังหน้าแบบดูอัลพอร์ทใหม่ที่ปรับให้ช่องด้านบนมีขนาดเล็กลงและติดตราโบว์ไทคั่นตรงกลาง ส่วนช่องดักอากาศด้านล่างเปลี่ยนมาเป็นแบบหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ขึ้นรวมถึงรายละเอียดของกันชนหน้าและกรอบไฟตัดหมอกออกแบบใหม่ให้ดูมีมิติมากขึ้น ไฟหน้าทรงใหม่ใกล้เคียงของเดิมและติดตั้งไฟสำหรับวิ่งในเวลากลางวัน (DRL) มาให้ โดยในรุ่น LTZ จะได้ล้อขนาด 19 นิ้วลาย 5 ก้านเดิมแต่เปลี่ยนมาใช้สีเทา-เงินแบบทูโทน ส่วนไฟท้ายเปลี่ยนเป็นแบบ LED
ส่วนภายในห้องโดยสารภายในเปลี่ยนมาใช้พวงมาลัยทรงสปอร์ตแบบ 3 ก้าน พร้อมกับเปลี่ยนคอนโซลกลางใหม่ย้ายปุ่มควบคุมอุปกรณ์ให้อยู่สูงใกล้มือผู้ขับขี่มากขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มเครื่องเสียงที่มีระบบ MyLink ที่รองรับการใช้งานแอปพลิเคชันทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ผ่านสาย USB
โดยในรุ่น LTZ ยังเพิ่มความปลอดภัยอย่างระบบแจ้งเตือนสิ่งกีดขวางด้านหน้า, ระบบตรวจจับยานพาหนะในมุมอับสายตาของกระจกมองข้าง (Side Blind Zone Alert ) และระบบ Rear Cross-Traffic ซึ่งสามารถตรวจจับยานพาหนะที่วิ่งผ่านด้านหลังขณะถอยออกจากมุมอับได้ โดยมีการปรับรุ่นปีดังนี้
- พ.ศ. 2559 มีการเปิดตัวพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการ มีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ 2.0 LTZ VCDi ขับเคลื่อนล้อหน้า
- พ.ศ. 2560 มีการเพิ่มสีใหม่ สีขาวมุก Abalone White และ สีดำเมทัลลิก Black Meet Kettle Metallic